สมาคมนักข่าวฯ เปิดตัวหนังสือ ‘เบื้องแรกประชาธิปตัย’ การเมืองยุค 2475-2500

เมื่อวันที่ 27 มกราคม สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย จัดเสวนาเปิดตัวหนังสือ “๒๔๗๕ เบื้องแรกประชาธิปตัย บทเรียนในสถานการณ์เปลี่ยนผ่าน” ทั้งนี้่ นายประจักษ์ ก้องกีรติ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) กล่าวว่า ที่ผ่านมา ใช้หนังสือเล่มนี้สอนนักศึกษาวิชาประวัติศาสตร์การเมืองไทย และบอกนักศึกษาว่า หากอยากเข้าใจการเมืองไทยให้อ่านหนังสือ 3 เล่ม คือ 1.ฤทธิ์มีดสั้น ที่มีบทสรุปว่า ไม่มีมิตรแท้ศัตรูถาวร 2.ก๊อดฟาเธอร์ มีการชิงไหวชิงพริบ หักเหลี่ยม เต็มไปด้วยเบื้องหลัง ไม่มีกติกา และ 3.เบื้องแรกประชาธิปตัย เป็นเอกสารชั้นต้น มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และไม่ตัดสินว่าใครถูกหรือผิด เนื่องจากเป็นบันทึกส่วนตัว ความคิดเห็นจากการสัมภาษณ์ เช่น สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี จอมพล ป.พิบูลสงคราม นายควง อภัยวงศ์ ฯลฯ ที่สะท้อนว่า ประวัติศาสตร์มีชีวิต ทุกเรื่องด่วนตัดสินไม่ได้ เพราะการเมืองซับซ้อน และว่า หนังสือเล่มนี้มีบทที่น่าอ่าน อาทิ บทสัมภาษณ์สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี เรื่องราวของ พล.ท.ประยูร ภมรมนตรี หรือกรณี พล.ต.ท.ชุมพล โลหะชาละ เล่าว่าหนีไปกับจอมพล ป. เป็นต้น

นายประจักษ์ กล่าวอีกว่า ประวัติศาสตร์การเมืองไทยที่สำคัญอยู่ในช่วงปี 2475-2500 แต่เป็นช่วงที่คนไทยเข้าใจน้อยที่สุด ซึ่งเนื้อหาอยู่ในหนังสือเล่มนี้ทั้งสิ้น

“ถ้าจะเข้าใจการเมืองไทยว่า เรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร ประวัติศาสตร์ช่วงที่สำคัญที่สุด คือ ปี 2475-2500 แต่จุดเปลี่ยนการเมืองไทยจริงๆ คือ การปฏิวัติของจอมพลสฤษดิ์ ปี 2500 เพราะเป็นการปิดฉากยุคคณะราษฎร กลายมาเป็นเผด็จการทหาร หนังสือเล่มนี้ สะท้อนความเป็นอนิจจังของการเมืองไทยว่า ไม่มีใครอยู่ในอำนาจได้นานถึง 30 ปี เหมือนในต่างประเทศ และพบว่า คนที่เรืองอำนาจที่สุดในหนังสือเล่มนี้ สุดท้ายบั้นปลายชีวิตก็ไม่ได้อยู่ในประเทศไทย ที่สำคัญยังชี้ว่า ที่ผ่านมา มีการแก้ปัญหาผิดทางมาตลอด ทุกครั้งที่เกิดวิกฤตทางการเมือง มักจะแก้ด้วยการเอาอำนาจนิยมมาแทนที่ เพราะเชื่อว่า อำนาจนิยมมาปรับปรุงประชาธิปไตย ซึ่งขัดแย้งในตัวเอง สุดท้ายเมื่อเผด็จการมาแทนที่ก็ยิ่งซ้ำเติมประชาชน จึงวนเวียนเป็นลักษณะวงจรอุบาทว์อย่างที่เห็น” นายประจักษ์ กล่าวและว่า การเมืองไทยเป็นเหมือนลูกตุ้ม เหวี่ยงไปมา ไม่มีใครครองอำนาจได้เบ็ดเสร็จ เพราะสังคมไทยไม่มีชนชั้นนำกลุ่มใดรวบอำนาจได้ต่อเนื่องยาวนาน และชนชั้นนำก็ไม่เป็นเอกภาพตั้งแต่อดีต เพราะมีหลายก๊ก แล้วหักหลังกันเอง เปลี่ยนข้าง การเมืองเปลี่ยนบ่อยทุก 4-5 ปี จนถึงทุกวันนี้ แต่ชนชั้นนำยังเป็นคนกำหนดทิศทางประเทศ ทั้งๆ ที่ไม่ควร แต่ควรให้ประชาชนเข้ามีส่วนร่วมกำหนดทิศทางประเทศแทน

