จิราพร หนุนญัตติส่งศาลวินิจฉัยอำนาจรัฐสภาทำประชามติ หวังปลดล็อก เดินหน้าแก้ รธน.

‘จิราพร’ หนุนญัตติส่งศาล รธน.วินิจฉัยอำนาจรัฐสภาทำประชามติ ชี้หากทำได้จะเป็นกุญแจสำคัญปลดล็อกเดินหน้าแก้ รธน.

เมื่อวันที่ 29 มีนาคม ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ที่มี นายพรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานสภาและประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม มีวาระพิจารณาญัตติ เรื่อง ขอเสนอญัตติตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ.2563 ข้อ 31 ให้รัฐสภามีมติขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 210 (2) ของ นายชูศักดิ์ ศิรินิล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และคณะเป็นผู้เสนอ

เวลา 14.25 น. น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย (พท.) อภิปรายว่า ตั้งแต่การเลือกตั้งปี 2562 พรรค พท.ถือธงนำในการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 มาโดยตลอด และมีการยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาโดยตลอด แต่เสียดายที่ไปไม่ถึงฝัน ความพยายามของพรรค พท.ตนว่าไม่ต่ำกว่า 14 ครั้งที่เรายื่นแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญมา ผนวกกับเสียงประชาชนที่เรียกร้องให้มีรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น แต่ก็ยังไม่สามารถทำได้สำเร็จ

Advertisement

น.ส.จิราพรอภิปรายว่า เป็นเครื่องยืนยันว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย จนมาถึงปีนี้เรายังไม่ละความพยายามในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมาทำให้พรรค พท.ต้องมีความละเอียดรอบคอบ เราจึงยื่นร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่… พ.ศ. … เมื่อวันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา แต่ประธานรัฐสภามีคำนิจฉัยไม่บรรจุร่างดังกล่าว ซึ่งการไม่บรรจุร่างดังกล่าวไม่ได้ทำให้ความพยายามในการแก้ไขรัฐธรรมนูญของเราสูญเปล่า

น.ส.จิราพรกล่าวต่อว่า ดังนั้น วันนี้เราจึงเสนอญัตติขอให้รัฐสภามีมติส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาเกี่ยวกับอำนาจและหน้าที่ของรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 210 (2) เพื่อหวังนำคำวินิจฉัยของประธานรัฐสภาไปให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่าการที่สมาชิกรัฐสภาเสนอร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมโดยมีบทบัญญัติว่าด้วยการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยที่ยังไม่ได้ถามประชามติจากประชาชนว่าเห็นด้วยหรือไม่ว่ารัฐสภาจะสามารถบรรจุระเบียบวาระนั้นได้หรือไม่ หรือต้องมีการทำประชามติก่อน แม้ พรรค พท.จะมีมุมมองเดียวกับพรรคฝ่ายค้านที่ระบุว่าต้องทำประชามติ 2 ครั้ง แต่ก็ยังเป็นการตีความที่ยังไม่ได้ข้อยุติ ซึ่งในส่วนนี้เราต้องการความรัดกุมและรอบคอบว่าหากเราเดินตามมุมนี้จะทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญมีความปลอดภัยและแก้ไขให้สำเร็จได้จริง

น.ส.จิราพรกล่าวว่า ทั้งนี้ หากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยที่จะนำไปสู่การได้ข้อสรุปเรื่องการทำประชามติในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เท่ากับเราจะได้กุญแจสำคัญที่จะปลดล็อกทั้งรัฐบาลและรัฐสภาสามารถเดินหน้าต่อไปได้ ฉะนั้น ตนจึงสนับสนุนกับญัตตินี้

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image