“นายกฯ” ยันรัฐไม่แทรกแซงกฎหมายคุมสื่อ แต่ต้องการสร้างมาตรฐาน-จรรยาบรรณวิชาชีพ แจงการดำเนินการใดต้องมีมติร่วม รัฐบาลไม่มีสิทธิสั่งปิดสื่อ
เมื่อเวลา 14.10 น. วันที่ 31 มกราคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) กรณีสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) เสนอกฎหมายควบคุมสื่อและผลักดันตั้งสภาวิชาชีพว่า เรียกว่ากฎหมายคุมสื่อหรือ ตนว่าไม่ใช่ ส่วนในเรื่องสภาวิชาชีพขณะนี้ประเทศเราจำเป็นต้องมีการกำหนดมาตรฐานวิชาชีพทั้งหมดทุกอาชีพในประเทศไทย ไม่ใช่ใครทำอะไรก็ได้ทั้งหมด ซึ่งเราต้องมาดูว่าปัญหาอยู่ตรงไหน เพราะในองค์กรของท่านเองก็ควบคุมไม่ได้มากนัก เราไม่ได้ออกมาควบคุมเพื่อปิดกั้น เป็นการควบคุมเพื่อให้มีจรรยาบรรณ ท่านก็อ้างแต่จรรยาบรรณแล้วจรรยาบรรณคืออะไร คือการสื่อสารให้ประชาชนมีโอกาสที่จะเลือกรับฟัง ติดตาม และเชื่อถือ ซึ่งต้องมีข้อมูลที่สมดุลย์กันทั้งสองทาง ไม่ใช่เอียงข้างใดข้างหนึ่งตลอดเวลาอยู่แบบนี้ทำไม่ได้ มันทำให้ประเทศชาติเกิดความสับสนวุ่นวายประชาชนก็ขัดแย้งกัน รัฐบาล ข้าราชการก็ทำงานไม่ได้นั่นคือปัญหา และที่จะจัดตั้งขึ้นมานั้นสปท.เป็นคนเสนอมาเพราะเขามองเห็นถึงปัญหาว่าเราต้องปฏิรูปทั้งหมด ตนไม่ได้ไปสั่งเขา อีกทั้งเรื่องการปฏิรูปสื่อก็อยู่ใน 11 วาระการปฏิรูปด้วย
นายกฯ กล่าวว่า เราจะทำอย่างไรให้ทุกคนยอมรับได้โดยสปท.มีแนวคิดจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 13 คน ซึ่งมีข้าราชการ 4 คน และที่เหลือเป็นผู้แทนองค์กรสื่อและส่วนอื่นๆ ตนถามว่าคณะกรรมการที่ว่าจะสั่งการอย่างไรในเมื่อทุกคนเป็นตัวแทนของแต่ละฝ่ายอยู่ในคณะกรรมการนี้ ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้มีหน้าที่มอบหมายว่าทุกคนจะต้องทำอะไรบ้าง มีการตรวจสอบมาตรฐาน มีการฝึกอบรมให้ความรู้ต่างๆ ซึ่งคณะกรรมการจะเป็นผู้กำหนดมา เพียงแต่ทุกคนต้องไปผ่านมาตรฐานของเขา ไม่ได้คุมว่าไม่ให้นำเสนอข่าว ซึ่งอาชีพอื่นก็ถูกคุมเรื่องวิชาชีพเช่นกัน
นายกฯกล่าวต่อว่า อย่าไปกังวลว่ารัฐบาลไหนหรือรัฐบาลหน้าจะมาควบคุมเพราะท่านมีคนของท่านอยู่ในนั้น และในคณะกรรมการต้องมีมติร่วมว่าจะทำอะไรอย่างไร ซึ่งในส่วนของคณะกรรมการที่มีข้าราชการเพียง 4 คนจะสู้ส่วนอื่นที่ไม่ใช่ข้าราชที่มีถึง 8 คนได้อย่างไร แต่ไม่ใช่เสนอว่าไม่ต้องมี ดังนั้นเราต้องปฏิรูปทั้งหมดรวมถึงตนก็ต้องปฏิรูปตัวเองเหมือนกัน ปฏิรูปงานของรัฐบาล องค์กรต่างๆ ก็ต้องปฏิรูปตัวเองทั้งหมดให้เกิดการยอมรับและไว้เนื้อเชื่อใจ ลดความหวาดระแวง ลดปัญหาที่จะเป็นผลกระทบต่อการบริหารราชการแผ่นดินและผลกระทบที่จะส่งผลเสียต่อประเทศชาติ อย่าไปหวาดระแวงว่าจะถูกแกล้งปิดรัฐบาลจะสั่งปิด จะไปสั่งได้อย่างไร คณะกรรมการไม่ได้มีมติให้ปิด ถ้าปิดก็ต้องฟ้องร้องกัน มันก็มีวิธีการต่อสู้อยู่แล้ว รัฐไปแทรกแซงไม่ได้
