แอมเนสตี้ ชี้ ออกหมายจับ ‘นักข่าว-ช่างภาพ’ สั่นคลอนเสรีภาพสื่อ
จากกรณีที่ผู้สื่อข่าวประชาไท-ช่างภาพอิสระถูกจับกุม วันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เนื่องจากการรายงานข่าวนักกิจกรรมพ่นสีกำแพงวัง เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2566
ล่าสุด เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ นางปิยนุช โคตรสาร ผู้อำนวยการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทยเผยว่า การจับกุมนักข่าวในประเทศไทยเมื่อเร็วๆ นี้ถือเป็นการละเมิดเสรีภาพของสื่อโดยตรง และทำลายหลักการสำคัญของสิทธิมนุษยชน
นางปิยนุชกล่าวว่า ทุกวันนี้ทวีปเอเชียถูกจัดอันดับว่าเป็นทวีปที่มีจำนวนนักข่าวถูกจำคุกมากที่สุดในโลก ซึ่งการกระทำของประเทศไทยในครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำถึงความเลวร้ายของสถานการณ์การละเมิดสิทธิในทวีปเอเชียอย่างชัดเจนมากที่สุดทั่วโลก
“ความพยายามของรัฐบาลในการแจ้งข้อกล่าวหา ไม่เพียงแต่เป็นการจำกัดการส่งต่อข้อมูลข่าวสารเท่านั้น แต่เป็นการทำลายความหลากหลายและความอดทนอดกลั้นต่อผู้เห็นต่างในสังคม ซึ่งชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลกำลังตราหน้านักข่าวว่าเป็นอาชญากรหรือเป็นฝ่ายตรงข้าม แทนที่จะมองว่าพวกเขาเหล่านั้นคือส่วนสำคัญในการเป็นกระบอกเสียงของผู้คนในสังคม การกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐในครั้งนี้จะนำไปสู่การสร้างวาทกรรมที่เป็นอันตรายต่อผู้เห็นต่างและทำลายหลักการความรับผิดรับชอบในสังคม”
นางปิยนุชย้ำในข้อเรียกร้องว่า “รัฐบาลจะต้องปล่อยตัวนักข่าวและช่างภาพที่ถูกดำเนินคดี ยุติการกระทำทั้งหมดที่เป็นการพยายามปิดปากทั้งคู่ เคารพเสรีภาพของสื่อโดยทันที รวมทั้งต้องให้หลักประกันในการคุ้มครองนักข่าวจากการถูกข่มขู่ คุกคาม ปฏิบัติตามหลักนิติรัฐโดยใช้กฎหมายที่ชอบธรรม และคืนความเป็นธรรมให้กับผู้ที่ถูกละเมิดสิทธิ
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ขอยืนหยัดเคียงข้างสื่อมวลชนในการทำงานเพื่อเปิดเผยข้อเท็จจริง และเป็นสักขีพยานต่อปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคม