09.00 INDEX หลักยึด ก้าวไกล “ท้องถิ่น” ยืนยัน ยุทธศาสตร์ มั่นแน่ว
การตัดสินใจเลือกตัว “ว่าที่” ผู้สมัครนายกอบจ.ของพรรคก้าวไกลเด่นชัดยิ่งขึ้นเป็นลำดับ ไม่ว่าจะเป็นที่ภูเก็ต ไม่ว่าจะเป็นที่อุดรธานี และไม่ว่าจะเป็นที่เชียงใหม่
ยิ่งกรณีการตัดสินใจเลือก นายพันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ที่เชียงใหม่ ยิ่งเป็นการประกาศแนวทางอย่างชัดเจน
นั่นก็คือ เป็นการเลือกทาง “ยุทธศาสตร์” มิใช่ทาง “ยุทธวิธี”
กรณีของภูเก็ต สังคมไม่รู้ว่ามีตัวเลือกกี่คนเป็นใครบ้าง กรณีของอุดรธานีสังคมไม่รู้ว่ามีตัวเลือกกี่คนเป็นใครบ้าง จากระดับจังหวัดกระทั่งถึงคณะกรรมการบริหารพรรค
แต่กรณีของเชียงใหม่ชัดเจนว่า ไม่ว่าระดับจังหวัด ไม่ว่าระดับคณะกรรมการบริหารพรรคมีตัวเลขที่โดดเด่นอยู่ 2 คนนั่นก็คือระหว่าง นายพันธุ์อาจ ชัยรัตน์ กับ น.ส.ทัศนีย์ บูรณูปกรณ์
ความรับรู้ก็คือ น.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ เป็นนักการเมืองเก่า เคยเป็นส.ส.หลายสมัย มีชื่อเสียงระดับประเทศ มองทางด้านการเมืองมีความเหนือกว่า นายพันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ชัดเจน
หากต้องการชัยชนะ พรรคก้าวไกลย่อมต้องเลือก น.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ มิใช่ นายพันธุ์อาจ ชัยรัตน์
แล้วเหตุใดจึงเลือก นายพันธุ์อาจ ชัยรัตน์ และชูขึ้นสูงเด่น
หากศึกษาพรรคก้าวไกลอย่างเห็นความสัมพันธ์อันต่อเนื่องมาจากพรรคอนาคตใหม่ก็จะเข้าใจว่าทำไมต้องเป็น นายพันธุ์อาจ ชัยรัตน์ มิใช่ น.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์
นี่มิได้เป็นการปฏิเสธ น.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ หากประเมินว่า นายพันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ควรได้โอกาส
มิใช่โอกาสของ นายพันธุ์อาจ ชัยรัตน์ หากของพรรคก้าวไกล
คุณสมบัติของ นายพันธุ์อาจ ชัยรัตน์ สามารถอยู่ในระบบบัญชีรายชื่อและอยู่ในทีมเศรษฐกิจ แม้ชื่อชั้นจะด้อยกว่า น.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ แต่คุณสมบัตินี้สมควรแก่การผลักดัน
หากมองพรรคก้าวไกลเป็นเหมือน “สตาร์ทอัพ” ดำรงอยู่บน “แพลทฟอร์ม” ที่มีสถานะแน่นอนในทางการเมือง การเสนอ นายพันธุ์อาจ ชัยรัตน์ มีความท้าทายเป็นอย่างสูง
ไม่ว่าจะมองในด้าน “สตาร์ทอัพ” ไม่ว่าจะมองในด้าน “นวัตกรรม” อันจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนต่อเชียงใหม่
หลักการสำคัญของพรรคก้าวไกลในการเลือกนายกอบจ. คือ การให้บทบาทแก่นักบริหารจัดการเมือง จะพัฒนาเมืองไปอย่างไร
นี่คือยุทธศาสตร์ต่อ “บ้านเมือง” ที่เหนือกว่า “การเมือง”
พรรคอนาคตใหม่พิสูจน์ตนเองมาแล้วในการเลือกตั้งเดือนมีนาคม 2562 พรรคก้าวไกลพิสูจน์ตนเองมาแล้วในการเลือกตั้งเดือนพฤษภาคม 2566
ไฉนการปักหลัก “อุดมการณ์” ใหม่จะประสานเข้ากับการสร้างโฉมใหม่ให้กับการเลือกตั้ง “ท้องถิ่น” จะเป็นไปไม่ได้