ชูศักดิ์ ยัน พักโทษทักษิณ ไม่กระทบ รบ. ชี้เพื่อไทย เป็นปึกแผ่น ทำหน้าที่อย่างอิสระ วิจารณ์ได้แต่ให้อยู่ใน กม. รับเป็นศูนย์รวมจิตใจ ลั่น ไม่เชื่อว่ากลับไปเหมือนยุคเหลือง-แดง เพราะเงื่อนไขการเมืองเปลี่ยนแล้ว
เมื่อเวลา 09.40 น. วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา นายชูศักดิ์ ศิรินิล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงการตั้งข้อสังเกตการพักโทษของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะกลับมาเป็นศูนย์รวมอำนาจของการเมืองไทยอีกครั้งหนึ่งว่า น่าจะเป็นเรื่องการวิเคราะห์ของผู้ที่สนใจทางการเมือง โดยพิจารณาจากในอดีตที่ผ่านมา แต่ขณะนี้พรรค พท.เราเป็นปึกแผ่น มีผู้บริหาร หัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรค เราก็ทำหน้าที่ของเราไป และยืนยันว่าพรรค พท.ก็ทำหน้าที่ของเราด้วยความเต็มที่เป็นอิสระ
เมื่อถามว่า ได้มีการประเมินว่าการออกมาของนางทักษิณในครั้งนี้ จะมีปัจจัยกระทบทางการเมืองที่สะเทือนต่อรัฐบาลหรือพรรค พท.หรือไม่ นายชูศักดิ์กล่าวว่า ตนคิดว่ายังไม่ถึงขนาดนั้น ซึ่งรัฐบาลทำหน้าที่กันเป็นปึกแผ่นดี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ก็ทำงานเต็มที่ ขยันขันแข็ง คงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปในทางที่เขาวิเคราะห์กัน ให้รัฐบาลทำงานกันไป และนายทักษิณก็ทำหน้าที่ในฐานะประชาชน ซึ่งตนเข้าใจว่าท่านมีสิทธิที่จะวิพากษ์วิจารณ์การเมือง แต่ทั้งนี้พรรคการเมืองก็ทำหน้าที่กันไป
เมื่อถามว่า พรรค พท.มีการรับมือกับกลุ่มที่เห็นต่างกับการออกมาของนายทักษิณอย่างไรบ้าง นายชูศักดิ์กล่าวว่า เรามีจุดยืนว่าทุกอย่างจะสามารถวิพากษ์วิจารณ์กันได้ แต่ควรอยู่ในครรลองของกฎหมาย อยู่ในความสงบเรียบร้อยและไม่ทำอะไรให้เกิดความแตกแยกร้าวฉานไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรค พท.ที่ไม่นิยมความรุนแรง ไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม ไม่นำพาประเทศไปสู่ความเจริญก้าวหน้าและสันติสุข
เมื่อถามว่า จะกลับไปเหมือนยุคเหลืองแดงหรือไม่ นายชูศักดิ์กล่าวว่า ตนไม่เชื่อว่าจะเป็นถึงขนาดนั้น และปัจจุบันนี้เราเห็นว่ารัฐบาลประกอบด้วยหลายพรรค ซึ่งพรรคที่เคยเห็นไม่ตรงกันแต่ก็มาร่วมมือกันจัดตั้งรัฐบาล เพราะเงื่อนไขทางการเมืองเปลี่ยนแปลงไป โดยเงื่อนไขหรือปัจจัยไม่เหมือนเมื่อก่อน
เมื่อถามว่า การกลับมาของนายทักษิณที่จะทำให้พรรค พท.เข้มแข็งขึ้นหรือไม่ นายชูศักดิ์กล่าวว่า โดยประสบการณ์ ความรู้ความสามารถของนายทักษิณในอดีตที่ผ่านมาเราก็ทราบกันอยู่ และตนเชื่อว่านายทักษิณ เป็นคนที่มีความรู้ความสามารถเป็นบุคลากรของประเทศ ฉะนั้น ถ้านายทักษิณจะเสนอข้อแนะนำอะไรตนคิดว่าจะเป็นประโยชน์ จะเข้มแข็งขึ้น
“ต้องยอมรับว่านายทักษิณเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวเพื่อไทย ในประวัติของทั้งพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน นายทักษิณก็คือศูนย์รวมทางจิตใจ เหมือนเป็นกำลังใจให้พรรคเพื่อไทยด้วย แต่พรรคเพื่อไทยต้องเข้มแข็งยืนด้วยความรู้ความสามารถของบุคลากรที่มีอยู่ด้วย”
เมื่อถามว่า ทางพรรคได้ประเมินสถานการณ์อื่นไว้ด้วยหรือไม่ เพราะนายทักษิณยังมีมาตรา 112 ที่มีการอายัดตัวอยู่ นายชูศักดิ์กล่าวว่า ให้เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม จะเป็นอย่างไรก็เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ก็ว่ากันไป เราไม่ควรไปวิพากษ์วิจารณ์หรือเอาใจว่าอย่างนั้นอย่างนี้ ซึ่งที่ผ่านมาส่วนใหญ่เราก็วิจารณ์ แล้วเกิดความแตกแยกร้าวฉาน อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนบุคคลที่นายทักษิณมีทีมกฎหมาย และย้ำว่าเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม