‘พันธุ์อาจ’ เปิดใจ สวมเสื้อ ‘ก้าวไกล’ ลงสู้ศึก อบจ.เชียงใหม่ ดันท้องถิ่นเข้มแข็ง แก้ฝุ่น-เพิ่มนักลงทุน
พรรคก้าวไกลเปิดเผยรายชื่อบุคคลที่พรรคจะส่งลงสมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงใหม่ คือ “นายพันธุ์อาจ ชัยรัตน์” อดีตผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ และกรรมาธิการวิสามัญพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือตอนล่าง 1 และเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือ โดยกรรมการบริหารพรรคก้าวไกลได้มีมติเป็นเอกฉันท์ เห็นชอบให้นายพันธุ์อาจผ่านการคัดเลือกเป็นผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่ ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
วันที่ 18 มีนาคม นายพันธุ์อาจให้สัมภาษณ์ กับ มติชนออนไลน์ ว่า มีน้องๆ คนรุ่นใหม่ ของพรรคก้าวไกล มาคุยว่า สนใจที่จะลงสมัคร นายก อบจ.ที่เชียงใหม่ไหม ตน ซึ่งมีความสนใจในเรื่องนี้อยู่แล้ว โดยทำเรื่องการเมืองท้องถิ่นมานาน ตั้งแต่ยังไม่ได้เป็นผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรม
“เมื่อเข้าไปเป็น ผอ.สำนักงานนวัตกรรมแล้ว ผมเป็นคนเข้าไปเซตเรื่องของเชียงใหม่ซิตี้แล็บ รวมทั้งนำงานด้านนวัตกรรม เข้าไปพัฒนาทั้ง จ.เชียงใหม่ และท้องที่อื่นอีกหลายจังหวัด ได้เรียน และรู้ งานของท้องถิ่นอย่างดี ปัญหาที่พบคือ ประชาชน รวยกระจุก จนกระจาย และผมเห็นว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัดนั้น มีศักยภาพที่จะทำงานหลายอย่าง สามารถทำโครงการ ที่เกี่ยวข้องกับด้านสังคม และเศรษฐกิจได้” นายพันธุ์อาจกล่าว
ว่าที่ผู้สมัคร อบจ.เชียงใหม่ พรรคก้าวไกล กล่าวอีกว่า คนส่วนใหญ่ยังเข้าใจผิดอยู่ว่า งานพัฒนา งานจัดการ โครงการใหญ่ๆ สำคัญๆ โดยเฉพาะโครงการที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหา สังคม เศรษฐกิจ ต้องมาจากรัฐบาลกลาง แต่จริงๆ แล้ว ส่วนท้องถิ่น อย่าง อบจ.ก็สามารถทำได้
“เชียงใหม่ เป็นจังหวัดที่มีปัญหาเยอะ นอกจากเรื่องฝุ่นแล้ว เราพบว่า ที่ผ่านมานั้น เชียงใหม่ไม่โตเลย ไม่มีเรื่องเศรษฐกิจใหม่เข้ามา ปัญหาด้านการเกษตร น้ำท่วม เชียงใหม่เป็นเมืองที่ต้องใช้องค์ความรู้ งานวิจัย นวัตกรรมที่เกี่ยวข้องเข้ามาใช้ เข้ามาทำงานให้เกิดประโยชน์ แต่ปรากฏว่า ไม่มีการทำเรื่องนี้ เวลานี้จึงพบว่า จ.เชียงใหม่ไม่ค่อยมีนักลงทุนหน้าใหม่ๆ เข้ามาลงทุนทำงานเลย” นายพันธุ์อาจกล่าว
เมื่อถามว่า มีแผนการหาเสียงในพื้นที่อย่างไรบ้าง นายพันธุ์อาจกล่าวว่า ต้องลงพื้นที่เยอะๆ ต้องสื่อสารกับประชาชน ทำให้รู้ว่า อบจ.นั้นมีความสำคัญ สามารถทำงานได้จริงตามนโยบายที่ประกาศเอาไว้
“ปัญหาของเชียงใหม่เวลานี้ มี 2 เรื่อง คือ เรื่องเร่งด่วน และเรื่องจำเป็นที่ต้องแก้ เรื่องเร่งด่วนก็คือ เรื่องฝุ่น ไฟป่า ซึ่งความจริงแล้วการแก้ปัญหาเรื่องนี้จะต้องทำงานตลอดทั้งปี ส่วนเรื่องที่ต้องทำคือ การแก้ปัญหาเชียงใหม่ไม่โต เป็นปัญหาหมักหมม และพึ่งพาเพียงเรื่องการท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว เครื่องจักรหายไปเกือบหมด จะต้องทำการกระตุ้นในเรื่องนี้ และต้องทำให้เป็นระบบเศรษฐกิจแบบยั่งยืน” นายพันธุ์อาจกล่าว
เมื่อถามว่า มั่นใจแค่ไหนกับการตัดสินใจลงสมัครในครั้งนี้ นายพันธุ์อาจกล่าวว่า ตัดสินใจแล้วก็ต้องมั่นใจ แม้ตนจะเป็นหน้าใหม่ทางการเมือง แต่ตอนอยู่ในระบบราชการก็ถือว่าเป็นการเมืองอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งตนก็ผ่านการเรียนรู้เรื่องนี้มากว่า 10 ปีแล้ว เป็นคนเชียงใหม่ อยากให้บ้านเรือนของตัวเองดีขึ้น
