ก.ก.ติงราชทัณฑ์ใช้งบไม่ตอบโจทย์ หวั่นนักโทษทำผิดซ้ำ เหตุหลักสูตรไม่สอดรับตลาดแรงงาน

ก.ก.ติงกรมราชทัณฑ์ใช้งบไม่ตอบโจทย์ จวกหลักสูตรศก.พอเพียงไม่ช่วยเพิ่มทักษะผู้ต้องขัง ถามกลับจะมีสักกี่คนมีที่ดินพอทำเกษตรทฤษฎีใหม่ หวั่นนักโทษทำผิดซ้ำเหตุหลักสูตรอาชีพไม่สอดรับตลาดแรงงาน

เมื่อวันที่ 21 มีนาคม ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระ 2 เป็นวันที่ 2 โดยมี นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 (วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท) เรียงมาตรา ภายหลังจากคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว

จากนั้นเวลา 19.30 น. เข้าสู่การพิจารณางบประมาณมาตรา 21 กระทรวงยุติธรรม โดย น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว ส.ส.ปทุมธานี พรรคก้าวไกล (ก.ก.) อภิปรายว่า ขอตัดงบ 5% โดยโครงการคืนคนดีสู่สังคมของกรมราชทัณฑ์ ประมาณ 25 ล้านบาท แบ่งเป็นหลักสูตรทั่วไป 12 ล้านบาท และหลักสูตรเศรษฐกิจพอเพียง 13 ล้านบาทนั้นไม่ตอบโจทย์ เพราะหลักสูตรทั่วไปใช้งบกับกลุ่มเป้าหมาย 4-5 หมื่นคนในพื้นที่ดำเนินงาน 137 แห่ง ขณะที่หลักสูตรเศรษฐกิจพอเพียงใช้เงินกับกลุ่มเป้าหมายเพียง 2,300 คนในพื้นที่ดำเนินงานเพียง 11 แห่ง ถามว่าทำไมเราต้องเสียเงินนมากกว่าขณะที่ได้ผลลัพธ์น้อยกว่า ที่สำคัญไม่ได้เตรียมความพร้อมผู้ต้องขังให้มีทักษะงานที่สอดรับกับตลาดแรงงาน และการดำเนินการไม่ได้คำนึงถึงความต้องการของผู้ต้องขังด้วย นอกจากนี้หลักสูตรนี้มีวิชาที่เกี่ยวกับเกษตรกรรม เช่น เกษตรทฤษฎีใหม่ การปลูกพืช การผลิตปุ๋ย ที่ต้องใช้เวลาเรียนมากถึง 27 ชั่วโมง ตนสงสัยว่าผู้ต้องขังทุกคนต้องสนใจในอาชีพเกษตรกรรมเสมอหรือ และจะมีผู้ต้องขังสักกี่คนที่มีที่ดินเพียงพอต่อการทำเกษตรกรรมแบบทฤษฎีใหม่เมื่อพ้นโทษแล้ว

น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว ส.ส.ปทุมธานี พรรคก้าวไกล (ก.ก.)

น.ส.ชลธิชา อภิปรายต่อว่า การเตรียมความพร้อมด้านอาชีพของกรมราชทัณฑ์ยังมีปัญหาอีกมาก เพราะไม่ได้ออกแบบหลักสูตรให้สอดรับกับตลาดแรงงาน และการที่ผู้ต้องขังที่พ้นโทษออกจากเรือนจำ ไม่สามารถประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัวได้นั้นสุ่มเสี่ยงต่อการกระทำผิดซ้ำ จากข้อมูลของกรมราชทัณฑ์ในวันที่ 1 ธันวาคม 66 รายงานว่านักโทษเด็กประมาณ 2 แสนกว่าคน มีนักโทษประมาณ 9 หมื่นคนที่เป็นผู้กระทำความผิดซ้ำ สะท้อนให้เห็นว่าโครงการไม่ตอบโจทย์ในการฟื้นฟูพฤตินิสัยของผู้ต้องขังกลับสู่สังคม

Advertisement

ด้านนายเอกราช อุดมอำนวย ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล (ก.ก.) อภิปรายว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ ทำคำของบ 380 ล้านบาท แต่เมื่อไปดูการตั้งงบขอจัดซื้อครุภัณฑ์คอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นส่วนของการทำเครือข่ายระบบรักษาความปลอดภัยของสถาบันการสอบสวนคดี ตนไม่เห็นด้วยเพราะเมื่อดูรายละเอียดโครงการแล้ว จะเห็นว่าบางจุดเป็นการติดตั้งเครือข่ายอินเตอร์เน็ตในจุดจอดรถ เมื่อดูรายละเอียดในทีโออาร์ บางรายการมีการตั้งบประมาณที่แพงกว่าราคาตลาดสามเท่า จึงไม่เหมาะสมกับการใช้งบในปีนี้

หลังสมาชิกอภิปรายอย่างกว้างขวาง ที่ประชุมลงมติเห็นชอบมาตรา 21 ตาม กมธ.เสียงข้างมากด้วยคะแนน 272 ต่อ 151 งดออกเสียง 1 ไม่ลงคะแนน 13

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image