เพื่อไทยพร้อมลุกแจง ฝ่ายค้าน-ส.ว.รอซักฟอกเรื่องทักษิณ ลั่นกำลังใจดีหายป่วยไว ไม่ใช่ยา

‘เพื่อไทย’ ไม่กังวล ‘ฝ่ายค้าน-ส.ว.’ ซักฟอก ม.152 เอี่ยว ‘ทักษิณ’ ขอทุกคนมูฟออน ไม่เช่นนั้นจะวนอยู่แบบนี้ ลั่น ยาไม่ได้ช่วยรักษา แต่เป็นกำลังใจต่างหาก

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 18 มีนาคม ที่รัฐสภา นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงการตั้งรับกรณี ส.ส.และ ส.ว.เตรียมจะอภิปรายอาการป่วยของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ไม่ได้ท้าเรื่องนี้ แต่ข้อเท็จจริงก็คือข้อเท็จจริง ดูจากหน้างาน วันนี้นายทักษิณเป็นบุคคลภายนอก หากมีการอภิปรายใส่ร้ายกัน หรืออภิปรายเรื่องส่วนตัวก็ถือว่าผิดข้อบังคับ ต้องประท้วงเพื่อชี้แจงกัน ทั้งนี้ ดีไม่ดีอาจเป็นความผิดที่นำไปสู่การฟ้องร้องกันได้

นายครูมานิตย์กล่าวต่อว่า วันนี้เราไม่มีการหารือกันเรื่องนี้ ปล่อยให้เป็นไปตามปกติ เพราะที่ผ่านมาตนเข้าใจว่าสังคมรับทราบ คนที่ไม่ยอมรับทราบก็คือคนไม่ยอมรับทราบ คนที่ยอมรับทราบก็คือคนที่ยอมทราบ ตนคิดว่าวันนี้มันไกลไปมากแล้วสำหรับอาการป่วยของนายทักษิณ เพราะท่านออกมาจากโรงพยาบาลได้ระยะเวลาหนึ่งแล้ว ตอนอยู่โรงพยาบาลก็มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันทุกวัน

“ยืนยันว่าไม่ได้หนักใจอะไร แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไปท้าทาย เพราะ ส.ส. โดยเฉพาะ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลก็ไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะไปท้าทาย ผมเชื่อว่ารัฐบาลภายใต้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมจะตอบทุกคำถาม และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ซึ่งรับผิดชอบกระทรวงยุติธรรมโดยตรง หลายครั้งก็มาตอบกระทู้สด และให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเรื่องนี้ ย้ำว่าไม่ได้กังวลอะไร” นายครูมานิตย์กล่าว

Advertisement

เมื่อถามว่า จะต้องมีทีมกฎหมายคอยดูเรื่องนี้โดยเฉพาะหรือไม่นั้น นายครูมานิตย์กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติ ไม่ถึงกับต้องตั้งวอร์รูม หรือไม่ต้องตั้งอะไร ทั้งนี้ นายชูศักดิ์ ศิรินิล ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรค พท. ก็เป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมายชั้นยอดของรัฐบาล พวกตนเองอ่อนประสบการณ์ ท่านที่นั่งอยู่ในสภาก็ผ่านประสบการณ์ คงจะวินิจฉัย หรือวิเคราะห์ได้ว่าอะไรใช่ อะไรไม่ใช่ อะไรถูก อะไรไม่ถูก คิดว่าไม่น่าจะหนักใจอะไรมาก

เมื่อถามว่า หากมีการอภิปรายเกินเลยจะต้องมีการฟ้องร้องกันหรือไม่ นายครูมานิตย์กล่าวว่า เป็นเรื่องของคู่กรณี ไม่ใช่พวกตนไปฟ้อง พวกตนมีหน้าที่ลุกขึ้นชี้แจงให้พี่น้องประชาชนเข้าใจในเรื่องข้อบังคับและรัฐธรรมนูญ รวมถึงข้อเท็จจริงในบางส่วน เพราะตาของเขากับตาของตนบางครั้งอาจมองกันคนละมุม เหมือนกับเลข 6 และ 9 ย้ำว่าการฟ้องร้องไม่ใช่หน้าที่ของพวกตน

เมื่อถามถึง การลงพื้นที่ของนายทักษิณ นายครูมานิตย์กล่าวว่า คงยังประเมินอะไรไม่ได้ ส่วนหนึ่งของคนที่รักนายทักษิณก็แห่ไปให้กำลังใจกันเป็นจำนวนมาก ไม่ใช่เฉพาะ จ.เชียงใหม่ หรือภาคเหนือ แม้แต่คนอีสานเอง ก็ยังยกขบวนกันไป เชื่อว่าเป็นความเป็นห่วงระหว่างนายทักษิณกับพี่น้องประชาชนที่มีความศรัทธาในตัวนายทักษิณ

