“จิรัฏฐ์” เหน็บ ตามหา “ปาหี่” ในสภา ถามกู้ ทัพเรือ“รล.สุโขทัย” คืบหน้าไปถึงไหน จี้ล่า “ไอ้โม่ง” ตัวใหญ่มาลงโทษถาม “สุทิน” จะอยู่ข้างผู้มีอำนาจหรือดวงวิญญาณคนตาย ชี้ ถ้าไม่รู้ทำยังไงลองใช้วิธี “นายกฯ” เด้ง 2 บิ๊กไว้ก่อน ค่อยสืบเสาะหาความจริง ซัดเดือด ทร.เล่นละคร ทำเป็นงบไม่พอมาขอทุกปี
เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2567 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริง หรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 เป็นวันที่ 2
ย้อนอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ไอติม ทวงสัญญา แก้ไขรัฐธรรมนูญ จับตาเตรียมไพ่ตาย วางเงื่อนไขสืบทอดอำนาจ
- วิโรจน์ ถามรบ. พอได้หรือยัง ซีรี่ส์พัฒนาร่วมกับกองทัพ งัดโครงการเก่ายุคบิ๊กตู่ มาตบตาประชาชน
- เศรษฐา ลุกเย้ยฝ่ายค้าน อภิปรายกองทัพ มีแต่น้ำ ย้อนใครกันแน่ใช้ไอโอ ทำคนหน้ามืดตามัว
- ก้าวไกล ถามกองทัพ ซานต้าหรือตีนแมว ฮุบที่ชาวบ้าน มาให้เช่า ปูดรบ.จ้องที่ทร. มาทำกาสิโน
ต่อมา เวลา 11.30 น. นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล อภิปรายในส่วนของกระทรวงกลาโหม ตอนหนึ่งว่า ตนมาหา “ปาหี่” เป็นปลาชนิดหนึ่ง พบเจอได้แถวอ่าวไทย 19 ไมล์ทะเล ที่ความลึก 40 เมตร จุดเดียวกันกับเรือสุโขทัยอับปาง การจะจับไม่ได้ง่าย ถ้าจะจับต้องจับที่สภา เรื่องนี้ตนได้อภิปรายเตือน นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไปแล้ว 2 ครั้งในเรื่องของการตรวจสอบ ติดตามทำให้โปร่งใสในกรณีการกู้ซากเรือหลวงสุโขทัย จนถึงวันนี้กองทัพเรือยังสอบสวนอยู่เอาเวลาไปเล่นปาหี่กับโศกนาฏกรรม ซึ่งความคืบหน้าล่าสุดคือภารกิจกู้เรือแบบจำกัด จนจบภารกิจผู้บัญชาการกองเรือยุทธการตั้งโต๊ะแถลงบนเรือกลางทะเล โดยไม่รอให้ถึงฝั่งก่อน
ปาหี่แรกที่เจอคือ เรือที่สามารถบรรจุน้ำมันได้เป็นแสนลิตรล่ม แต่ไม่มีน้ำมันรั่วไหล รวมถึงเก็บกู้วัตถุพยานได้ 5 อย่าง ได้แก่ สมุดบันทึกเดินเรือที่ทำมาจากกระดาษ โน้ตบุ๊ก มือถือ กล่องบันทึกภาพวงจรปิด ซึ่งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่แช่ในทะเล 15 เดือน หากกู้ได้ถือว่าเป็นปาฏิหาริย์ แต่ที่กู้ไม่ได้แน่ๆ คือ นำมาทำให้แห้ง เนื่องจากจะเกิดคราบออกซิเดชั่น ทำให้พังทันที กรรมการสอบที่เก็บหลักฐานก็ไม่มีความรู้ และไม่นำผู้เชี่ยวชาญเข้าไป หลักฐานอีกชิ้นคือเสื้อชู้ชีพหนึ่งตัวที่ไม่ทราบว่าจะนำขึ้นมาทำไม ในขณะที่ภารกิจเก็บกู้วัตถุที่จะนำไปเป็นอนุสรณ์สถานที่ อ.สัตหีบ เก็บกู้ได้ 11 อย่าง แต่ได้หลักฐานในการสืบสวนสาเหตุเรือล่มได้มาแต่ของที่ใช้ประโยชน์ไม่ได้ และในการแถลงได้ระบุว่า ได้มีการถ่ายภาพตัวเรือไว้ 58 จุดที่กรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงต้องการ เพียงพอต่อการสรุปว่า ทำไมเรือถึงล่ม โดยที่ไม่จำเป็นต้องกู้เรือทั้งลำ
