‘ส.ว.เฉลิมชัย’ ถาม ‘เศรษฐา’ สรุปแล้ว ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ จะทำได้หรือไม่ หลังเคยประกาศใช้งบแต่สุดท้ายจบที่กู้เงิน เหน็บ ก่อนเป็น รบ.ประกาศปิดสวิตช์ 3 ป. ปิดสวิตช์ ส.ว. คนไทยมีเกียรติมีศักดิ์ศรี แล้วตอนนี้เป็นอย่างไร ถาม ‘จุลพันธ์’ ใครจะดักตีหัว แนะ สารภาพ ปชช.ทำไม่ได้ ดีกว่าเสี่ยงติดคุก
ต่อมาเวลา 11.35 น. นายเฉลิมชัย เฟื่องคอน ส.ว. อภิปรายถึงเรื่องที่ดิน ส.ป.ก.4-01 เป็นโฉนดที่ดิน ซึ่งมีปัญหาอยู่ในขณะนี้ ว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะแก้ปัญหานี้อย่างไร และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะมีแนวทางการป้องกันไม่ให้เกิดการทุจริตในการออกโฉนดที่ดิน ส.ป.ก.4-01 อย่างไร นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของการแก้ไขปัญหาเรื่องกฎหมายเกี่ยวกับการประมง การแก้ไขปัญหาเรื่องการศึกษา การปราบเรื่องผู้มีอิทธิพล มีการขึ้นบัญชีไว้เท่าไหร่ โดยเฉพาะ จ.ภูเก็ต นายอำเภอออกใบอนุญาตให้ชาวต่างชาติมีและใช้อาวุธปืนได้จำนวนเท่าไหร่ อนุญาตให้ชาวต่างชาติพกปืนติดตัวได้กี่กระบอก รวมถึงปัญหาเรื่องหนี้ครัวเรือน ที่ตอนหาเสียงในวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 เคยระบุไว้ว่า “มีนายกรัฐมนตรีชื่อเศรษฐา จะพาคนไทยไปเป็นเศรษฐี ปิดสวิตช์ ส.ว. ปิดสวิตช์ 3 ป. เพื่อไทยเป็นรัฐบาล ประเทศไทยเปลี่ยนทันที คนไทยมีกินมีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี” ซึ่งยังก้องอยู่ในโสตประสาทของคนไทยทั้งประเทศ แล้วตอนนี้เป็นอย่างไร นายเศรษฐาจะแก้ปัญหาอย่างไร
นายเฉลิมชัยยังอภิปรายถึงโครงการดิจิทัลวอลเล็ตด้วยว่า จากที่พรรคเพื่อไทย (พท.) เคยประกาศนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ให้ผู้มีอายุ 16 ปีขึ้นไป จำนวน 56 ล้านคน โดยใช้จากงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 โดยช่วงหนึ่งที่นายเฉลิมชัยอภิปรายถึงตรงนี้ได้กล่าวว่า “ขอให้นายกรัฐมนตรีฟังผมด้วย หากไม่ฟังผม เขาก็ไม่เรียกว่า ครม. เพราะ ครม.ตามมาตรา 158 ประกอบด้วยนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ท่านออกไปก็ไม่เป็นอะไร เดี๋ยวท่านก็เข้ามา เข้าใจว่าจะนั่งอยู่ตลอดก็ไม่ได้ ก็ให้อภัย” ก่อนอภิปรายต่อว่า ท่านประกาศทุกเวทีหาเสียงว่าจะไม่กู้เงิน แต่ตอนนี้เป็นอย่างไร ตอนนี้ก็ยังไม่รู้จะไปทางไหน ตนมีข้อสังเกตคือ การประกาศเช่นนั้นมีลักษณะสัญญาว่าจะให้ ซึ่งอาจผิดพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ.2561 มาตรา 73 (1) ที่ห้ามไม่ให้ผู้สมัครผู้ใดเสนอให้ หรือสัญญาว่าจะให้ หรือจัดเตรียมว่าจะให้ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นใด มีโทษจำคุก 1-10 ปีปรับ 20,000-200,000 บาท เพิกถอนสิทธิ์ 20 ปี”
