ฝ่ายค้าน ยื่นเปิดซักฟอก ม.152 ชัยธวัชอุบประเด็น แต่ปล่อย รบ.บริหารไร้ประสิทธิภาพต่อไม่ได้

ฝ่ายค้าน ยื่นซักฟอก ม.152 ชี้หากปล่อย รบ.บริหารราชการไร้ประสิทธิภาพ-ไร้ความสามารถ-ไร้เป้าหมาย-ไร้จริยธรรม-ไร้วุฒิภาวะหวั่นกระทบต่อการฟื้นฟูประเทศ ด้าน ‘ชัยธวัช’ อุบประเด็น บอกรอฟัง ไม่เฉลยการบ้าน

เมื่อเวลา 10.10 น. วันที่ 13 มีนาคม ที่รัฐสภา พรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดย นายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร, นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราชและรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์, นายกฤดิทัช แสงธนโยธิน ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคใหม่, นายชัชวาล แพทยาไทย ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคไทยสร้างไทย, นายกัณวีร์ สืบแสงส.ส.บัญชีรายชื่อและเลขาธิการพรรคเป็นธรรม และ นายปรีดา บุญเพลิง ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคครูไทยเพื่อประชาชน ร่วมกันยื่นญัตติขอเปิดการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 ต่อ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร

นายชัยธวัชกล่าวว่า วันนี้พวกเราพรรคร่วมฝ่ายค้านทั้ง 5 พรรคได้ยื่นญัตติขออภิปรายตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 แก่ประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเนื้อหาของญัตติ ดังนี้

คณะมนตรีภายใต้การนำของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้บริหารราชการแผ่นดินมาเป็นเวลากว่าหกเดือนแล้วแต่มิได้ดำเนินการ หรือปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่ได้ให้ไว้กับประชาชน ไม่จริงใจ ไม่ตั้งใจเพิกเฉยต่อคำแถลงนโยบายของตนที่ได้ให้ไว้ต่อรัฐสภา ขาดประสิทธิภาพ หรือความชัดเจนแน่นอน ยังไม่ได้มีการขับเคลื่อนนโยบาย หรือแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม

Advertisement

นโยบายเร่งด่วนสวนทางกับความเป็นจริง การดำเนินการของรัฐบาลตามนโยบายเร่งด่วนที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา ไม่ว่าจะการแก้ปัญหาหนี้สินในภาคเกษตร ภาคธุรกิจ และภาคประชาชน การลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและการปรับเปลี่ยนโครงสร้างพลังงานของประเทศ การกระตุ้นเศรษฐกิจ การแก้ปัญหาความเห็นที่ต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญ รวมทั้งการฟื้นฟูหลักนิติธรรมที่เข้มแข็งมีประสิทธิภาพ โปร่งใส และเป็นที่ยอมรับจากนานาประเทศล้วนขาดยุทธศาสตร์และการปฏิบัติที่ตรงเป้าหมาย

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรียังมีพฤติกรรมที่ทำลายความเชื่อมั่นในการบริหารประเทศ รัฐบาลปล่อยปละละเลยให้มีกลุ่มผู้มีอิทธิพลเอารัดเอาเปรียบประชาชน ระบบราชการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ หรือเกิดการคอร์รัปชั่นเชิงนโยบาย แทนที่จะเร่งฟื้นฟูหลักนิติรัฐนิติธรรมกลับเกิดการเลือกปฏิบัติในกระบวนการยุติธรรม ทำลายหลักความเสมอภาค เท่าเทียมทางกฎหมาย และการไม่จริงใจต่อการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น การลดความเหลื่อมล้ำ การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐาน การปฏิรูปกองทัพ การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง ปัญหาการศึกษา และปัญหาสิ่งแวดล้อม การดำเนินการแก้ไขปัญหาอาชญากรรม ยาเสพติด และความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนมีความผิดพลาด ไร้ความสามารถในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อให้เกิดประโยชน์ การดำเนินนโยบายต่างประเทศยังไม่สามารถฟื้นฟูบทบาทสำคัญของประเทศไทยในเวทีโลกได้

Advertisement

หากปล่อยปละละเลยให้รัฐบาลบริหารราชการแผ่นดินอย่างไร้ประสิทธิภาพ ไร้ความสามารถ ไร้เป้าหมาย ไร้จริยธรรมและไร้วุฒิภาวะต่อไป จะส่งผลกระทบต่อการฟื้นฟูสภาวะทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ตามที่พี่น้องประชาชนคาดหวังจากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา

