ศูนย์ทนายฯ กางสถิติ กว่า 3 ปี เยาวชนและประชาชนถูกดำเนินคดี ม.112 อย่างก้าวกระโดด 586% ชี้นิรโทษกรรม คือทางออก
เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ห้องประชุมอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา แยกคอกวัว เขตพระนคร กรุงเทพฯ โครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน หรือไอลอว์ จัดกิจกรรม ‘คดีหยุมหยิม นิรโทษกรรมเท่าที่ได้ก่อนดีไหม?’ โดยมีเสวนา หัวข้อ ‘ภาพรวมปัญหาการดำเนินคดีทางการเมือง ข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ต่อผู้ชุมนุมทางการเมือง’ ผู้ร่วมเสวนา ได้แก่ นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้อำนวยการไอลอว์, นายอัครชัย ชัยมณีการเกษ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน และ น.ส.กตัญญู หมื่นคำเรือง จำเลยข้อหามาตรา 116 และมี น.ส.กรรณิการ์ กิจติเวชกุล ดำเนินรายการ
โดย นายอัครชัย ชัยมณีการเกษ จากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า การตั้งข้อสังเกตแรก คือประเทศไทยยังอยู่ในวิกฤตสิทธิและเสรีภาพในการแสดงออกและการชุมนุม
“อยากจะมาชวนดูสถิติที่เกิดตั้งแต่ปี 2563 โดยย้อนในปี 2557 เกิดรัฐประหารขึ้น ซึ่งตรงกับปีที่มีการก่อตั้งศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เฉลี่ยแล้วในแต่ละปีองค์กรของเรา จะช่วยเหลือคดีความด้านกฎหมายเฉลี่ยปีละ 30-40 คดี
ตั้งแต่ปี 2556-2564 กลายเป็น 200 คดีต่อปี ในปี 2565 มากกว่า 800 คดีต่อปี มีการขึ้นตัวเลขอย่างมีนัยยะสำคัญ หากเรามองในมุมมองของต่างประเทศซึ่งถือว่าไม่ปกติแล้วแน่นอน
ตั้งแต่เดือนมกราคม 2564-มกราคม 2567 เราจะเห็นได้ว่ามีการดำเนินคดีกับประชาชนเพียง 183 คดี แต่ในต้นเดือนมกราคม 2567 มีคดี 1,268 คดี หรือว่าจำนวน 593%” นายอัครชัยกล่าว
นายอัครชัยกล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันคดีที่อยู่ในชั้นสอบสวน 822 คดี นับเป็น 1,400 คน ปัจจุบันเยาวชนทั่วไปยังต้องถูกดำเนินคดี ต้องไปศาล เนื่องจากออกมาใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออก ในคดีมาตรา 112 โดยเฉพาะจะเห็นได้ว่าการขึ้นสถิติมีการขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญด้วยกัน ในเดือนมกราคม 2564 มีประชาชนที่ถูกดำเนินคดี 42 คน แต่เดือนมกราคม 2567 เป็นจำนวน 288 คน กระโดดมากว่า 586%
“ในความน่าสนใจ ในเดือนมกราคม 2564 มีประชาชนที่ถูกดำเนินคดี 42 คน แต่เดือนมกราคม 2567 เป็นจำนวน 288 คน กระโดดมากว่า 586% ในข้อมูลที่น่าสนใจก็คือ ทุกคดีตำรวจจะส่งให้อัยการและอัยการจะต้องตัดสินใจว่าคดีนี้จะสั่งฟ้องหรือไม่ อัยการสั่งฟ้องทุกสำนวนตั้งแต่ปี 2563 ยังไม่มีคดีไหนที่ไม่ถูกสั่งฟ้องเลยสักคดีในภายใต้คดีมาตรา 112” นายอัครชัยกล่าว
นายอัครชัยกล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันนี้ยังมีประชาชนที่ถูกฟ้องอยู่ในศาลชั้นต้น มากกว่า 70 คน ที่อยู่ในศาลอุทธรณ์ และมากกว่า 25 คน ที่คดีอยู่ในศาลฎีกา แสดงว่าประชาชนจำนวนหลายคนที่ยังถูกดำเนินคดีมาตรา 112 ปัญหายังไม่หมดไป
