‘ชัยธวัช’ เปิดเวทีถกปัญหาหมอกควัน PM 2.5 ที่เชียงใหม่ หลังนายกฯ ชูเป็นโมเดล

‘ชัยธวัช’ เปิดเวทีเสวนาผู้นำฝ่ายค้านพบประชาชนครั้งแรกที่เชียงใหม่ ถกปัญหาหมอกควัน PM 2.5 หลังนายกฯ ชูเป็นโมเดลแก้ปัญหาสำเร็จ

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 1 มีนาคม ที่โรงแรมดวงตะวัน จังหวัดเชียงใหม่ นายชัยธวัช ตุลาธน ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร จัดโครงการผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรพบประชาชน หัวข้อ ‘การรับฟังความเดือดร้อนของประชาชนอันเนื่องมาจากฝุ่น PM2.5 และมลพิษทางอากาศ’ โดยมีหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน นักศึกษา และประชาชน เข้าร่วมกว่า 200 คน

นายชัยธวัชกล่าวว่า วันนี้เป็นเวทีฝ่ายค้านพบประชาชนครั้งที่ 1 ในสมัยนี้ เลือกมาที่จังหวัดเชียงใหม่เพื่อเปิดเวทีเสวนาพูดคุยระหว่างฝ่ายการเมือง กับภาคประชาชน ประชาสมาคม และหน่วยราชการในพื้นที่ เรื่องการจัดการ PM2.5 เพราะรัฐบาลยกให้จังหวัดเชียงใหม่เป็นโมเดลในการจัดการเรื่องการเผา หมอกควัน และ PM2.5 ในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา แต่หลังจากนั้นสถานการณ์และตัวชี้วัดต่างๆ ก็แย่ลงเรื่อยๆ

Advertisement

การจัดเวทีเสวนาครั้งนี้จึงเป็นประโยชน์ในการพูดคุยและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน เพื่อติดตามสถานการณ์ว่าปัญหาหน้างานจริงๆ เป็นอย่างไร มองจากนโยบายระดับชาติลงมาถึงท้องถิ่นในความเป็นจริงแล้วเป็นอย่างไร เพื่อให้พรรคฝ่ายค้านมีข้อมูลไปผลักดัน ติดตามการจัดการปัญหา PM2.5 ที่เป็นวาระแห่งชาติมาตั้งแต่ปี 62 เพราะเมื่อดูตัวชี้วัดต่างๆ มองว่ายังไม่ประสบผลสำเร็จมากนัก

ทั้งนี้ พรรคฝ่ายค้านจะนำข้อเสนอมาแลกเปลี่ยนกับประชาชนและภาคส่วนต่างๆ ในพื้นที่ ว่าจะสามารถผลักดันและแก้ปัญหาร่วมกับประชาชน ทั้งในสภา และนอกสภาได้อย่างไร โดยหลังเสร็จสิ้นเวทีเสวนาในช่วงเช้า ช่วงบ่ายจะนำคณะเดินทางไปตรวจเยี่ยมและสอบถามข้อมูลจากศูนย์ปฏิบัติการไฟป่าเชียงใหม่ด้วย

Advertisement

นายชัยธวัชกล่าวอีกว่า การจัดการปัญหา PM2.5 มีหลายหน่วยงานและหลายกระทรวงเข้ามาเกี่ยวข้อง จึงต้องดูทั้งภาพรวม รวมถึงติดตามบทบาทการบริหารของนายกรัฐมนตรีในฐานะเจ้าภาพใหญ่ แม้ช่วงเดือนมกราคมจุดความร้อน หรือ Hotspot จะลดลงไปมาก แต่จะมองว่าแก้ปัญหาสำเร็จไม่ได้ เพราะปริมาณ Hotspot ในปี 66 สูงมาก หากเปรียบเทียบกับฐานที่สูงเพียงอย่างเดียว อาจไม่ได้เป็นปัจจัยชี้วัดความสำเร็จมากนัก

“ขณะที่ภาวะอากาศที่แห้งแล้งปีนี้ค่อนข้างล่าช้า เดือนมกราคมที่ผ่านมาอาจลดลงหากเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน แต่เมื่อเข้าสู่เดือนกุมภาพันธ์ Hotspot เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง” นายชัยธวัชกล่าว

เมื่อถามว่าสถานการณ์หมอกควัน และ PM2.5 ในปีนี้จะรุนแรงมากกว่าปี 66 ที่ผ่านมาหรือไม่ นายชัยธวัชบอกว่า ต้องดูอีกครั้งแต่สิ่งที่เห็นสถานการณ์ในเดือนมกราคมที่ดูเหมือนจะดีขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน แต่ปีที่แล้วต้องย้ำว่าสถานการณ์หนักหน่วงมาก ปีนี้เมื่อเข้าสู่เดือนกุมภาพันธ์สถานการณ์หมอกควัน และปริมาณ PM2.5 เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากบริหารจัดการไม่ดี ปัญหาก็จะต่อเนื่องไปถึงเดือนมีนาคมและเมษายนได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image