“คำถามคือก่อนหน้านี้ทำไมสรุปไม่ได้ ในเมื่อภาพถ่ายที่กรรมการบอกมีเพียงรายการเดียว คือประตูผนึกน้ำซึ่งกองทัพเรือดำลงไปแล้วหลังเรือล่มไม่กี่วัน ได้ภาพมาหมดแล้วทำไมถึงสรุปไม่ได้ บอกว่าต้องกู้เรือก่อนเท่านั้น ตอนนั้นที่ดำลงไปไม่มีมีเพรียงทะเลมากขนาดนี้ท่านเห็นหรือ ขนาดสีเรือยังมองไม่เห็น เมื่อ ก.พ.ปีที่แล้ว นักข่าวถามโฆษกกองทัพเรือว่า ต้องกู้เงินให้เปลืองงบอีกหรือในเมื่อได้ภาพมาแล้ว ท่านตอบว่าเรือตั้งแท่นอยู่ในดินลึก 1 เมตร เราได้ภาพไม่ชัดเนื่องจากดำลงไปถ่ายใต้ท้องเรือไม่เห็น ต้องกู้เรือก่อนถึงจะสามารถสรุปได้ แล้ววันนี้ท่านได้ดำดินถ่ายหรือยัง ก็ไม่ได้ถ่ายเหมือนเดิม ทำไมวันนั้นสรุปไม่ได้ วันนี้สรุปได้” นายจิรัฏฐ์กล่าว
นายจิรัฏฐ์กล่าวว่า ภารกิจกู้เรือ 19 วันแบบจำกัด ย้อนไปวันที่ 3 ของการภารกิจ โฆษกให้สัมภาษณ์ว่าผู้บัญชาการทหารเรือ นำงบกลางที่ขอมาใช้กู้เรือ 90 ล้าน ที่ยังไม่ได้ใช้ส่งคืนสำนักงบประมาณแล้ว ตนขอถามว่า จะรีบคืนไปไหน รู้ได้อย่างไรว่าไม่ต้องใช้แล้ว ตามกำหนดการของภารกิจการลงไปเก็บหลักฐานเพื่อประกอบการสอบสวนหาสาเหตุการล่ม จะเริ่มวันที่ 4 ท่านรู้ล่วงหน้าใช่หรือไม่ ถึงได้คืนงบไปก่อน ทุกคนรู้แล้วว่าจะไม่กู้ตั้งแต่แรก ไม่เช่นนั้นคงไม่ต้องรอถึง 15 เดือน ขอให้ทำให้เนียน อย่าให้ประเจิดประเจ้อ คนเขาจะหาว่าเล่นปาหี่ ที่ผ่านมากองทัพเรือระบุว่าไม่มีบริษัทไหนผ่านคุณสมบัติในการประมูลกู้เรือ แต่หากไปดูตามเอกสาร มีถึง 4 บริษัทที่มีคุณสมบัติครบ ตามเอกสารราชการ นอกจากนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวไปถามนายสุทินกลับอ้างข้อตกลงของอเมริกา ซึ่งกองทัพเรือฝืนมา 14 เดือนแล้ว ไปเปิดประมูลเอง โดยไม่แจ้งอเมริกาก่อน ทำให้ทางอเมริกาต้องส่งจดหมายเตือน แต่ก็ไม่ได้รับการตอบกลับจากทางการไทย
นายจิรัฏฐ์ย้ำว่า เล่นปาหี่กัน แล้วพอช่วงฤดูงบประมาณ ก็มาของบ บอกว่างบไม่พอใช้ทุกปี กรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงท่านสอบปากคำผู้รอดชีวิตแล้วทุกคนหรือไม่ ไม่รู้บ้างหรือว่าบางคนเอาชีวิตรอดมาได้โดยการเกาะศพเพื่อน 3-4 ชั่วโมงกลางทะเล เพื่อรอคนมาช่วย เนื่องจากเพื่อนสวมเสื้อชูชีพอยู่
