ชัยธวัช ย้ำสิทธิประกันตัว คดี 112 ต้องเท่าเทียม ยกอานนท์ เทียบทักษิณ เลือกปฏิบัติชัด

”ชัยธวัช“ ชี้ “แม้ว” ป่วยไม่ใช่เหตุผลได้พักโทษ ย้ำทุกคนต้องได้รับสิทธิเท่าเทียมรวมถึงคดีม.112 แนะเปิดข้อมูลการแพทย์ต่อสาธารณชนเรื่องจบ สังคมเลิกสงสัย ยันกก.พร้อมเกาะติดข้อมูลตรวจสอบเข้มข้น คู่ขนานนิรโทษกรรมคดีการเมือง

เมื่อเวลา 14.06 น. วันที่ 20 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา นายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่อธิบดีอัยการระบุถึงอาการป่วยของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าค่อนข้างวิกฤต จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าป่วยจริงหรือไม่ว่า ตนเข้าใจว่าอาการป่วยไม่ใช่เหตุผลสำคัญที่ทำให้ได้รับการประกันตัว แต่โดยพื้นฐานพรรคก้าวไกลให้การสนับสนุนการได้รับสิทธิขั้นพื้นฐานอยู่แล้ว จึงต้องสันนิษฐานว่าทุกคนบริสุทธิ์ ดังนั้น หากใครไม่ได้รับการประกันตัวต้องเป็นกรณียกเว้นจริงๆ เรื่องนี้จะต้องมีการปฏิบัติกันอย่างเท่าเทียมทางกฎหมาย และการได้รับการประกันตัว ควรเป็นเรื่องทั่วไปสำหรับทุกคน แม้แต่ผู้ที่ถูกกล่าวหาคดี 112 ด้วย

ส่วนอัยการคงไม่มีอำนาจมาวินิจฉัยเรื่องอาการป่วย เพราะต้องว่าตามเอกสารทางการแพทย์ที่จะไปเกี่ยวข้องกับเหตุผลที่นายทักษิณได้รับการพักโทษเป็นกรณีพิเศษ ตามเงื่อนไขหลักเกณฑ์ประกาศของกระทรวงในการพักโทษ ดังนั้น คนที่ให้คำตอบได้ไม่ใช่อัยการ แต่ต้องเป็นแพทย์ กรมราชทัณฑ์ ทางที่ดีที่สุดคนที่เกี่ยวข้องควรออกมาเปิดเผยข้อมูลว่านายทักษิณได้รับสิทธิโดยชอบแล้วอย่างไร หากหน่วยงานเกี่ยวข้องมั่นใจว่าเรื่องนี้ทำถูกต้องแล้ว และเปิดเผยเอกสารทางการแพทย์เรื่องนี้ก็จบ สังคมจะได้เลิกสงสัยไม่ตั้งคำถามกับรัฐบาล

“สถานการณ์ที่ผมคิดว่า เรื่องใหญ่คือการไปตอกย้ำความรู้สึกของคนไทยจำนวนมากที่รู้สึกว่าประเทศไทยมีปัญหาเรื่องกระบวนการยุติธรรมมีการปฏิบัติต่อประชาชนไม่เท่าเทียมกัน ในกระบวนการนิติรัฐ อภิสิทธิ์ชน ซึ่งเป็นเหตุหนึ่งของความขัดแย้งทางการเมืองในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา ที่ประชาชนออกมาต่อสู้เพื่อต้องการให้สังคมเป็นประชาธิปไตยจริงๆ ไม่ใช่กระบวนการยุติธรรมแบบสองมาตรฐาน วิธีใดที่คิดว่าจะเป็นการคืนความยุติธรรมให้กับนายทักษิณที่ไม่ได้รับความยุติธรรมจากอดีตที่ผ่านมา ไม่ควรจะเกิดขึ้นด้วยวิธีการตอกย้ำ ผลิตซ้ำความอยุติธรรมที่จะสร้างปัญหา”

Advertisement

เมื่อถามว่า หากรัฐบาลมีการเชิญนายทักษิณมานั่งที่ปรึกษาจะมีความเหมาะสมหรือไม่ นายชัยธวัชกล่าวว่า ตนคิดว่านายทักษิณก็มีสิทธิให้ความเห็นเหมือนประชาชนทั่วไป แต่ก็เป็นวิจารณญาณของรัฐบาล ส่วนจะมีอิทธิพลทางการเมืองหรือไม่นั้น ก็คงปฎิเสธไม่ได้ว่าบทบาทของนายทักษิณจะมีความสำคัญต่อแกนนำรัฐบาลปัจจุบัน สำหรับฝ่ายค้านก็จะติดตามข้อเท็จจริงว่ามีการใช้ดุลพินิจเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ และคงต้องผลักดันกระบวนการยุติธรรมไม่ควรจะได้รับแค่คนใดคนหนึ่ง แต่ควรคืนให้กับทุกคน ทุกฝ่ายที่ต้องคดีความที่มาจากความขัดแย้งทางการเมืองทึ่ผ่านมา

ต่อข้อถามว่า มีการตั้งคำถามถึงการทำงานของพรรคก้าวไกลที่ยังตรวจสอบได้ไม่เข้มข้นพอเมื่อเทียบกับเรื่องอื่นๆ นายชัยธวัชกล่าวว่า เดี๋ยวรอดู ตนบอกแล้วว่าเรื่องนี้อย่างไรก็ต้องทำ ในฐานะที่เป็นฝ่ายตรวจสอบ พร้อมๆ กับการผลักดันนิรโทษกรรมคดีทางการเมือง เพื่อคลี่คลายความขัดแย้ง ซึ่งตอนนี้พรรคก้าวไกลพูดทุกวันอยู่แล้ว ขอรวบรวมข้อเท็จจริงก่อน

เมื่อถามว่า สังคมมีการเปรียบเทียบคดีของนายทักษิณกับนายอานนท์ นำพา นักโทษคดี 112 ทางพรรคก้าวไกล มีความเห็นอย่างไร นายชัยธวัชกล่าวว่า อย่างที่กล่าวไว้ว่า เรื่องนี้เป็นการตอกย้ำการเลือกปฏิบัติในทางกฎหมาย และตอกย้ำระบบนิติรัฐที่รัฐบาลบอกว่า จะทำให้เข้มแข็ง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นมันทำลายความเชื่อถือของสังคมว่า รัฐบาลไม่ได้มีนิติรัฐสำหรับประชาชน แต่เป็นนิติรัฐแบบอภิสิทธิ์ชนที่เป็นต้นเหตุความขัดแย้งทางการเมืองที่ไม่ควรเกิดขึ้น

Advertisement

ส่วนความคืบหน้าของคณะกรรมาธิการนิรโทษกรรม จะมีการนำกรณีของนายทักษิณมาเป็นกรณีตัวอย่างหรือไม่ นายชัยธวัชกล่าวว่า ตนไม่แน่ใจ แต่จุดมุ่งหมายของการนิรโทษกรรมควรจะครอบคลุมคดีความที่เกึ่ยวข้องกับการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง หรือคดีเกี่ยวเนื่องจากความขัดแย้งทางการเมือง หากคดีใดก็ตามของนายทักษิณเกี่ยวข้องกับเรื่องเหล่านี้ก็ควรมีการนำมาพิจารณา เพราะไม่ได้ตั้งต้นที่ตัวบุคคล ส่วนคดีไหนที่ไม่เกี่ยวข้อง เช่น คดีการทุจริตคอร์รัปชั่นก็ไม่ได้อยู่ในขอบข่ายนี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image