ชัชชาติ ระบุเดินแค่ 500 เมตร ก็เห็นปัญหาย่อของ กทม.ทั้งหมดแล้ว ขอบคุณรัฐบาลจัดการบุหรี่ไฟฟ้า ร่วมมือ สคบ.ตรวจจับร้านแอบจำหน่าย
เมื่อวันที่ 1 เมษายน ที่ลานกีฬาแฟลต 51-53 ซอยประชาสงเคราะห์ 11 เขตดินแดง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.)ให้สัมภาษณ์หลังจาก การลงพื้นที่ร่วมกับ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ว่า นายกฯ เน้นปัญหาคุณภาพชีวิตของประชาชนที่ กทม.รับผิดชอบ เช่น ปัญหาขยะ มีหนูตัวใหญ่จำนวนมาก เนื่องจากการออกแบบการสร้างแฟลตดินแดงนั้นที่ผ่านมามีปล่องให้ทิ้งขยะจากข้างบนลงสู่ข้างล่าง และทำให้เกิดปัญหาค้างกลางปล่อง จนทำให้มีหนูจำนวนมาก และการเก็บขยะนั้นทำได้ยาก เพราะต้องไปคุ้ยขยะในปล่อง
“กทม.ได้เปลี่ยนวิธีการทิ้งขยะ ในการเอาถังขยะขนาดใหญ่มาตั้งแทน แล้วให้ประชาชนนำขยะลงมาทิ้งและแยกขยะด้านล่าง ขณะนี้ได้ปิดปล่องขยะบางตึกไปแล้ว ในช่วงแรกก็มีประชาชนบ่น แต่ตอนนี้ประชาชนมีความเข้าใจมากยิ่งขึ้น ปัญหาหนูและขยะลดลง ซึ่งโมเดลนี้จะนำไป เป็นตัวอย่างขยายในพื้นที่แฟลตต่างๆ” นายชัชชาติกล่าว
ปัญหาด้านยาเสพติด จะเห็นว่ามีร้านจำหน่ายน้ำกระท่อมขายเยอะมาก ซึ่งอยู่ใกล้โรงเรียนของ กทม.ด้วย ส่วนปัญหาเรื่องน้ำท่วมนั้นทาง กทม.ก็ดำเนินการลอกท่ออย่างต่อเนื่อง ส่วนสถานที่เล่นกีฬา ให้ไปใช้ที่ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) รวมถึงมีศูนย์บริการสาธารณสุข 4 ดินแดง ที่คอยให้บริการผู้ป่วยติดเตียงด้วย
นายชัชชาติ กล่าวว่า นายกฯ เน้นย้ำเรื่องการแก้ปัญหาเส้นเลือดฝอย โดยนายกฯ มาดูเรื่องปัญหาที่พื้นที่ดินแดง ที่ประชาชนมีปัญญาเยอะ เดินดูแป๊บเดียวก็เห็นปัญหาหลายส่วน เพราะว่าเขตดินแดงเป็นภาพย่อของกรุงเทพฯ มีปัญหามากมาย เช่น ขยะ ยาเสพติด น้ำท่วม การศึกษา ผู้ป่วยติดเตียง
“เดินไม่ถึง 500 เมตร ก็ได้รับรู้ปัญหาในภาพย่อของกรุงเทพฯ แล้ว เชื่อว่าปัญหาเหล่านี้ก็เกิดขึ้นกับแฟลตของการเคหะแห่งชาติอีกหลายแห่ง เพราะว่ามีประชาชนอยู่อาศัยประมาณ 1 ล้านคน” นายชัชชาติกล่าว
ส่วนในช่วงระหว่างการลงพื้นที่ของนายกฯ มีชาวบ้านเข้ามาร้องเรียน และติการทำงานของหน่วยงานภาครัฐ นายชัชชาติกล่าวว่า ชาวบ้านคนดังกล่าว มาร้องเรื่องสภาพชำรุดของแฟลต เพราะมีปัญหาเรื่องน้ำรั่วน้ำซึม ซึ่งปัญหานี้เป็นหน้าที่ของการเคหะแห่งชาติ ซึ่งได้ดำเนินการของบประมาณปรับปรุง ทั้งนี้ไม่ใช่หน้าที่ของ กทม.โดยตรง ส่วนนายกฯ ได้สั่งการรับปากกับชาวบ้าน ให้ซ่อมแซมภายใน 3 เดือน
ส่วนเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าซึ่งมีการร้องเรียนว่ามีการจำหน่ายในรอบพื้นที่สถานศึกษา นายชัชชาติกล่าวว่า การจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย โดย กทม.เน้นการตรวจค้นภายในสถานศึกษา ตามอำนาจที่ กทม.มี ซึ่งได้ผลค่อนข้างดี เกิดการตื่นตัว ต้องขอขอบคุณทางรัฐบาลที่ช่วยจัดการในเรื่องนี้ด้วย
“ตามจริงต้องห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้าทุกจุด เพราะผิดกฎหมาย ห้ามนำเข้า ไม่เหมือนกับสุราที่อาจจะมีการกำหนดห้ามจำหน่ายรอบรัศมีตามที่ต่างๆ” นายชัชชาติกล่าว
ส่วนกรณีที่กลุ่มยุวทัศน์ซึ่งมีการอ้างอีกเรื่องการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้ารอบๆสถานศึกษา 72 แห่งในพื้นที่กรุงเทพฯ นั้น นายชัชชาติกล่าวว่า เบื้องต้นได้ร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ในหารตรวจจับมากกว่า ส่วน กทม.คงไม่มีการประกาศห้ามจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า เพราะไม่มีอำนาจ มันเป็นของที่ผิดกฎหมายอยู่แล้ว
“กทม.ได้เผยแพร่รูปแบบหน้าตาบุหรี่ไฟฟ้าคล้ายของเล่น คุณครู ผู้ปกครองต้องช่วยกันดู เพราะเป็นเทคโนโลยีมาใหม่ที่เป็นปัญหา บางทีเราก็ตามไม่ที่ดูไม่ออก เหมือนทัมไดรว์แต่เป็นบุหรี่ไฟฟ้า” นายชัชชาติกล่าว
