ไพบูลย์ ยื่นหนังสือ พร้อมข้อกล่าวหาต่อ ดีเอสไอ เพื่อให้กระบวนการตรวจสอบรถหรูสมเด็จช่วงดำเนินต่อไปได้ และตัดข้อครหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ก่อนยื่นหนังสือให้ประธานผู้ตรวจการแผ่นดินตีความกฎหมายสงฆ์
นายไพบูลย์ นิติตะวัน ประธานปฏิรูปศาสนา ยื่นหนังสือร้องทุกข์ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ให้ตรวจสอบคดีที่สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือ สมเด็จช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช และประธานกรรมการมหาเถระสมาคม ครอบครองรถเบนซ์หรูจดประกอบ จำนวน 1 คัน มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท ที่ดีเอสไอดำเนินการตรวจสอบอยู่ตั้งแต่ปี 2556 แต่ยังไม่สามารถหาข้อยุติได้
นายไพบูลย์ กล่าวว่า ตัวเองเดินทางมาในฐานะผู้กล่าวหาดีเอสไอ เพื่อให้กระบวนการตรวจสอบดังกล่าวสามารถดำเนินต่อไปได้ เพราะตลอด 3 ปี ไม่มีการดำเนินการใดๆเลย
ทั้งนี้สมเด็จช่วง ซึ่งเป็นว่าที่พระสังฆราช สมควรที่จะต้องไม่มีคดีความค้างคาให้เป็นครหา ดังนั้นจึงขอให้ดีเอสไอเร่งพิจารณาคดีครอบครองรถหรูจดประกอบของสมเด็จช่วง ให้ได้ข้อยุติ ว่าเป็นรถหรูจดประกอบถูกต้องตามกฏหมายหรือไม่ พร้อมยืนยันไม่ได้ต้องการดิสเครดิตสมเด็จช่วง
ด้านพันตำรวจตรีวรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการบริหารสำนักคดีพิเศษ เป็นตัวแทนรับเรื่อง เพื่อนำเสนออธิบดีดีเอสไอ โดยระบุว่าที่ผ่านมาดีเอสไอดำเนินการตรวจสอบคดีรถหรูจดประกอบตามปกติ โดยแบ่งการตรวจสอบเป็น 2 กลุ่ม ซึ่งเร่งตรวจสอบกลุ่มที่มูลค่ารถมากกว่า 4 ล้านบาท จำนวน 500 คันก่อน จากนั้นจะเป็นกลุ่มที่มูลค่ารถต่ำกว่า 4 ล้านบาท จำนวน 5,000 คัน โดยรถของสมเด็จช่วงอยู่ในกลุ่มนี้ และจะต้องไล่ตรวจสอบเอกสารนำเข้าศุลกากรว่าเข้ามาถูกกฏหมายหรือไม่ จากนั้นจึงจะไปดูตัวรถ แต่เบื้องต้นตามเอกสารที่ปรากฏ แจ้งว่าเป็นรถที่เลิกใช้แล้ว พร้อมยืนยันการตวจสอบรถหรูของดีเอสไอไม่เกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชที่จะมีขึ้นเร็วๆ นี้ ขอให้ประชาชนแยกส่วนกัน
นายไพบูลย์กล่าวว่าพรุ่งนี้ เวลา 9.00 น. จะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อนายศรีราชา วงศารยางกูร ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อให้วินิจฉัยกฏหมาย มาตรา 7 ตาม พ.ร.บ.สงฆ์ พ.ศ.2535 ว่าขั้นตอนการเสนอชื่อสมเด็จพระสังฆราชควรจะเริ่มต้นที่หน่วยงานใด แต่ส่วนตัวเห็นว่าควรเริ่มต้นที่นายกรัฐมนตรี เสนอเรื่อง เพราะสำนักพุทธศาสนาถือเป็นหน่วยงานของรัฐ
นายไพบูลย์กล่าวว่า นอกจากนี้จะทำหนังสือสำเนาส่งให้นายสุวพันธ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนา ให้ชะลอการส่งชื่อว่าที่สมเด็จพระสังฆราชให้นายกรัฐมนตรีนำชื่อขึ้นทูลเกล้า แต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่ก่อน เพราะอาจเป็นการระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท และจะกลายเป็นความขัดแย้งในสังคมในที่สุด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ดีเอสไอส่งรถหรู 30 คัน คืนประเทศอังกฤษ หลังถูกโจรกรรม นำมาขายเมืองไทย เร่งตามอีก5
- ดีเอสไอลุยยึดเสื้อกีฬาทีมดัง แมนยู-ลิเวอร์พูล-อาร์เซนอล-แมนซิตี้ ละเมิดลิขสิทธิ์ 20,000 ชิ้น
- ดีเอสไอค้น15 จุด เครือข่ายเว็บพนัน ยึดเฟอร์รารี-กระเป๋าหรู-เงินสด-ทองคำหนัก1 พันบาท
- ดีเอสไอส่งสำนวน-ผู้ต้องหา14ราย คดีขายซิมการ์ด ใช้บัตรต่างด้าวลงทะเบียนผ่านแอพ์ดัง