ถวิล ลุกอัดรบ. รวมหัวช่วยทักษิณ ทำระบบยุติธรรมเสียหาย ลุ้นกม.-กฎแห่งกรรม เช็กบิลย้อนหลัง

สว.ถวิล อัดรบ.เศรษฐา รวมหัวช่วยอดีตนายกฯ พักโทษ ทำกระบวนการยุติธรรมไทยเสียหายย่อยยับ ชี้ ต้องโทษครม.น้อมประคองส่งมอบให้เขาเอง ลุ้นกฎหมายตามเช็กบิลย้อนหลัง เชื่อกฎแห่งกรรมบิดเบือนไม่ได้

เมื่อวันที่ 25 มีนาคม ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา มี พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานในการประชุมพิจารณาการอภิปรายทั่วไปเพื่อให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) แถลงข้อเท็จจริง หรือชี้แจงปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินโดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 153 นั้น

เวลา 15.00 น. นายถวิล เปลี่ยนศรี ส.ว. อภิปรายถึงปัญหากระบวนการยุติธรรมภายใต้การบริหารของรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ว่ารัฐบาลแถลงนโยบายในสภาว่าจะฟื้นฟูหลักยุติธรรมให้เข้มแข็ง ศักดิ์สิทธิ์ โปร่งใส เป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ ซึ่งสวยหรูดูดีมาก แต่ก็ไม่ได้ปฏิบัติตามแถมยังสร้างความเสียหายให้กับหลักนิติธรรมของประเทศอย่างมาก ในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมาที่เด่นชัดสุดกรณีอดีตนายกรัฐมนตรีที่หลบหนีคดีไปต่างประเทศ แล้วกลับเข้ามา โดยตนไม่ต้องการจะพูดเรื่องส่วนตัวหรือส่วนบุคคล แต่ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวคนใดคนหนึ่งที่อยากจะไปกินข้าวหรือไปเที่ยวที่ไหน แต่เป็นเรื่องที่กระทบต่อนโยบายความยุติธรรมของคนทั้งประเทศ ที่ทุกคนมีส่วนได้เสียกับเรื่องนี้

นายถวิลกล่าวว่า เรื่องของอดีตนายกรัฐมนตรี ตามหลักการเมื่อกลับมารับโทษเป็นเรื่องที่ดี เพราะคนทำผิดคดีถึงที่สุดก็ต้องรับโทษอย่างตรงไปตรงมา กฎหมายก็ศักดิ์สิทธิ์ บ้านเมืองก็อยู่ร่วมกันได้โดยปกติสุข แต่น่าเสียดายตั้งแต่ก้าวแรกที่เหยียบย่างลงบนผืนแผ่นดินอันศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ ก็มีเรื่องแปลกๆ เกิดขึ้นกับกระบวนการยุติธรรมของเรา ทั้งการเตรียมการดูแลต้อนรับที่สนามบินตั้งแต่วันแรก ได้รับสิทธิมากมายจนหลายคนถามว่าทำไมถึงเป็นอย่างนั้น ตอนนั้นตนมองว่าเป็นเรื่องความสงบเรียบร้อยของประเทศ และเป็นการปกป้องความปลอดภัยให้นักโทษ จากนั้นอดีตนายกฯไปศาล ตนก็นึกว่าเรื่องจะจบแค่นั้น ควรดำเนินตามครรลองที่ควรจะเป็นเหมือนที่เคยทำมาตลอด แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะแค่เข้าไปอยู่ในเรือนจำกลางไม่กี่ชั่วโมงก็ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจชั้นที่ 14 ด้วยข้อมูลทางแพทย์ที่เคลือบแคลงน่าสงสัย ไม่ชัดเจน

Advertisement

ต่อมาได้รับพระมหากรุณาธิคุณลดโทษจาก 8 ปีให้เหลือ 1 ปี และมีเรื่องแปลกๆ เกิดขึ้นไม่หยุด เช่นรักษาตัวเกิน 180 วัน แทบไม่ได้สัมผัสกับเรือนจำเลย ประตูเรือนจำทำด้วยอะไร สีอะไรคงนึกไม่ออก จนตอนนี้ได้พักโทษ มีการเปิดบ้านรับแขกบ้านแขกเมือง ไม่ถึงเดือนก็เดินทางไปเยี่ยมบ้านที่เชียงใหม่ มีทั้งรัฐมนตรี ข้าราชการระดับสูงมารอรับและรายงานข้อราชการ โดยอาการเจ็บป่วยที่แพทย์บอกว่าวิกฤตหายหมดไม่เหลือเค้าคนป่วยเลย

”เรื่องนี้สังคมไทยมองว่ามันบิดเบี้ยว เบี่ยงเบนไม่เสมอภาคเท่าเทียมรายอื่น แต่ที่น่าเสียใจคือผู้ที่เกี่ยวข้องตั้งแต่เจ้าหน้าที่เรือนจำ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ไปถึงแพทย์ รมต.ยุติธรรมกลับยืนยันเสียงแข็งว่าเรื่องนี้ปฏิบัติไปโดยถูกต้องชอบธรรมครบถ้วนตามกฎหมายแล้ว ไม่เอะใจบ้างหรือว่าการแก้โจทย์ทดเลขตรงไหนผิดหรือเปล่า ทำไมคำตอบถึงออกมาค้านสายตาคนทั้งประเทศและคนทั้งโลก คิดบ้างไหมว่าในฐานะที่เป็นข้าราชการเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่ต้องดำรงความเสมอภาคเท่าเทียมให้กับประชาชน ท่านลองหลับตาสวดมนต์ทำใจให้สบาย แล้วสาบานกับตัวเองว่าได้ปฏิบัติโดยถูกต้องเป็นธรรมเสมอภาคแล้วจริงหรือไม่