“บางคนเห็นเพื่อนรักตัวเองแขนขาดน้ำลายฟูมปากตายต่อหน้าต่อตา ก็ทำอะไรไม่ได้ บางคนยอมปล่อยมือ ผลักเพื่อนรักตัวเอง เพื่อจะเอาชีวิตรอด บางคนอยู่ในจุดที่ปลอดภัยแล้ว ยังดึงดันกลับไปช่วยคนอื่น หลายคนเป็นทหารจับใบแดงมา เพิ่งได้มาอยู่ชายฝั่ง กลับไม่ถูกสั่งขึ้นเรือกะทันหัน และเป็นการขึ้นเรือครั้งแรกของเขา โดยไม่รู้ว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิต พวกท่านจะกล้าเล่นปาหี่บนความตายหรือ” นายจิรัฏฐ์กล่าว
นายจิรัฏฐ์ระบุว่า ถ้าถามว่าทำไมกองทัพเรือถึงไม่พยายามหาข้อพิสูจน์ ตนเชื่อว่าทุกคนตอบได้ เพราะถ้าปรากฏขึ้นมาจะฉิบหายกันถ้วนหน้า ตนจึงอยากถามนายสุทินก่อนที่จะมีการแถลง เลิกอ้างการซ้อมรบ เพราะการออกเรือครั้งนี้เป็นการไปงานเสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพรอย่างเดียวเท่านั้น นี่เป็นความรับผิดชอบของกองเรือยุทธการในการเตรียมความพร้อม
นายจิรัฏฐ์ยังเล่าถึงเหตุการณ์ในวันดังกล่าว ก่อนจะตั้งคำถามถึงการช่วยชีวิต การปฏิบัติหน้าที่ และการสั่งกระทั่งที่เรือเอียง เกิน 40 องศา พร้อมวินิจฉัยว่า การล่มของเรือมาจาก 2 สาเหตุ คือมีการซ่อมแซมเรือก่อนออกไปด้วย ดังนั้นกรมอู่ทหารเรือต้องตอบคำถามในเรื่องนี้ และมีการเติมน้ำมันน้อยไป ทำให้เรือโคลงเคลง กองเรือภาคที่ 1 กรมอู่ทหารเรือ ต้องตอบคำถามให้ได้ เหตุการณ์นี้เป็นเรือรบลำแรกของโลกที่ล่มเพราะเจอคลื่น
นายจิรัฏฐ์ตั้งคำถามว่า ทำไมผู้การเรือสุโขทัย ยกเลิกการเข้าอ่าวบางสะพาน มีไอ้โม่งคนไหน ถ้าไม่ใช่คำสั่งคนใหญ่โตจะเป็นใคร ที่ทำได้โดยไม่มีบันทึกสั่งการ ตนคิดว่า ไม่ได้หายากด้วย มองว่าเป็นการปล่อยปละละเลยไม่ได้ห่วงชีวิตคนอื่น เราเคยหวังว่า จะได้ความจริงจากผู้รอดชีวิต เริ่มมีคนไปสัมภาษณ์ผู้รอดชีวิต พอเขาตอบว่า ไม่มีเสื้อชูชีพเท่านั้น หลังจากนั้นก็โดนสั่งปิดปาก หายตัวไปตลอดกาล ไม่มีใครได้เจอผู้รอดชีวิตอีกเลย 76 คน เราเคยหวังว่า จะพึ่งการกู้ซากเรือ เศษเหล็กมันไม่ตอแหล แต่มันก็ไม่ขึ้นมาจากน้ำ เราก็เคยหวังว่า จะได้เห็นศักดิ์ศรีของลูกประดู่ แต่ก็ไม่เกิดขึ้น
“หันไปถามนายกฯได้ไหมครับ ท่านสุทิน ว่าทำอย่างไร บิ๊ก ต. บิ๊ก จ. ในเมื่อห่วงว่าจะมายุ่งกระบวนการสอบสวน ท่านก็เด้งเขาไม่ใช่หรือ ท่านก็ทำแบบนี้ได้ เพราะ ตร.กับ ทร. ก็คงไม่ได้ต่างกัน ท่านเหยียบเรือ 2 แคมไม่ได้ ต้องเลือกระหว่างผู้มีอำนาจกับดวงวิญญาณผู้เสียชีวิต” นายจิรัฏฐ์กล่าว