นายเฉลิมชัยกล่าวอีกว่า ทั้งนี้ เมื่อแถลงนโยบายต่อรัฐสภามีเนื้อหาระบุว่าโครงการนี้จะทำหน้าที่เป็นตัวฉุดฉนวนกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งในการแถลงนโยบายดังกล่าวไม่ได้มีการแถลงเรื่องที่มาของรายได้แต่อย่างไร จะเป็นการทำผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 162 หรือไม่ ซึ่งต้องมีการชี้แจงเรื่องที่มาของรายได้ที่จะนำมาใช้จ่ายในการดำเนินนโยบาย แต่ท่านกลับไม่ได้ชี้แจงเพราะไม่รู้ว่าจะเอารายได้มาจากไหน จากนั้นก็มีการแถลงนโยบายที่ทำเนียบรัฐบาล ระบุว่ารัฐบาลเตรียมเสนอร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาทเข้าสู่การพิจารณาของสภา เพื่อดำเนินโครงการดิจิทัลวอลเล็ตโดยจะเริ่มเดือนพฤษภาคม ปัจจัยที่เปลี่ยนไปคือที่มาของเงิน ซึ่งเปลี่ยนมาเป็นการกู้เงินรวมถึงเงื่อนไขการรับเงิน แต่จนถึงขณะนี้การดำเนินนโยบายก็ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะนำเงินมาจากไหน หน่วยงานไหนจะรับผิดชอบ และนโยบายดังกล่าวจะสามารถดำเนินการได้หรือไม่ อย่างไร
นายเฉลิมชัยกล่าวอีกว่า เรื่องนี้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) บอกว่า การหาเสียงแบบนี้จะเป็นบรรทัดฐานของพรรคการเมือง หาเสียงไว้อย่างไรก็ได้ เมื่อเป็นรัฐบาลแล้วไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตาม ป.ป.ช.จึงขอให้ กกต.ตรวจสอบว่าขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพราะเป็นการดำเนินนโยบายที่ไม่ตรงปกกับที่หาเสียงไว้ ซึ่งหากขัดก็เป็นการจงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ฉะนั้น เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของ กกต.และ ครม.มีความโปร่งใส มีบรรทัดฐานถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ จึงขอให้ ป.ป.ช.เข้ามาไต่สวนตรวจสอบเรื่องนี้ หากเห็นว่าผู้นั้นกระทำความผิดให้ดำเนินการตามนี้ ถ้าเป็นกรณีฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามจริยธรรมอย่างร้ายแรงให้เสนอศาลฎีกาแผนกผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองวินิจฉัย
“การที่รัฐบาลบอกจะออกเป็น พ.ร.บ.เงินกู้นั้น ที่ผ่านมาสมัยที่เคยเกิดเป็นวิกฤตต้มยำกุ้ง รัฐบาลล้วนออกเป็นพระราชกำหนดทั้งนั้น เพราะการที่จะออกเป็น พ.ร.บ.จะใช้เวลานานกว่าและต้องผ่านทั้ง ส.ส. ส.ว. และศาลรัฐธรรมนูญ แบบนี้จะเร่งด่วนได้อย่างไร และเรื่องของการแจกเงินก็แจกตามปกติ ไม่ต้องกู้ เงินก็ให้จ่ายเป็นเงินบาทจะลดความเสี่ยงต่อการขัดต่อวินัยการเงินการคลังของรัฐ ไม่สร้างหนี้สาธารณะ แล้วเศรษฐา ทวีสิน จะเดินหน้าต่อไปอย่างไร แล้วเลือกตั้งครั้งหน้าจะตอบประชาชนว่าอย่างไร พอเป็นรัฐบาลก็เจอโรคเลื่อน แต่ประชาชนเขาก็ยังไม่ลืม เลื่อนแล้ว เลื่อนอีก เลื่อนต่ออย่างไม่มีกำหนด และนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นั่งอยู่ตรงนี้ก็บอกว่าแจกแน่นอน แต่ไม่รู้เมื่อไหร่ เพราะมีคนคอยดักตีหัวอยู่ ผมถามว่าจริงหรือไม่ ถ้าไม่แจก ก็เจ๊งเลยนะ เพราะเป็นนโยบายที่คนชื่อเศรษฐา ทวีสิน เสียงดังฟังชัดหาเสียงไว้ ย้ำว่าหากทำไม่ได้ก็ยอมรับกับประชาชนเถอะ ดีกว่าไปเสี่ยงแล้วติดคุกหัวโต” นายเฉลิมชัยกล่าว