“ผมคิดว่าคำตอบปรากฏในใจท่านแล้ว ท่านคิดว่าคนไทยกินหญ้า กินแกลบ หรือกินน้ำค้าง ไม่ได้กินข้าวเหมือนพวกท่านหรืออย่างไร จึงหลอกตัวเองและคนทั้งประเทศ คงคิดว่าเดี๋ยวคนก็จะลืม เพราะปลุกม็อบแล้วบาดเจ็บกันมามากแล้ว คนไทยขี้ลืม ในฐานะที่ผมทำงานด้านความมั่นคงมาหลายปี บอกได้เลยเรื่องนี้จะไม่ลืมเป็นอันขาด และจะเป็นบาดแผลลึกที่ไม่มีวันหาย จะเป็นฝันร้ายที่ไม่มีวันจางหายเป็นอันขาด และอาจจะกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวเหมือนที่หลายคนได้พูดถึงก็ได้”

Advertisement

นายถวิลกล่าวว่า กระบวนการที่ไม่ตรงปกนี้จะมีผลกระทบต่อสังคม คือ ทำให้เกิดความแตกแยกเพิ่มขึ้น เพราะคนที่รักก็เชียร์ ส่วนคนที่เกลียดชังก็แช่ง แล้วความสงบสามัคคีจะเกิดขึ้นได้อย่างไร จะอ้างว่าปรองดองโดยฝ่ายหนึ่งยืนเหยียบอยู่บนหัวอีกฝ่ายหนึ่งนั้นไม่เห็นว่ามันจะบรรลุผลอย่างไร เจ้าหน้าที่รัฐที่ทำเรื่องนี้จะกระทบต่อค่านิยมที่สำคัญของบ้านเมือง เราจะไปบอกกับลูกหลานได้อย่างไรว่าให้ซื่อตรง ยึดมั่นเป็นในความเป็นธรรม เพราะความจริงที่เห็นมันย้อนแย้งอยู่ตลอดเวลา และยังทำลายความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายบ้านเมืองหมดสิ้น เพราะกว่าคดีจะมาถึงขั้นลงโทษผู้กระทำผิดได้ เราใช้จ่ายทรัพยากรทั้งบุคคล เงินทอง ทรัพย์สินต่างๆ ลงไปไม่ใช่น้อย แต่การบริหารโทษของท่านในชั้นปลายน้ำทำให้ความพยายามต่างๆ ที่ยากลำบากสูญสลายไปในพริบตา ความน่าเชื่อถือของนานาชาติก็เสียหาย

การที่รัฐบาลเขียนนโยบายว่าการลงทุนในเรื่องหลักนิติธรรมเป็นการลงทุนที่ถูกและคุ้มค่าที่สุดในการบริหารประเทศ แต่สิ่งที่ทำลงไปเป็นการเอาชื่อเสียงความเชื่อถือของระบบยุติธรรมประเทศที่แสนแพง ต้องขาดทุนย่อยยับ และยังทำลายระบบราชการและระบบยุติธรรมเสียหาย โดยเฉพาะการบังคับให้เป็นไปตามคำพิพากษาเพราะสาธารณชนเชื่อแล้วว่าไม่ว่าผลจะออกมาเป็นโทษกับเขาเพียงใดก็ตาม ถ้ามีอำนาจมีเงิน ก็สามารถทำให้กลับกลายไปได้

“ที่สำคัญสุด อดีตนายกรัฐมนตรีได้รับพระมหากรุณาธิคุณอภัยโทษเหลือ 1 ปี แต่ได้ถูกพวกท่านทำปู้ยี่ปู้ยำด้วยวิธีการต่างๆ นานา ทั้งฉ้อฉลเสียหาย จนทำให้อดนึกไม่ได้ว่าผู้ที่เกี่ยวข้องเหล่านี้ได้คำนึงถึงพระเกียรติยศ พระเมตตาของพระองค์ท่านบ้างหรือไม่ ผมไม่โทษอดีตนายกฯ เพราะอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อเขาก็ต้องยินดีรับเอา เพราะเป็นธรรมชาติของมนุษย์ แม้โดยส่วนตัวผมไม่ชอบและชิงชังรังเกียจความเห็นแก่ตัวอย่างนั้นก็ตาม แต่ขอตำหนิรัฐบาลที่กำกับดูแลจนทำให้เกิดเรื่องน่าละอายเช่นนี้ ท่านน้อมประคองส่งมอบสิ่งนี้ให้เขาเอง ทั้งที่สามารถป้องกันแก้ไข ที่น่าเสียใจยิ่งกว่านั้นคือท่านยังยืนยันว่าทำถูกทำดีแล้ว อวิชชาที่บดบังสติปัญญาเช่นนี้ ผมคิดว่ายากที่จะพูดให้เข้าใจหรือทำให้เห็นแจ้งเห็นจริง คงต้องรอกฎหมายตามเช็กบิลการกระทำต่างๆ ที่ไม่ถูกต้อง โดย ป.ป.ช. ซึ่งเป็นสิ่งที่จะตามมา แต่สิ่งที่เที่ยงแท้แน่นอนกว่าไม่สามารถบิดเบือนได้คือ ‘กฎแห่งกรรม’ วันหนึ่งไม่ช้าเกินรอที่จะทำหน้าที่อย่างเที่ยงตรง ที่จะมอบคุณมอบโทษให้กับทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ตามวิบากกรรมที่กระทำของทุกคนต่อไป“ นายถวิลกล่าวทิ้งท้าย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image