พท.หนุน รบ.ลุยตลาดคาร์บอนเครดิต สร้างโอกาสเพิ่มรายได้เกษตรกร ลดกีดกันสินค้าส่งออก

พท.หนุน รบ.เดินหน้าตลาดคาร์บอนเครดิต สร้างโอกาสเพิ่มรายได้เกษตรกร ลดการกีดกันสินค้าส่งออก เตรียมพร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ นายรวี เล็กอุทัย ส.ส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประกาศวิสัยทัศน์ Thailand Vision ‘IGNITE THAILAND : จุดพลัง รวมใจ ไทยต้องเป็นหนึ่ง’ ว่า รัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทยได้ตั้งเป้าหมายการนำประเทศไทยไปสู่ศูนย์กลางทางการเงิน (Financial Hub) เปลี่ยนให้ไทยเป็น Financial Center of Southeast Asia ขับเคลื่อนโดยระบบการเงินที่แข็งแกร่ง ด้วยการดึงสถาบันการเงินระดับโลกเข้ามาลงทุน สร้างย่านการเงิน Wall Street ของอาเซียนให้เกิดขึ้นในประเทศไทย และพัฒนา Infrastructure รองรับระบบการเงินแห่งอนาคต ปลดล็อก Digital Asset ต่างๆ ให้สามารถแปลงเป็นผลผลิตในโลกแห่งความเป็นจริง รวมถึงเชื่อมต่อระหว่างสินทรัพย์ในโลกปัจจุบันให้มาอยู่บนโลกดิจิทัล โดยมีแนวทางที่จะพัฒนาระบบการเงินเพื่อความยั่งยืน Carbon Credit Trading ซึ่งเรื่องนี้ในอนาคตจะมีความสำคัญมากขึ้น จึงจำเป็นต้องมีหน่วยงาน กฎระเบียบรองรับการก้าวไปสู่ยุคการเงินสมัยใหม่

นายรวีกล่าวว่า การพัฒนาตลาดคาร์บอนเครดิต (Carbon Credit Trading) ควบคู่กับตลาดทุน จะเป็นส่วนสำคัญในการเพิ่มโอกาสทางรายได้ของเกษตรกรไทย ขณะเดียวกันจะมีส่วนช่วยลดการกีดกันสินค้าส่งออกไทยในอนาคต ทั้งนี้ การได้มาซึ่งคาร์บอนเครดิตมี 3 กลไกที่รัฐบาลมุ่งเน้นได้แก่

1.เพิ่มพื้นที่ป่าดูดกลับก๊าซคาร์บอน
2.ชดเชยการปล่อยก๊าซคาร์บอนด้วยคาร์บอนเครดิต
3.การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน เช่น การใช้พลังงานหมุนเวียน

Advertisement

โดยกลไกแรกเกษตรกรสามารถนำพื้นที่เพาะปลูกของตนเองที่ผ่านเกณฑ์รับรองเข้าร่วมโครงการคาร์บอนเครดิตและนำเครดิตไปขายในตลาดคาร์บอนเครดิต Carbon Credit Trading ซึ่งนับเป็นรายได้เสริมที่เกษตรกรสามารถทำได้โดยไม่กระทบกิจกรรมทางการเกษตรของตนเอง

นายรวีกล่าวอีกว่า กลไกคาร์บอนเครดิตจะช่วยให้ผู้ผลิตและส่งออกไทย สามารถเตรียมความพร้อมรับมือกับการกีดกันทางการค้าผ่านการปล่อยคาร์บอนที่เริ่มเกิดขึ้นแล้วในหลายๆ ประเทศแถบยุโรป โดยประเทศไทยมีความพร้อมและศักยภาพในการพัฒนาตลาดคาร์บอนเครดิต เนื่องจากพื้นที่การเพาะปลูกป่าคาร์บอนที่มีจำนวนมาก และมีหน่วยงานอย่างองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) ‘Thailand Greenhouse Gas Management Organization (Public Organization)’ รองรับ นอกจากจะเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจตามที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ตลาดคาร์บอนเครดิตจะมีส่วนช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวนำโลกในด้านความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image