‘เศรษฐา’ เล็งยกเลิกเขตป่า ขยายถนน 4 เลน เข้าด่านบ้านฮวก ธรรมนัส-วิสุทธิ์ นำกลุ่มสตรีไทยลื้อ รอรับ

‘นายกฯ​’ ลุยตรวจด่านถาวรบ้านฮวก​ ตรงข้าม สปป.ลาว เล็งยกเลิกเขตป่าสงวนขยายถนน​ 4 เลน​ รองรับการขยายตัวการค้าชายแดนไทย-ลาว ลั่น อย่าทำให้เป็นประเด็นปัญหา เพราะเป็นเรื่องเล็ก  ย้ำ ต้องเหมาะสมภาษีประชาชน

เมื่อเวลา 14.45 น. วันที่ 18 มีนาคม ที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านฮวก ต.ภูซาง อ.ภูซาง จ.พะเยา ซึ่งอยู่ตรงข้ามเมืองคอก แขวงไชยบุรี สปป.ลาว นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ติดตามสถานการณ์การค้าชายแดนและการพัฒนาพื้นที่ก่อสร้างที่ทำการด่านชายแดน CIQ โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) รอให้การต้อนรับ รวมถึงยังมี ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) รอต้อนรับ ประกอบด้วย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ส.ส.เขต 1 นายอนุรัตน์ ตันบรรจง ส.ส.เขต 2 และนายจีรเดช ศรีวิลาศ ส.ส.เขต 3 ให้การต้อนรับในทุกจุดที่นายกฯ ลงพื้นที่ที่ จ.พะเยาด้วย

โดยทันทีที่นายกรัฐมนตรีเดินทางถึง ได้รับฟังรายงานสถานการณ์ด่านชายแดนถาวรบ้านฮวก รวมถึงเรื่องการยกเว้นพื้นที่ป่าสงวน เพื่อขยายถนน 4 เลน และการเปิดด่านถาวร ที่ไม่สามารถทำได้เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ของอุทยาน โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า จะมีการทบทวนยกเลิกมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อให้สามารถเข้าพื้นที่ได้ ส่วนเรื่องการสร้างด่านจะต้องให้เหมาะสมกับภาษีของประชาชนคือปัจจัยสำคัญที่สุด ทั้งเรื่องการผ่อนผันพื้นที่เรื่องตู้คอนเทนเนอร์ต้องทำให้เหมาะสม

Advertisement

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า แต่อย่าทำให้ประเด็นเรื่องการก่อสร้างเป็นปัญหา เพราะมันเป็นเรื่องเล็ก ซึ่งเรื่องแรกคือเรื่องการยกเว้นพื้นที่ป่าและด่านถาวรให้ได้ดีก่อน

ด้านนายภูมิธรรมกล่าวว่า ถ้ายืนยันยอดเงินส่งออกจะสามารถทำได้กว่า 8,000 ล้านบาทและทำให้วัวในประเทศ 200,000 ตัวส่งออกได้ แบบนี้โอเค อีกทั้งพื้นที่นี้มีการปลูกยางพารามากที่สุด รายได้ส่วนใหญ่ของประชาชนมาจากการปลูกยางพารา พร้อมถามชาวบ้านว่าราคายางปีนี้ดีหรือไม่ นายกรัฐมนตรีจึงกล่าวเสริมว่า “กิโลกรัมละ 93 บาท” ชาวบ้านจึงบอกว่าราคาดี แต่ถ้าราคากิโลกรัมละ 100 กว่าบาทก็จะดีกว่านี้

Advertisement

ต่อมา นายกรัฐมนตรีเดินเท้าไปดูประตูทางเข้า-ออกด่านไทยและ สปป.ลาว ก่อนจะเดินมารับฟังบรรยายการพัฒนาจุดผ่านแดนถาวรบ้านฮวกอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกรัฐมนตรีได้พบปะกับกลุ่มสตรีไทยลื้อ ลื้อ สิบสองปันนา อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา ที่มารอต้อนรับพร้อมได้มอบย่าม มอบช่อดอกไม้ พร้อมตุงและโคมล้านนาที่ทำจากกระดาษสาให้นายกฯ พร้อมกล่าวว่าจะได้ระลึกถึงกัน จะได้นึกถึงชาวพะเยา

ขณะเดียวกัน ร.อ.ธรรมนัส​ได้ถามประชาชนว่า​ ‘ฮักนายกฯก่อ​’ ซึ่งแปลว่ารักนายกฯหรือไม่​ ประชาชนจึงตอบพร้อมกันว่า​ ‘ฮักเจ้า’​ นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปรัฐบาล จึงได้บอกประชาชนว่าถ้าอยากได้อะไรให้บอกท่านนายกฯไป ชาวบ้านจึงบอกนายกฯไปทันทีว่า ‘อยากได้เงินหมื่น’ ทำให้นายกรัฐมนตรีถึงกับยิ้มแต่ไม่ได้ตอบว่าอะไร

ก่อนที่ชาวบ้านได้ขอบคุณที่รัฐบาลและนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญถึงการพัฒนาพื้นที่ด่านซึ่งจะสร้างรายได้และเศรษฐกิจให้กับพื้นที่ให้กับประชาชนมากยิ่งขึ้น

โดย นายกรัฐมนตรีกล่าวตอนหนึ่งว่า ขอขอบคุณ ร.อ.ธรรมนัส และนายวิสุทธิ์ ที่จัดงานขึ้นในวันนี้ ตนเองทราบมานานแล้วว่าศักยภาพในการค้าขายที่จังหวัดพะเยา มีการเชื่อมศักยภาพกับทาง สปป.ลาว และต่อไปยังประเทศจีน ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ ซึ่งเรามีสัตว์เศรษฐกิจ คือโค ซึ่งมีความต้องการในประเทศจีนอยู่เยอะมาก

โดยกระทรวงการต่างประเทศมีการเจรจากับประเทศจีนเรียบร้อย ซึ่งประเทศจีนมีความต้องการโคหลายแสนตัว ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญและในวันที่ 18 มี.ค.นี้ จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ครั้งที่ 2/2567 ที่ จ.พะเยา เป็นครั้งแรกโดย ร.อ.ธรรมนัส เป็นคนผลักดันให้มีการประชุมเกิดขึ้น ซึ่งตนเชื่อว่าในวันที่ 18 มี.ค.จะมีเรื่องดีกับจังหวัดพะเยาหลายเรื่อง คือ เรื่องการยกเว้นพื้นที่ป่าสงวน ให้มีการสร้างถนน ให้การค้าระหว่างชายแดนได้ดีขึ้น ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ตนเชื่อว่าทำให้การค้าขายของไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์มวลรวมของจังหวัดพะเยาดีขึ้นอีกหลายแสนล้านบาท

ทั้งนี้ นอกจากเรื่องด่านชายแดนแล้วยังมีการขยายถนนเป็น 4 เลน ให้การขนส่งดีขึ้น ซึ่งรัฐมนตรีช่วยฯ คมนาคมอยู่ในที่นี้ก็รับปากว่าจะทำให้โดยเร็วที่สุด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image