ชลน่าน โต้โซเชียล ยาบ้า 5 เม็ดทำผู้ค้าคึกคัก คนเสพครึกครื้น ลั่นขายแค่ 1 เม็ดติดคุกหัวโต

“ชลน่าน” มั่นใจ ยาบ้า 5 เม็ด ได้ผล สกัดผู้ค้ารายย่อย โต้ “การค้าคึกคัก คนเสพครึกครื้น” แค่คำพูด ขายแค่ 1 เม็ดก็ไม่รอด “ติดคุกหัวโต”

เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีการล่ารายชื่อเพื่อให้มีการยกเลิกประกาศครอบครองปริมาณยาเสพติด ให้สันนิษฐานเป็นผู้เสพ เนื่องจากมีการกำหนดปริมาณครอบครองยาบ้า 5 เม็ด สันนิษฐานเป็นผู้เสพเป็นเรื่องไม่เหมาะสมว่า เราต้องดูว่าเหตุผลที่เขาให้มาคืออะไร เพราะประกาศฉบับนี้ออกตามกฎหมาย เราก็ต้องทำตามกฎหมาย และชี้แจงว่าประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นคืออะไร ผลเสียหากไม่มีประกาศนี้คืออะไร ซึ่งหากไม่มีการกำหนดปริมาณไว้ก็จะเป็นช่องว่าง แต่ถ้ากำหนดปริมาณไว้ เพื่อแยกคนเสพออกจากคนค้า แล้วนำเข้าสู่การบำบัดและคืนสู่สังคมก็จะแก้ปัญหาได้

“ปัจจุบันคนกลุ่มนี้มี 1,900,000 คน จะจัดการอย่างไรถ้าหากไม่เอาไปบำบัด จึงเป็นเหตุผลสำคัญ กฎหมายให้ไปกำหนดในกฎกระทรวงเพื่อนำคนเหล่านี้เข้าสู่การบำบัด เดิมก็มีเรื่องครอบครองยาบ้า 15 เม็ด ตอนนี้เราปรับลดมาในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อคืนโอกาสคนที่ติดแล้วไม่ให้กลับไปติดใหม่ได้” นพ.ชลน่านกล่าว

นพ.ชลน่านกล่าวว่า ส่วนพฤติกรรมการขายนั้น ไม่จำเป็นต้องกำหนด 5 เม็ดด้วยซ้ำ แค่ถือ 1 เม็ด เพื่อขายก็ถือว่าผิดแล้ว ยืนยันว่ากฎหมายนี้ออกมาแล้วได้ผลแน่นอน เรามั่นใจว่า มาตรการหลักของกฎหมายที่เขียนไว้และเป็นนโยบายรัฐบาลที่จะเปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย เพื่อสกัดผู้ค้ารายย่อย เพราะส่วนใหญ่ผู้ค้ารายย่อยจะเกิดจากผู้เสพ แล้วการกำหนดที่ 5 เม็ดนั้นผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการ และผ่านความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี ผ่านความเห็นชอบของกฤษฎีกา ถือว่ารอบคอบรอบด้าน ตนไม่ได้กำหนดเอง

Advertisement

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการเผยแพร่ผ่านโซเชียลมีเดียล้อว่า ประกาศดังกล่าวทำให้การซื้อขายคึกคัก คนเสพครึกครื้น นพ.ชลน่านกล่าวว่า นั่นเป็นเพียงคำพูด หากมีพฤติการณ์ หรือพฤติกรรมซื้อขายติดคุกแน่นอน เจ้าของร้านที่อยู่ในคลิปที่ปรากฏนั้นติดคุกหัวโตแน่นอนเพราะเป็นคนขาย ส่วนที่บอกว่าครึกครื้นนั้นก็เพียงเพื่อกลบเกลื่อน ส่วนคนที่ไปซื้อนั้นเราให้โอกาสคุณแล้ว หากไม่สมัครใจบำบัดก็จะต้องมีโทษตามกฎหมาย ต้องมีการติดคุก แต่หากสมัครใจก็ต้องเข้ารับการบำบัด เมื่อครบเกณฑ์การบำบัดแล้วก็ไม่ต้องรับโทษ

ลึกๆ เราต้องการตัดผู้ค้ารายย่อย ซึ่งผู้ค้ารายย่อยนั้นจะเริ่มจากการเสพ 1 เม็ด 3 เม็ดไปเรื่อยๆ จนมากขึ้นไม่มีเงินซื้อเลยแปลงเป็นผู้ค้ารายย่อย ดังนั้น เราจึงตัดวงจรแต่แรก” นพ.ชลน่านกล่าว

เมื่อถามว่า การบำบัดสามารถทำได้กี่ครั้ง เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่าสามารถบำบัดได้เพียง 1 ครั้ง หากกลับไปเสพซ้ำก็จะต้องรับโทษตามกฎหมาย นพ.ชลน่านกล่าวว่า กฎหมายไม่ได้ระบุว่าบำบัดได้กี่ครั้ง อยู่ที่ดุลพินิจ หากเขาตั้งใจสมัครใจบำบัดครั้งเดียวก็น่าจะสำเร็จ แต่พฤติกรรมต่างๆ บางครั้งก็ต้องอาศัยสิ่งแวดล้อมด้วย หากกลับไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ไม่เปลี่ยนเราก็ต้องตามไปดูว่าเกิดจากอะไร สมควรให้โอกาสคนคนนั้นหรือไม่ เพราะตามกฎหมายหากเขาสมัครใจเข้ารับการบำบัดอยู่ก็ยังได้สิทธินั้น แต่หากมีความตั้งใจที่จะกลับไปเสพซ้ำก็มีความผิด

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image