4 อนุฯกมธ.สื่อ ยื่น หน.ลาออก “แดง ประภา” รับ เสียใจ แต่เข้าใจสปิริต
เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา นายจักร์กฤช เพิ่มพูน นายประดิษฐ์ เรืองดิษฐ์ น.ส.สุวรรณา สมบัติรักษาสุข และน.ส.อมรรัตน์ มหิมธิรุกข์ ในฐานะคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) ขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านสื่อสิ่งพิมพ์ ของกมธ. สื่อสารมวลชนและเทคโนโลยีสารสนเทศ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทซ (สปท.) ยื่นหนังสือขอลาออกจาก อนุกมธ.ขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านสิ่งพิมพ์ ต่อ นางประภา เหตระกูล ศรีนวลนัด ในฐานะประธานอนุกมธ. และรองประธานกมธ.สื่อสารมวลชนฯ โดย นางประภา กล่าวว่า รู้สึกเสียใจ แต่ก็เข้าใจสปิริต ที่คัดค้าน ร่าง พ.ร.บ.การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ ส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน พ.ศ. … ในบางประเด็น ทั้งนี้ ตนอยากให้ทำความเข้าใจด้วยว่า กมธ.สื่อของสปท. ผลักดันประเด็นดังกล่าวเป็นไปตามแนวทางของ สปช. ที่มีนายประดิษฐ์ร่วมอยู่ด้วย ซึ่งกระบวนการดังกล่าวไม่ได้สิ้นสุดที่สปท. ยังต้องรอการพิจารณาจากสนช.อีกครั้ง
ด้าน นายจักร์กฤช กล่าวว่า ต้องการแสดงจุดยืน คัดค้าน ในปมปัญหา เรื่องการพิจาณาออกและเพิกถอนใบอนุญาติ และมีตัวแทน 4 ปลัดกระทรวงมาร่วมนั่งเป็นคณะกรรมการ เพราะในประเทศเจริญแล้วที่ปกครองในระบบเสรีประชาธิปไตย ไม่มีประเทศไหนให้รัฐมีอำนาจออกและเพิกถอนใบอนุญาต ตลอดจนให้มีตัวแทนจากภาครัฐมาร่วมเป็นกรรมการ ยืนยันว่า ไม่ได้ทำเพื่อตังเอง แต่ทำเพื่อประชาชนที่จะได้รับกับผลกระทบจากการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร ซึ่งรัฐธรรมนูญให้การรองรับว่าเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ประชาชนพึงมี หากผลักดันกฎหมายนี้ต่อไปก็อาจขัดกับรัฐธรรมนูญ ไม่มีผลบังคับใช้ โดยเราพร้อมจะออกไปต่อสู้เคลื่อนไหวต่อข้างนอก
นายประดิษฐ์ กล่าวว่า หากกฎหมายนี้บังคับใช้ ภายใน 1 ปี จะต้องมีการจดทะเบียนสื่อมวลชนที่มีอยู่กว่า 1 แสนคนทันที สะท้อนว่า ไม่เข้าใจในวิชาชีพ เอาเราไปเปรียบกับวินมอเตอร์ไซด์ ที่เป็นอาชีพสุจริตที่ต้องให้การเคารพ แต่สื่อจำเป็นต้องใช้สิทธิเสรีภาพ เพื่อทำหน้าที่ที่เฉพาะเจาะจง จึงทำให้ไม่เข้าใจว่า กมธ.เสียงข้างมากให้ 4 ปลัดกระทรวงเข้ามามีส่วนร่วมได้อย่างไร เราไม่ได้ปฏิเสธการปฏิรูปสื่อ แต่หากปล่อยให้กฎหมายสื่อแบบนี้ออกมา จะทำให้เกิดรอยด่างพร้อย ในยุคของการปฏิรูป เพราะเสรีภาพสื่อคือหัวใจสำคัญ