“ขณะนี้เราอยู่ในยุคเซ็นเซอร์ตัวเอง เพราะไม่มีใครอยากติดคุก สุดท้ายคนที่เสียผลประโยชน์คือ ประชาชน ที่ไม่ได้รู้ข้อมูลข่าวสารที่หลากหลาย ถ้าเป็นอย่างนั้น ก็ปรองดองไม่ได้” นายประจักษ์ กล่าว

Advertisement

ด้านนายประกิต หลิมสกุล เจ้าของคอลัมน์ “กิเลน ประลองเชิง” หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ กล่าวว่า ทุกคนควรอ่านหนังสือเล่มนี้ เพราะเป็นเรื่องจริง ที่สะท้อนว่า ในหมู่มิตรก็กลับมาเป็นคู่ขัดแย้งกันได้ และว่า อ่านเล่มนี้ต้องใช้ความรู้สึกที่เป็นกลาง 20 เรื่องในหนังสือ เป็นข้อมูลตรง ไม่วิพากษ์ ไม่ด่า ไม่โน้มเอียง ถือเป็นต้นแบบคลาสสิคทางการเมืองที่สามารถนำมาเรียนรู้ได้ และสิ่งหนึ่งที่พบคือ อำนาจไม่ใช่ของจีรัง ถ้าไม่สุจริต ก็อยู่ไม่นาน

สำหรับ หนังสือเบื้องแรกประชาธิปตัย เล่มนี้รวบรวมโดยสมาคมนักข่าวฯ จัดพิมพ์ครั้งที่ 2 โดยสำนักพิมพ์มติชน โดยครั้งแรกตีพิมพ์ เมื่อปี 2516 เนื้อหาเป็นการบันทึกประวัติศาสตร์ ช่วงปี 2475–2500 จากปากคำของบุคคลสำคัญที่อยู่ในเหตุการณ์ขณะนั้น มีทั้งหมด 20 บท เช่น พระราชบันทึก ทรงเล่า โดยสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี, ปรีดี พนมยงค์ เรื่องการก่อตั้งคณะราษฎร, พระยาทรงสุรเดช เรื่อง การปฏิวัติ 24 มิ.ย.2475, ม.ร.ว.นิมิตรมงคล นวรัตน เรื่อง ชีวิต กบฏและการตั้งศาลพิเศษ, พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ เรื่อง การชิงอำนาจระหว่างผู้ก่อการ, พ.ต.ควง อภัยวงศ์ เรื่อง การเปลี่ยนรัฐบาล, จอมพล ป., น.ต.มนัส จารุภา เรื่อง เมื่อข้าพเจ้าจี้จอมพล เป็นต้น ทั้งนี้ หนังสือ 1 ชุด แบ่งเป็น 2 เล่ม ราคา 700 บาท วางจำหน่ายที่ร้านหนังสือในเครือมติชน ศูนย์หนังสือจุฬาฯ ร้านซีเอ็ด สำหรับผู้ที่เป็นสมาชิกสมาคมนักข่าวฯ สามารถซื้อได้ในราคาพิเศษ ชุดละ 600 บาท สอบถาม โทร.0 2668 9422

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image