Advertisement

“17 ปีไปอยู่ต่างประเทศ ถ้าไม่ใช่คนชื่อทักษิณ ชินวัตร พี่น้องประชาชนคนไทยคงลืม แต่นี่พิสูจน์ให้เห็นว่า 17 ปีมิได้จางหายเลย ฉะนั้น เป็นเรื่องปกติของความศรัทธา แต่เรื่องอย่างอื่นที่เกี่ยวกับกระบวนการทางการเมืองนั้นผมว่าวันนี้มันยังไกลไป เรื่องความศรัทธา ความรัก ผมเชื่อว่ายังคงมีเต็มเปี่ยมกับคนจำนวนไม่น้อยทีเดียวที่พิสูจน์ให้เห็นชัดว่าบางคนร้องไห้ บางคนน้ำตาไหล ก็ได้เห็นกัน” นายครูมานิตย์กล่าว

เมื่อถามว่า กรณีที่ยังมีคนตั้งข้อสังเกตว่าอาการของนายทักษิณหายดีเร็วเกินไป หรือไม่เชื่อว่านายทักษิณป่วย นายครูมานิตย์กล่าวว่า “แล้วแต่มุมมองของแต่ละคน แต่ท่านเชื่อผมเถอะว่า คนอายุ 75 ปี ผมเองอายุ 63 ปี สภาพร่างกายก็ยังไม่ค่อยปกติธรรมดา ฉะนั้น เป็นเรื่องปกติ แต่ก็แล้วแต่มุมมองที่สังคมมอง ถ้าคนที่ชอบท่านนายกฯทักษิณก็มองให้ความเป็นธรรม มองทุกสิ่งทุกอย่างเป็นธรรมชาติ แต่ถ้าคนที่ไม่ชอบถึงท่านจะนอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล ไม่เห็นหน้า ก็มีสิทธิวิพากษ์วิจารณ์ไปในทางลบ เป็นเรื่องปกติไปเสียแล้ว พูดจากความที่เป็นคนไทยคนหนึ่ง แม้แต่อาจารย์ชูศักดิ์วันนี้เดินมาก็ไม่ได้จะสมบูรณ์ ไม่เหมือนกับตอนหนุ่มๆ ที่ไหน”

เมื่อถามย้ำว่า อะไรที่ทำให้นายทักษิณหายเร็วได้ขนาดนี้ นายครูมานิตย์กล่าวว่า “กำลังใจสิครับ ยาไม่ได้ทำให้คนหายไว”

ด้านนายชูศักดิ์กล่าวเสริมว่า ที่เราคุยปัญหานี้ เราต้องถามตัวเองและถามคนที่ถามว่ามองปัญหานี้เป็นปัญหาส่วนรวม หรือเป็นปัญหาการเมือง ปัญหาความขัดแย้งในอดีตที่ผ่านมาหรือเปล่า เราก้าวพ้นเรื่องนี้หรือยัง เอาคำถามนี้ถามตัวเอง จะได้รู้ว่าท้ายที่สุดเป็นอย่างไร ส่วนตัวตนคิดว่าการตั้งคำถามแบบนี้ถามเพื่อให้มีความเห็น ความรู้สึกว่าความขัดแย้งยังมีอยู่ ยังไม่ได้ก้าวพ้นเรื่องพวกนี้เลย ขอเชิญชวนทุกคนมาคิดเรื่องบ้านเมือง เรื่อง PM2.5 เรื่องเศรษฐกิจ เรื่องต่างๆ ดีกว่า ก้าวข้ามเรื่องพวกนี้

นายชูศักดิ์กล่าวอีกว่า การจะมาตัดสินใจว่าไม่ป่วยจริง คำถามคือใครเป็นคนชี้ ใครเป็นคนตัดสินใจ ตนเข้าใจว่านายทักษิณก็ไม่ได้ตัดสินใจเอง ท่านไม่ได้บอกเองว่าท่านป่วย หรือไม่ป่วย แต่คนตัดสินใจคือคนที่รับผิดชอบ หรือคณะกรรมการ ซึ่งก็ชี้แจงมาโดยลำดับ ฉะนั้น โดยรวมตนอยากให้เราก้าวข้ามสิ่งเหล่านี้ไป อย่าเอามาเป็นประเด็น ท้ายสุดก็จะวนเวียนกับเรื่องนี้ ประเทศไทยก้าวไม่พ้นอะไรกันสักที วนกลับไปที่เดิม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image