ธรรมนัส ซัด อภิชาติ ด้อยค่า ส.ป.ก.-ฉโนดเพื่อการเกษตร ยันที่อุทยานเขาใหญ่ยังไม่จบ ต้องผ่าน ครม.ก่อน ลั่นไม่ยอมให้โฉนดเพื่อการเกษตรตกเป็นของกลุ่มทุนเด็ดขาด
เมื่อวันที่ 4 เมษายน ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริง หรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 เป็นวันที่สอง
จากนั้นเวลา 00.30 น.ของวันที่ 5 เมษายน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ชี้แจงเรื่องนโยบาย ส.ป.ก.ว่า นายอภิชาติ ไม่เข้าใจเรื่องส.ป.ก. หรือเจตนาแกล้งไม่เข้าใจ เพราะพี่น้องประชาชนเขาเข้าใจทุกจังหวัดว่าการเปลี่ยนแปลงส.ป.ก.4-01 ให้เป็นฉโนดเพื่อการเกษตรคืออะไร ไม่ใช่ฉโนดของกรมที่ดิน เรามีการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง พรรคพลังประชารัฐมีการปราศรัยหาเสียงตั้งแต่ปี 66 และหลายอย่างนายอภิชาติบิดเบือนข้อเท็จจริงกล่าวหา และพูดไม่หมด การที่จะให้นโยบายวันแม็บมันมีขั้นตอนต้องผ่านถึง3 ขั้นตอน ไม่ใช่อนุกรรมการวันแม็บเห็นชอบแล้วจบ และเมื่ออนุกรรมการฯเห็นชอบแล้วต้องนำเสนอคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ เมื่อคณะกรรมการฯเห็นชอบถึงต้องนำเสนอครม.เมื่อครม.เห็นชอบถึงจะมีผลบังคับใช้
ร.อ.ธรรมนัสกล่าวต่อว่า ส่วนที่นายอภิชาติบอกว่าที่ตนลงไปในพื้นที่ เป็นที่ดินของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่มันไม่ใช่ เพราะในการประชุมครม.เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 66 และลงมติว่า 1.เห็นชอบผลการดำเนินงานการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการมาตราส่วน 1ต่อ4,000 ที่เรียกว่าวันแมป พื้นที่กลุ่ม3 จำนวน 11 จังหวัด สิ่งสำคัญที่สุดมีการกำหนดว่ายกเว้นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ.นครราชสีมาและปราจีนบุรี ยืนยันชัดเจนว่ายังไม่จบกระบวนการ ดังนั้นเรื่องนี้ตราบใดที่ครม.ไม่เห็นชอบก็ยังไม่สามารถเอามาบังคับใช้ได้ และเวลานี้ครม.เห็นชอบทั้งหมด 33 จังหวัด และกำลังรอเข้าครม.อีก 11 จังหวัดเป็น 44 จังหวัด เหลืออีก 33 จังหวัดที่กำลังทำ รวมพื้นที่อุทยานฯเขาใหญ่ ดังนั้นตนขอชี้แจงให้เข้าใจตรงกัน ไม่เช่นนั้นประชาชนเข้าใจผิดหมด เป็นการด้อยค่าส.ป.ก.ด้อยค่าฉโนดเพื่อการเกษตร
ร.อ.ธรรมนัสกล่าวต่อว่า ส่วนของกิจการเพื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งนายอภิชาติตีความว่า จะนำไปเอื้อนายทุน ปลูกโรงแรม รีสอร์ทนั้น แต่ท่านยกตัวอย่าง พะเยาโมเดล ซึ่งพื้นที่ของมหาวิทยาลัยพะเยา เกิดขึ้นก่อนที่ตนจะเป็นรัฐมนตรีด้วยซ้ำไป เขาประกาศว่าเป็นพื้นที่วงรอบชุมชน แต่ปัจจุบันบริบทเปลี่ยนไปแล้ว คนไม่ทำไร่ทำนาตรงนั้น และการครม.สัญจร ที่ผ่านมา รัฐมนตรีหลายท่านก็บอกว่า พะเยาเปลี่ยนไปมากจริงๆ พื้นที่เปลี่ยนไปเป็นหอพักนักศึกษา เป็นปั๊มน้ำมัน จึงมีความจำเป็นต้องขยาย จะให้ตนไปไล่ทุบหรือ ดังนั้นกิจการทั้งหลาย ล้วนเกี่ยวเนื่องกับกิจการให้การบริการที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรทั้งนั้น รวมถึงที่อยู่อาศัย คนเราไม่มีที่อยู่อาศัยจะให้กางเต็นท์หรือ
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวถึงการแก้ระเบียบและประกาศของกระทรวงฯ โดยยกตัวอย่าง การเปลี่ยนอำนาจในการจัดสรรที่ดิน คปก. ให้เป็นของ เลขาธิการ ส.ป.ก. หรือผู้ที่ เลขาฯ ส.ป.ก. มอบหมาย นายอภิชาติก็ตีความผิดอีกแล้ว เนื่องจากประชาชน ร้องผ่าน สส. มาว่า ส.ป.ก. จัดสรรที่ดินได้ช้ามาก เพราะอำนาจไปอยู่กับผู้ว่าราชการจังหวัด จึงเป็นที่มาว่า ต้องนำเรื่องนี้ไปหารือกับคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งได้ตีความออกมาว่า อำนาจในการจัดสรรที่ดิน ให้เกษตรกรได้เข้าทำกิน เป็นของ ส.ป.ก.
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวอีกว่า ส่วนการป้องกันนายทุนเข้ามาขอรับการจัดสรรที่ดินแทนนั้น ยืนยันว่า การออกโฉนดเพื่อการเกษตร มอบสิทธิ์การทำประโยชน์ให้กับเกษตรกร โดยเพิ่มมูลค่า และสิทธิ์ต่างๆ สิ่งสำคัญที่สุดคือ เกษตรกรต้องเข้าทำกินไม่น้อยกว่า 5 ปี และหลังจากเปลี่ยนเป็นโฉนดเพื่อการเกษตรแล้ว ต้องเข้าทำกิน 2 ปี ถึงจะเปลี่ยนมือได้ และได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ถือครองที่ดินเพื่อการเกษตร และมีมาตรการลงโทษที่รุนแรงสำหรับการกระทำที่มิชอบด้วยกฎหมาย
“เราจะไม่ยอมอย่างเด็ดขาด ที่จะให้ที่ดินโฉนดเพื่อการเกษตรตกไปเป็นของกลุ่มทุน ผมได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมการทั้งหมด ว่าเราจะเอาจริงเอาจัง เอาที่ดินคืนให้กับพี่น้องเกษตรกรชาวไทย” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว
ทั้งนี้การชี้แจงของร.อ.ธรรมนัส ในช่วงหนึ่ง น.ส.รักชนก ศรีนอก ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล ได้ลุกขึ้นประท้วงว่า “ท่านพูดมา 35 นาทีแล้ว เริ่มจะวกวนซ้ำซาก” ซึ่งร.อ.ธรรมนัส ตอบกลับทันทีว่า “ไม่วกวนครับคนสวย” ทำให้น.ส.รักชนก ไม่พอใจและขอให้ถอนคำว่า “คนสวย” และขอให้อย่าใช้อีก ซึ่งร.อ.ธรรมนัส จึงขอโทษและยอมถอน
