ตะวัน โผล่ศาลอาญา ให้กำลังใจนักข่าวประชาไท พร้อมถูกจับ คดีขบวนเสด็จ

ตะวัน โผล่ศาลอาญา ให้กำลังใจนักข่าวประชาไท พร้อมถูกจับคดีม.116 หากศาลอนุมัติ

เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือตะวัน และนายณัฐนนท์ ไชยมหาบุตร 2 บุคคลที่กระทำความผิดมีพฤติกรรมเกี่ยวกับขบวนเสด็จ อยู่ระหว่างการขอหมายจับ ในความผิด 3 ข้อหา คือ 1.ดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำตามหน้าที่ 2.ก่อความเดือดร้อนรำคาญ 3.ม.116 ยุยง ปลุกปั่น เดินทางมาเพื่อให้กำลังใจนักข่าวประชาไทและช่างภาพอิสระ ที่พนักงานสอบสวนคุมตัวมาฝากขัง หลังถูกดำเนินคดีในข้อกล่าวหาสนับสนุนการทำให้โบราณสถานเสียหาย จากการลงพื้นที่ทำข่าวเหตุการณ์ที่กำแพงวัดพระแก้ว วันที่ 28 มี.ค.66

ซึ่งตลอดช่วงสายที่ น.ส.ทานตะวันอยู่ที่ศาลอาญา จะนั่งอยู่กับกลุ่มเพื่อนบริเวณบันไดศาล และบริเวณริมขอบถนนทางเดินของศาล โดยมีมวลชนที่สนับสนุน น.ส.ทานตะวันมากอดปลอบให้กำลังใจ ซึ่ง น.ส.ทานตะวันมีสีหน้านิ่ง ค่อนข้างเคร่งเครียด และรวมตัวอยู่กับกลุ่มเพื่อนตลอดเวลา

นอกจากนี้ยังพบว่า สายน้ำ นักกิจกรรมทางการเมือง ซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่มีหมายจับในคดีทำให้โบราณสถานเสียหายของ สน.พระราชวัง ก็มานั่งรวมอยู่ในกลุ่มด้วยเช่นกัน

ซึ่งช่วงหนึ่งสายน้ำตะโกนออกมาขณะที่นั่งอยู่บริเวณหน้าศาลว่า “จะจับก็มาเลยพี่ พวกผมไม่ได้หนี และมาแสดงตัวให้เห็นแล้วที่ศาล”

ADVERTISMENT

จากนั้นสายน้ำให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ตั้งใจมาแสดงตัวตามหมายจับ ไม่มีความกังวลอะไร และไม่ได้หนีไปไหน และตนเองพึ่งได้รับแจ้งจากทนายความว่า ตำรวจได้เข้าไปตรวจค้นที่บ้านของตนเองและบ้านของญาติด้วย

ขณะที่ น.ส.ทานตะวัน บอกด้วยว่า วันนี้ตั้งใจเดินทางมาให้กำลังใจเพื่อนนักข่าวที่ถูกจับกุม และพึ่งมาทราบว่าตนเองก็กำลังจะมีหมายจับ ดังนั้น ก็จะไม่หนี ไม่กลัว หากจะจับก็มาที่ศาลอาญา ถนนรัชดาได้เลย จะรออยู่ที่นี่ พร้อมมองด้วยว่า ก่อนหน้านี้มีการออกหมายเรียกแค่สร้างความเดือดร้อนรำคาญ เป็นความผิดลหุโทษ จ่ายค่าปรับก็จบ แต่วันนี้ไม่ทราบว่าจะมีการยัดข้อหาอะไรให้ตนเองบ้าง รวมถึงไม่ทราบว่าจะมีหมายจับกี่ใบ

ส่วนประเด็นที่จะมีการเพิกถอนการประกันตัวของ 3 สน.นั้น ยอมรับว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกะทันหัน ยังไม่ทันตั้งตัว และไม่ได้คิดว่าจะสู้ต่อไปอย่างไร แต่ยืนยันว่าจะสู้ต่อไปแน่นอน

น.ส.ทานตะวัน ยังบอกอีกว่า กรณีที่มีความพยายามที่จะปลุกปั่นว่ามีคนอยู่เบื้องหลังปลุกเยาวชน ซึ่งตนเองยืนยันว่าไม่มีใครและกลุ่มใดอยู่เบื้องหลังใดๆ ทั้งสิ้น เพราะพวกตนเองมีแต่อุดมการณ์ และออกมาด้วยใจล้วน เพื่อเป็นการตั้งคำถามในการยืนยันสิทธิและเสรีภาพ และมองว่าปัจจุบันคนไทยกำลังตกเป็นเหยื่อไอโอจากภาครัฐ ส่วนที่มีการพยายามโยงพรรคการเมืองมาถึงกลุ่มพวกตนเองนั้น ยืนยันว่าไม่มีพรรคการเมืองใดๆ เช่นเดียวกัน

ส่วนมองอย่างไรบ้างที่เหมือนมีการพยายามปลุกปั่นฝั่งขวาขึ้นมาหรือไม่นั้น ส่วนตัวไม่ได้กังวล และไม่ได้กลัวอะไร เพราะยืนยันในจุดยืนเดิม แต่ขออย่าถอยหลังกลับไปในปี 2519 และขออย่าตกเป็นเหยื่อของขบวนการไอโอ

ขณะที่การดูแลความปลอดภัยบริเวณหน้าศาลอาญา มีตำรวจศาลและเจ้าหน้าที่ รปภ.ของศาล กระจายกำลัง คอยสังเกตุการณ์และดูแลความสงบเรียบร้อย