Breaking the Cycle หนังสารคดี ‘ธนาธร’ กับอนาคตใหม่ ได้รับคัดเลือกฉายในเทศกาลสารคดีระดับโลก ที่โตรอนโต
เมื่อวันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา เฟซบุ๊ก Breaking the Cycle ภาพยนตร์สารคดีบันทึกความพยายามในการหยุดวงจรรัฐประหาร ของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และพรรคอนาคตใหม่ บนสนามเลือกตั้งปี 2562 โดย 2 ผู้กำกับ นายเอกพงษ์ สราญเศรษฐ์ และ นายธนกฤต ดวงมณีพร ได้เผยว่า
“Breaking to Toronto! Breaking the Cycle ได้รับคัดเลือกให้เข้าฉายรอบปฐมทัศน์โลก ในเทศกาล Hot Docs Canadian International Documentary Festival เทศกาลสารคดีที่ใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกาเหนือ ณ เมืองโตรอนโต ประเทศแคนาดา ขอแสดงความยินดีกับทีมงานและผู้มีส่วนร่วมในภาพยนตร์เรื่องนี้ทุกๆคน”
สำหรับ Breaking the Cycle เป็นภาพยนตร์สารคดีที่เล่าถึงความพยายามในการหยุดยั้งวงจรรัฐประหารในประเทศไทย ของนักการเมืองหน้าใหม่ (ในเวลานั้น) ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ด้วยการก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ เพื่อต่อสู้กับพรรคที่สืบทอดอำนาจจากคณะรัฐประหาร บนสนามเลือกตั้งครั้งประวัติศาตร์ ปี 2562 ที่ผ่านมา
Breaking the Cycle เป็นสารคดีการเมืองไทยเรื่องแรก ที่ติดตามนักการเมืองตั้งแต่ “เริ่มต้น” จนถึง “จุดจบ” และเล่ามันอย่างตรงไปตรงมาโดยปราศจากการแทรกแซงจากนักการเมืองและพรรคการเมืองที่เราติดตาม
นอกจากนั้นภาพยนตร์เรื่องนี้ยังมีมุมมองส่วนตัวของผู้กำกับฯทั้งสองคน ที่ได้เรียนรู้จากการเข้าไปติดตามสถานการณ์การเมืองไทยอย่างใกล้ชิด ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาอีกด้วย
ภาพยนตร์เรื่องนี้เริ่มต้นอย่างเรียบง่ายโดยคนเพียงแค่สองคน คือผู้กำกับ เอก และ สนุ้ก ทั้งคู่จบจากภาควิชาภาพยนตร์ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภายหลังจึงได้มีการชักชวนโปรดิวเซอร์อีกสองคน คือ ดิว และ จีน ซึ่งเป็นคนทำหนังรุ่นใหม่เช่นกัน
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ขนาดยาวเรื่องแรกของผู้กำกับทั้งสองคน ที่เริ่มถ่ายทำตั้งแต่ พฤศจิกายน ปี 2561 ในวันที่ธนาธรและพรรคอนาคตใหม่ยังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง จนกระทั่งพรรคถูกยุบในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2563 และสิ้นสุดการถ่ายทำหลังการเกิดขึ้นของการเคลื่อนไหวของเยาวชนและนักศึกษาในปีเดียวกัน
Breaking the Cycle แม้จะดูเป็นภาพยนตร์ที่ดูสนุก เข้าถึงง่าย ราวกับหนังสตูดิโอเรื่องหนึ่ง แต่เบื้องหลังการทำงานนั้นเป็นการทำแบบภาพยนตร์อิสระ ทีมงานหลักมีเพียงแค่ 4 คนเท่านั้น และใช้ทุนทรัพย์ของตัวเองทั้งหมดในการผลิตผลงาน ภายหลังจึงได้มีการนำภาพยนตร์เข้าไปแข่งขันในเวทีทุนสารคดีต่างประเทศ เพื่อชิงทุนสนับสนุนในการสร้างภาพยนตร์ ซึ่งเราได้รับมาสองทุนด้วยกันคือ ทุนสนับสนุนจากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติสิงค์โปร์ และ ทุนสนับสนุนจากมูลนิธิภูรินทร์