กมธ.ตปท. แนะ รัฐเจรจาเพิ่มโควต้าแรงงาน ผลักดันนิรโทษกรรม ผีน้อยหลังพบในเกาหลีใต้กว่า 1.4 แสนคน

กมธ.ตปท. แนะ รัฐเจรจาเพิ่มโควต้าแรงงาน ผลักดันนิรโทษกรรม ผีน้อยหลังพบในเกาหลีใต้กว่า 1.4 แสนคน ระบุส่งเด็กไร้สัญชาติ 19 คนกลับเมียนมา หวั่นกระทบหลักการช่วยเหลือทางมนุษยธรรม-ไม่เป็นผลดีต่อภาพลักษณ์ประเทศ

เมื่อเวลา 14.30 น. ที่รัฐสภา นายนพดล ปัทมะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร แถลงว่า กมธ.ได้ติดตามประเด็นสำคัญ 2 เรื่องดังนี้ 1.กรณีแรงงานไทยในเกาหลีใต้และญี่ปุ่นตามที่ปรากฏข่าวว่ามีแรงงานชาวไทยเข้าไปทำงานโดยผิดกฎหมายในประเทศเกาหลีใต้และญี่ปุ่น (ผีน้อย) ซึ่งในเกาหลีใต้มีแรงงานที่ถูกกฎหมาย 40,000 คน ผิดกฎหมายประมาณ 140,000 คน และในญี่ปุ่นแรงงานถูกกฎหมาย 8,000 คน ผิดกฎหมายประมาณ 40,000 คน ซึ่งการทำงานที่ผิดกฎหมายกระทบต่อทั้งกับสวัสดิภาพของคนงาน และภาพลักษณ์ของประเทศ ทาง กมธ. ได้เชิญผู้แทนกระทรวงแรงงาน เช่น ผู้ตรวจราชการกระทรวง อธิบดีกรมการจัดหางาน และผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ เช่น กรมเอเชียตะวันออก และกรมการกงสุลมาให้ข้อมูล

นายนพดลกล่าวว่า โดย กมธ.มีความเห็นและข้อเสนอแนะ 4 ข้อ ดังนี้ 1.การแก้ไขปัญหาแรงงานผิดกฎหมายในต่างประเทศอย่างยั่งยืนนั้น ต้องทำโดยการหาตลาดให้แรงงานไทยให้มีตำแหน่งนมากที่สุด เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการไปทำงานในต่างประเทศของแรงงานไทย ซึ่งมีจำนวนมากขึ้นทุกปี 2.ผลักดันการเดินทางไปทำงานต่างประเทศที่ถูกกฎหมายให้มากขึ้น โดยรัฐบาลควรเร่งเจรจากับทั้งเกาหลีใต้และญี่ปุ่น เพื่อเพิ่มโควต้าการไปทำงานที่ถูกกฎหมาย การไปทำงานโควต้าภาครัฐปัจจุบันเพียง 8,500 คน และญี่ปุ่น 1,200 คน นอกจากนั้น ควรลดความยุ่งยากเงื่อนไข ขั้นตอน การเข้าไปทำงานอย่างถูกกฎหมายสำหรับแรงงานไทย เช่น การลดเงื่อนไขด้านภาษา และควรสนับสนุนบริษัทจัดหางานภาคเอกชนในการส่งออกแรงงานมากยิ่งขึ้น

3.ผลักดันการนิรโทษกรรมแรงงานผิดกฎหมายหรือผีน้อยที่ไม่มีสวัสดิการแรงงานตามกฎหมาย โดย กมธ. เสนอให้รัฐบาลเจรจากับฝ่ายเกาหลีและญี่ปุ่น เพื่อนิรโทษกรรมแรงงานผิดกฎหมายดังกล่าว เช่น ให้สามารถทำงานต่อไปได้โดยไม่ถูกส่งกลับ และไม่มีประวัติการเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย รวมทั้งให้ได้รับสวัสดิภาพและสวัสดิการด้านแรงงานที่เหมาะสม 4.ประเด็นที่มีข่าวว่าญี่ปุ่นอาจทบทวนการยกเลิกวีซ่าฟรีนั้น ในขณะนี้ คนไทยไปเที่ยวญี่ปุ่นปีละประมาณ 1,000,000 คนเศษ อยู่เกินวีซ่าประมาณ 10,000 คนเศษ กระทรวงการต่างประเทศชี้แจงว่ามีการพูดคุยกันระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงระหว่างญี่ปุ่นและไทย

Advertisement

ประธาน กมธ.ฯ กล่าวว่า โดยฝ่ายไทยจะเพิ่มมาตรการการประชาสัมพันธ์มิให้มีการเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย ร่วมมือกับสายการบิน บริษัททัวร์ ควบคุมดูแลไม่ให้หนีทัวร์ และอยู่เกินวีช่า รวมทั้งจับกุมนายหน้าหางานเถื่อน เพื่อลดจำนวนคนที่อยู่เกินวีซ่า (Overstay) เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประเทศปลายทาง ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้กระทบต่อคนไทยส่วนใหญ่ที่ต้องการไปเที่ยวญี่ปุ่นโดยไม่ต้องมีวีช่า และหวังว่าญี่ปุ่นจะพิจารณามาตรการที่ฝ่ายไทยจะดำเนินการด้วยดี

นายนพดลกล่าวต่อว่า อีกประเด็นคือเด็กไร้สัญชาติ 19 คนอาจถูกผลักดันกลับเมียนมา ว่า จากกรณีดังกล่าวทราบว่า ขณะนี้อยู่ที่ จ.เชียงราย ทาง กมธ.ไม่เห็นด้วยเนื่องจากการผลักดันเด็ก ไม่ว่าจะมีหรือไร้สัญชาติอาจฝ่าฝืนพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2556 เพราะรัฐมีหน้าที่ที่ต้องให้การสงเคราะห์เด็กดังกล่าว อาจเป็นการละเมิดพันธกรณีระหว่างประเทศ ตามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิเด็ก (UN Conventions on the Rights of the Child) และในขณะนี้ รัฐบาลไทยกำลังผลักดันเรื่องจุดมนุษยธรรมที่แม่สอด เพื่อช่วยเหลือผู้เดือดร้อนในเมียนมา ซึ่งเป็นการแสดงบทบาทของไทยอย่างสร้างสรรค์ในภูมิภาค

“กมธ. เห็นว่าการผลักดันเด็ก 19 คนกลับเมียนมา น่าจะเป็นการกระทำที่สวนทาง และกระทบต่อหลักการ ช่วยเหลือทางมนุษยธรรม และไม่เป็นผลดีต่อภาพลักษณ์ของประเทศ การคุ้มครองเด็กไร้สัญชาติมิเพียงแต่เป็นการดำเนินการทางมนุษยธรรมเท่านั้น แต่เป็นการปฏิบัติตามพันธกรณีระหว่างประเทศ สร้างเกียรติภูมิของประเทศ ทำให้ไทยมีจุดยืนในเวทีระหว่างประเทศอย่างสง่างาม” นายนพดลกล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image