เพื่อไทยโดนด้วย !! อสส. เรียกเรืองไกรให้ข้อมูลเพิ่ม 18 มี.ค. หลังย่องยื่นยุบพรรค หาเสียงแก้ม.112

เพื่อไทยโดนด้วย !! อสส. เรียกเรืองไกรให้ข้อมูลเพิ่ม 18 มี.ค. หลังย่องยื่นยุบพรรค หาเสียงแก้ ม.112

วันที่ 8 มีนาคม นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ กมธ.งบประมาณ 67 สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ระบุว่า เมื่อวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ส่งหนังสือให้ตนไปให้ถ้อยคำ ในคำร้องขอให้ยุบพรรคเพื่อไทย เนื่องจากในการหาเสียงการเลือกตั้งที่ผ่านมาได้สนับสนุนการแก้ไข ป.อาญา มาตรา 112 ซึ่งถือเป็นพรรคที่ 2 ที่ตนยื่นเรื่องต่อจากพรรคก้าวไกล ซึ่งได้นัดจะไปให้ถ้อยคำในวันที่ 18 มีนาคมนี้

นายเรืองไกรกล่าวว่า หนังสือดังกล่าวระบุว่า ตามหนังสือที่อ้างถึงท่านได้ยื่นคำร้องขอให้อัยการสูงสุดร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย สั่งการให้พรรคเพื่อไทยเลิกใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เนื่องจากยังปรากฏพยานหลักฐานทางสื่อต่างๆ ที่อาจแสดงให้เห็นได้ว่า พรรคเพื่อไทยมีการกระทำในลักษณะที่เป็นการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์ การโฆษณา และการสื่อความหมายโดยวิธีอื่นเพื่อสนับสนุนให้มีการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่อาจจะนำไปสู่การยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ในลักษณะซึ่งไม่ใช่กระบวนการทางนิติบัญญัติโดยชอบนั้น

พนักงานอัยการ พิจารณาหนังสือของท่านแล้วประสงค์ให้ได้ข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานประกอบการพิจารณา อาศัยอำนาจตามมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติองค์กรอัยการและพนักงานอัยการ พ.ศ.2553 จึงขอเชิญให้ท่านมาให้ถ้อยคำพร้อมมอบพยานหลักฐาน (ถ้ามี) ต่อพนักงานอัยการ วันจันทร์ที่ 18 มีนาคม 2567 ณ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 3 สำนักงานอัยการสูงสุด อาคารถนนบรมราชชนนี ถนนบรมราชชนนี แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร หากท่านขัดข้องประการใดโปรดแจ้งให้พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 3 ทราบด้วย”

นายเรืองไกรระบุอีกว่า คำร้องดังกล่าว ตนยื่นต่อ อสส.เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยในกรณีพรรคก้าวไกล หาเสียงแก้มาตรา 112 ว่าเป็นการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จึงได้นำคำพิพากษาดังกล่าวมาเทียบเคียง ทั้งนี้ ไม่ว่า อสส.จะมีคำพิจารณาอย่างไร ก็ไม่ตัดสิทธิที่ตนจะร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อขอให้ยุติการกระทำดังกล่าว และหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไปในทิศทางเดียวกัน ก็เป็นเรื่องที่ กกต.ต้องยื่นยุบพรรคเพื่อไทยในอันดับต่อไป

ADVERTISMENT