ตั้งแต่เดือนกันยายน 2566 ยังมีคดีที่ถูกดำเนินการทางการเมืองเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็นจำนวนมาก ในหลายๆ การกระทำของจำเลยที่เข้าร่วมชุมชน และการใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออก เป็นช่วงที่ศาลกำลังออกคำพิพากษา ศาลเริ่มมีคำตัดสินแล้ว แสดงว่าปี 2567 จะมีประชาชนถูกส่งจำคุกในเรือนจำมากขึ้นในปีนี้ ดังนั้น ปัญหามันยังไม่หมดไป ถึงแม้ตัวเลขผู้ถูกกล่าวหาจะไม่เยอะเหมือนเมื่อก่อน แต่คดีจะถูกตัดสินมากขึ้นในปีนี้
“เรากำลังพูดถึงชีวิตของคน อาทิ นายอานนท์ นำภา หรือทนายอานนท์ ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ซึ่งตั้งแต่ทนายอานนท์ได้ออกมาใช้สิทธิในการแสดงออกก็ถูกจำคุกภายใต้มาตรา 112 แล้ว 2 คดี ในปัจจุบัน ซึ่งถูกจำคุกกว่า 8 ปี และยังเหลืออีก 12 คดีภายใต้มาตรา 112 ที่ศาลยังไม่มีคำวินิจฉัยออกมา
และนายมงคล ถิระโคตร หรือบัสบาส ล่าสุดก็มีข่าว การที่นักกิจกรรมคนนี้จำคุกจากศาลอุทธรณ์ ภาค 5 ยาวถึง 50 ปี ภายใต้มาตรา 112 นี่คือประวัติศาสตร์เลยก็ว่าได้ เพราะว่า เป็นการจำคุกคดีมาตรา 112 ที่ยาวนานที่สุดตั้งแต่เคยมีมา ซึ่งเป็นคดีที่ทางสื่อโลกให้ความสนใจ
การดำเนินคดีทางการเมืองก็ไม่ได้ละเว้นเด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี เยาวชนมากกว่า 288 คน ใน 217 คดี ได้ถูกดำเนินคดีเรียบร้อยแล้ว หลังจากได้ออกมาแสดงความคิดเห็นทางการเมือง และเสรีภาพในการแสดงออก ณ ปัจจุบันเยาวชนอย่างน้อย 20 คน ถูกดำเนินคดีภายใต้มาตรา 112 และ 2 รายที่ถูกคุมขังอยู่ที่สถานพินิจ เนื่องจากถูกดำเนินคดีภายใต้มาตรา 112” นายอัครชัยกล่าว
นายอัครชัยกล่าวอีกว่า ณ ตอนนี้คือจังหวะที่ดีที่ประเทศไทยจะกลับหันมามอง หาทางออกด้วยกัน ซึ่งเราคิดว่ากฎหมาย พ.ร.บ.นิรโทษกรรมประชาชนคือทางออกที่ดี
“ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งเวทีของ UN ในเดือนตุลาคม 2567 ผมอยากจะเชิญชวนรัฐไทยให้กฎหมายร่างนิรโทษกรรมเป็นการจริงใจต่อเวทีโลก มากกว่าการที่คุณลงรับเลือกตั้งเข้าไปเป็นสมาชิกคณะรัฐมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ คุณแสดงความจริงใจที่คุณจะรักษา คุ้มครอง ด้วยการออกกฎหมายนิรโทษกรรม” นายอัครชัยกล่าว
เมื่อถามว่า อะไรคือปัญหาที่ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนเห็น และประชาชนคนทั่วไปไม่เห็น เพียงแค่เห็นเพียงสถิติที่กล่าวมา
นายอัครชัยกล่าวว่า กระบวนการยุติธรรมในบริบททางการเมือง จากการช่วยเหลือที่ผ่านมา ตั้งแต่ขั้นตอนการจับกุม การคุมขัง และดำเนินคดี มีปัญหาทุกขั้นตอน ยกตัวอย่างขั้นตอนการพิจารณาคดีหลายๆ ครั้งเราตั้งข้อสังเกตว่าความสามารถของจำเลย เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์
“จะเห็นได้ว่าในชั้นพิจารณาคดี ความสามารถของจำเลยในการต่อสู้เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ เราจะให้โอกาสเขาต่อสู้ในชั้นพิจารณาคดีอย่างเต็มที่ได้หรือไม่ ซึ่งในประสบการณ์จำเลยยังไม่ได้รับความสามารถนั้นอย่างเต็มที่” นายอัครชัยกล่าว