ครม.เห็นชอบให้ จ.บุรีรัมย์ เป็นพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 26 มีนาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.มีมติเห็นชอบการกำหนดให้ จ.บุรีรัมย์ เป็นพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา ตามที่คณะกรรมการนโยบายพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา (คณะกรรมการนโยบาย) เสนอ โดยประมาณการค่าใช้จ่ายในการสนับสนุนการจัดตั้งพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดบุรีรัมย์ (สถานศึกษานำร่อง 83 แห่ง) ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ.2568-2569 รวมจำนวน 18,600,000 บาท โดย ศธ.จะขอรับการจัดสรรงบประมาณตามชั้นตอนของกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
นายคารมกล่าวว่า ปัจจุบันมีการจัดตั้งพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา จำนวน 19 พื้นที่ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร จังหวัดจันทบุรี ภูเก็ต สงขลา สุราษฎร์ธานี อุบลราชธานี สุโขทัย แม่ฮ่องสอน กระบี่ ตราด สระแก้ว สตูล ระยอง ศรีสะเกษ กาญจนบุรี เชียงใหม่ ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ทั้งนี้ การจัดตั้งพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจะส่งผลให้สถานศึกษานำร่องในพื้นที่สามารถจัดการเรียนการสอนที่สอดคล้องกับบริบทในพื้นที่โดยสามารถบริหารจัดการการศึกษาได้อย่างอิสระ ยืดหยุ่น คล่องตัวไม่ต้องอิงกฎระเบียบที่ไม่จำเป็น หรือไม่เอื้อจากส่วนกลาง
นายคารมกล่าวต่อว่า เช่น การเลือกใช้หลักสูตร/สื่อการเรียนการสอนออกแบบการทดสอบเฉพาะพื้นที่ได้ สถานศึกษาได้งบพัฒนาเป็นวงเงินรวม (Block Grant) มีช่องทางผลักดันการบริหารงานบุคคลให้เหมาะสมกับพื้นที่ สามารถปรับลดและยกเลิกโครงการที่เพิ่มภาระงานครูและส่งผลเสียต่อการเรียนรู้ของผู้เรียนด้วยกลไกการจัดการศึกษาระหว่างภาครัฐ อปท. ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ซึ่งจะส่งผลดีทั้งต่อผู้เรียน สถานศึกษาและผู้ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่และช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา
“จ.บุรีรัมย์ มีความพร้อมในการจัดตั้งเป็นพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา เนื่องจากมีแนวทางการดำเนินงานตรงกับแนวคิดหลักของพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา มีแนวทางการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา มีแนวทางลดความเหลื่อมล้ำในการศึกษา มีภาคีเครือข่ายจากทุกภาคส่วนในการให้ความร่วมมือจัดการศึกษา มีหน่วยงานที่มีความเข้าใจเป้าหมายและหลักการสำคัญของการเป็นพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พร้อมให้คำปรึกษา ชี้แนะ และเป็นพี่เลี้ยงทางวิชาการ อีกทั้ง ยังมีแผนการขับเคลื่อนพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาที่ชัดเจน” นายคารมกล่าว