จากสถานการณ์ที่กล่าวถึงข้างต้นจึงจำเป็นที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในฐานะที่เป็นตัวแทนของปวงชนชาวไทย จะได้นำเสนอสภาพปัญหา ข้อเสนอแนะ และซักถามข้อเท็จจริงต่อคณะรัฐมนตรีในเรื่องดังกล่าว เพื่อประโยชน์ในการดำเนินนโยบายและแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชน

ดังนั้น ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไม่น้อยกว่าหนึ่งใน 10 ของจำนวนสมาชิกที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎรขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริงและเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรีโดยไม่ลงมติตามมาตรา 152

นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า ได้รับเรื่องดังกล่าวแล้ว จะส่งให้สำนักงานเลขาสภาผู้แทนราษฎรตรวจสอบรายชื่อและญัตติต่อไป ซึ่งคงไม่มีอะไร หลังจากนี้จะจัดให้มีการประชุมระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล พรรคฝ่ายค้าน และตัวแทนรัฐบาล เพื่อกำหนดวันที่ชัดเจนและเวลาที่อภิปราย ซึ่งการดำเนินการจะมีเวลากำกับ คาดว่าคงดำเนินการเสร็จสิ้นภายในต้นเดือน เม.ย.

เมื่อถามว่า 3 วันในการอภิปรายเป็นเวลาเหมาะสมหรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับการประชุม ขึ้นอยู่กับญัตติที่อภิปราย เวลาไม่ใช่เรื่องสำคัญ สำคัญที่สาระในการอภิปราย เพื่อประโยชน์ของทุกฝ่าย โดยเฉพาะประโยชน์ของพี่น้องประชาชน

ส่วนจะการันตีได้หรือไม่ว่ารัฐบาลจะมาตอบการอภิปราย นายวันมูหะมัดนอร์ระบุว่า เท่าที่ทราบอย่างไม่เป็นทางการทาง รัฐบาลอยากใช้เวลาในช่วงต้นเดือน เม.ย.เพื่ออธิบายให้เสร็จสิ้นก่อนจะปิดสมัยประชุมสภา เชื่อว่าคงไม่มีปัญหา เพราะรัฐบาลจะมาตอบอภิปรายทั่วไปของสมาชิกวุฒิสภาอยู่แล้ว วันที่ 25 มี.ค.

สำหรับความคาดหวังต่อรัฐบาลในการอภิปรายครั้งนี้ นายชัยธวัชกล่าวว่า แน่นอนเราหวังว่าจะเป็นการตรวจการบ้านครั้งสำคัญ หลังจากประชาชนคาดหวังมากว่าเมื่อมีการเลือกตั้งครั้งใหม่ หลังรัฐบาลจากการยึดอำนาจพ้นจากตำแหน่งแล้ว เมื่อเราเห็นว่า 6 เดือนที่ผ่านมา นโยบายของรัฐบาลไม่ได้เป็นไปตามความคาดหวังของประชาชน จึงหวังว่าการอภิปรายจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการบริหารราชการแผ่นดิน เพื่อไม่ให้ประเทศเสียโอกาส

นายชัยธวัชกล่าวยืนยันว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านมีความเต็มที่และมีกำลังใจ ทั้งนี้ การอภิปรายไม่ได้เกี่ยวข้องกับกรณี กกต.มีมติยื่นศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคก้าวไกล แต่ยิ่งต้องตั้งใจอย่างเต็มที่มากกว่าปกติ พร้อมย้ำว่า เป็นเรื่องของพรรคก้าวไกลพรรคเดียว ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคร่วมฝ่ายค้านพรรคอื่น พรรคก้าวไกลเองเตรียมต่อสู้ในกระบวนการทางกฎหมาย

เมื่อถามถึงประเด็นที่จะอภิปราย นายชัยธวัชระบุว่า “รอฟัง ไม่เฉลยการบ้าน” สำหรับข้ออ้างที่รัฐบาลยังไม่ได้ใช้งบประมาณนั้น มองว่าการบริหารราชการแผ่นดินไม่เกี่ยวข้องกับการใช้งบประมาณแผ่นดิน แน่นอนว่าการใช้งบประมาณสำคัญซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เรายังรอเวลาการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามมาตรา 151 ได้ หลังจากมีการใช้งบประมาณอย่างเต็มที่แล้ว แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นจากการบริหารประเทศภายใต้นายเศรษฐามีเรื่องสำคัญจำเป็นที่ต้องอภิปรายแน่นอน

นายชัยธวัชกล่าวว่า ส่วนจะรวมเรื่องนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตด้วยหรือไม่นั้น นโยบายเรือธงต่างๆ รวมถึงการฟื้นฟูเศรษฐกิจเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องอภิปรายแน่นอน ส่วนจะรวมประเด็นของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีด้วยหรือไม่นั้น “เดี๋ยวรอฟัง”

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image