กะเหรี่ยงบางกลอยพอใจคุยธรรมนัส แต่ยังกังขา ‘จะไปต่อแบบไหน’ ?
เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คณะกรรมการอิสระเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและแก้ไขปัญหาชุมชนกะเหรี่ยงบางกลอย หมู่ที่ 1 ต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี นัดหมายประชุมครั้งที่ 1/2567 โดยมีร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน ขณะที่ขบวนการประชาชนเพื่ออสังคมที่เป็นธรรม หรือ พีมูฟ ได้ปักหลักชุมนุมอยู่ที่ทำเนียบรัฐบาลเป็นวันที่ 5
นายจตุพร เทียรมา กรรมการอิสระ กล่าวว่า บรรยากาศการประชุมเป็นไปได้ด้วยดี โดยมีวาระว่าด้วยการหาแนวทางแก้ไขปัญหาคดีความของชาวกะเหรี่ยงบางกลอย 28 คน และความคืบหน้าตามมติคณะกรรมการอิสระฯ ชุดเดิม ที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ได้ลงนามรับรองมอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตั้งคณะทำงาน 3 ฝ่าย ประกอบด้วย 1. ผู้แทนชาวกะเหรี่ยงบางกลอยที่ประสงค์จะกลับขึ้นไปดำรงชีวิตด้วยการทำไร่หมุนเวียนที่บ้านบางกลอยบน 2. กรรมการอิสระ และ 3. ผู้แทนกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะเป็นคณะทำงานที่หาแนวทางให้กลุ่มบางกลอยคืนถิ่นสามารถกลับขึ้นไปทดลองทำกินในรูปแบบไร่หมุนเวียนที่บ้านบางกลอยบนได้เบื้องต้น 5 ปี พร้อมกับการศึกษาวิจัยผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ในด้านคดีความ ร้อยเอกธรรมนัสได้มอบหมาย ชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ อดีตปลัดกระทรวงยุติธรรม รองประธานคณะกรรมการอิสระฯ ประสานข้อมูลกับหน่วยงานต่างๆ เพื่ออำนายความเป็นธรรมแก่ชาวบางกลอยในลำดับต่อไป
ส่วนประเด็นการตั้งคณะทำงาน 3 ฝ่าย พบปัญหาว่ากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ดำเนินการแต่งตั้งคณะทำงานแล้ว แต่สัดส่วนของคณะทำงานไม่เป็นไปตามมติคณะกรรมการอิสระฯ ชุดก่อนที่พลเอกประยุทธ์ลงนามรับรอง โดยพบว่ามีสัดส่วนของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมากกว่าครึ่ง มีผู้แทนกรรมการอิสระฯ 5 คน ส่วนตัวแทนชาวบ้านถูกบิดพลิ้วกลายเป็นเพียง ‘ผู้แทนชาวกะเหรี่ยง‘ ที่ประกอบด้วยชาวบางกลอยเพียง 1 คน นอกจากนั้นเป็นชาวบ้านโป่งลึกและผู้นำท้องถิ่น ท้องที่ ซึ่งมิได้ประสงค์จะกลับขึ้นไปทำไร่หมุนเวียนที่บ้านบางกลอยบน
นายจตุพรกล่าวว่า ร้อยเอกธรรมนัสได้มอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการดำเนินการยกร่างคำสั่งคณะทำงาน 3 ฝ่ายขึ้นใหม่ โดยผู้แทนชุมชนต้องเป็นชาวบ้านที่ประสงค์จะกลับขึ้นไปที่บางกลอยบนเท่านั้น สัดส่วนให้มีภาคส่วนละ 5 คน และให้อำนาจหน้าที่เป็นไปตามบทสรุปของคณะกรรมการอิสระฯ ชุดเดิม อย่างไรก็ตามจตุพรมองว่ายังมีข้อท้าทายคือเงื่อนเวลาของการทำไร่หมุนเวียนที่อาจไม่ทันฤดูกาลเพาะปลูกในปีนี้
“ข้อกังขาคือจะไปต่อแบบไหน เพราะหากกระทรวงทรัพยากรฯ จริงใจ ก็ควรรีบให้ชาวบ้านไปทำไร่หมุนเวียนได้แล้ว ตามปรกติของปฏิทินไร่หมุนเวียนคือต้องเริ่มฟันไร่ตั้วแต่วันนี้แล้ว นี่กลางเดือน ก.พ. แล้ว เดี๋ยวฝนจะตกแล้ว สำหรับผมคือมันจะต่อหลังจากนี้ ในเมื่อชาวบ้านก็จะยังทำไร่หมุนเวียนไม่ทันในปีนี้” จตุพรกล่าว
ด้าน นายพงษ์ศักดิ์ ต้นน้ำเพชร กลุ่มบางกลอยคืนถิ่น กล่าวว่า เรื่องคณะทำงาน 3 ฝ่าย ถ้าเป็นไปได้ตามที่ร้อยเอกธรรมนัสเสนอก็ดี คือให้ฝ่ายเลขานุการไปยกร่างคำสั่งใหม่ ปรับสัดส่วนให้สมดุล และตัวแทนชาวบ้านให้เป็นชาวกะเหรี่ยงบางกลอยที่ประสงค์จะกลับไปทำไร่หมุนเวียนที่บางกลอยบนเท่านั้น ซึ่งจะเป็นไปตามมติคณะกรรมการอิสระฯ ชุดเก่าที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นรับรองแล้ว
อย่างไรก็ตามเมื่อตั้งคณะทำงานได้แล้วอยากให้เร่งรัดการประชุมอย่างรวดเร็ว อยากให้ท่านรัฐมนตรีพัชรวาท วงษ์สุวรรณ เร่งลงนาม แล้วเปิดประชุมให้เร็วที่สุด
“ปีนี้น่าจะกลับไปทำไร่ไม่ทันแล้วเนื่องจากเลยฤดูกาลเพาะปลูก จึงควรดำเนินการสพรวจพื้นที่และหาแนวทางให้ชาวบ้านกลับขึ้นไปให้แล้วเสร็จภายในปีนี้” นายพงษ์ศักดิ์กล่าว