กัณวีร์ หวั่นทหารพม่าหนีทัพ ทำกระทบชายแดน หวังรบ.เด็ดขาด ถ้ารับเป็นผู้ลี้ภัย จะต้องไม่ส่งกลับ

‘กัณวีร์’ มอง 3 แนวทางรบ.รับมือ ทหารเมียนมาหนีทัพหลบหนีอยู่ด่านเมียวดี 2 หวั่น การปะทะกระทบชายแดนไทย ถ้ารับเป็นผู้ลี้ภัยจะต้องไม่ส่งกลับ

เมื่อวันที่ 12 เมษายน ด่านพรมแดนแม่สอด 2 สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา จ.ตาก นายกัณวีร์ สืบแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม กล่าวว่า กรณีเร่งด่วนที่รัฐบาลไทยต้องตัดสินใจแก้ไขปัญหา กรณีทหารเมียนมาแตกทัพประมาณ 200 คน ซึ่งกว่า 100 คน อยู่บริเวณตรงข้ามสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 2 และอีก 100 คนอยู่ไม่ไกลออกไป หากมีการเข้ามาในไทยต้องถูกส่งกลับไปประเทศต้นทาง ซึ่งทางทหารเมียนมาอาจไม่อยากส่งกลับ และหากกองทัพเมียนมา ส่งกำลังเสริมมาโจมตีที่เมียวดี อาจเกิดการปะทะกัน ซึ่งทาง KNU ไม่ยอมเช่นกัน หากเป็นเช่นนี้จะกระทบเศรษฐกิจชายแดนและประชาชนไทย

“จึงเป็นความเร่งด่วนของรัฐบาลไทยที่จัดการในสถานการณ์ที่เปราะบาง ก็ให้กำลังใจ แต่เป็นสถานการณ์พิเศษที่มีการปะทะของกองกำลัง 2 ฝ่ายแล้วแตกหัก ประเทศไทยต้องตัดสินใจอย่างเด็ดขาด” นายกัณวีร์กล่าว

Advertisement

นายกัณวีร์กล่าวว่า มี 3 แนวทางที่จะเกิดขึ้นจากสถานการณ์นี้ คือ

  1. หากทหารเมียนมาหนีทัพมาแล้วแต่เกรงกลัวการถูกประหัตประหารถ้าถูกส่งกลับ ประเทศไทยจะสามารถให้พวกเขาลี้ภัยได้หรือไม่ ถ้าลี้ภัยได้สามารถปฏิบัติตามหลักการไม่ส่งกลับ ตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศได้
  2. ต้องแก้ไขปัญหาภายในระหว่างกลุ่มต่อต้านกับรัฐบาล เช่น การเจรจามอบตัวเป็นเชลยศึกในการดูแลของฝ่ายต่อต้าน ซึ่งภายในเจรจาได้ หรือจะใช้พูดคุยในส่วนคณะกรรมการชายแดน TBC ซึ่งเป็นแนวทางที่เป็นไปได้ ถ้ากองกำลังเมียนมา SAC ที่หนีทัพอยู่ ยอมจำนน อยู่ในฝ่ายต่อต้าน แล้วทำตามกฎหมายระหว่างประเทศต่อไป ก็เป็นไปได้
  3. ถ้ายังจัดการปัญหาไม่ได้ ก็จะมีการปะทะของสองฝ่ายในเมืองเมียวดี ซึ่งไม่อยากให้เกิดขึ้น เพราะจะกระทบประชาชนทั้งสองฝ่าย

นายกัณวีร์กล่าวว่า หากมีกองกำลังหนุนเสริมมาวันนี้ ทางเมียนมาจะส่งเฮลิคอปเตอร์พร้อมทหารราบ จะกระทบในเมืองเมียวดี และ อ.แม่สอด จ.ตาก ถ้ามีการปะทะก็จะกระทบทั้งหมด ซึ่งตนไม่อยากให้เกิดขึ้น และคาดหวังว่าการลงพื้นที่ของนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในวันนี้จะมีการตัดสินใจทางนโยบายที่เร่งด่วนและเด็ดขาด ซึ่งยินดีให้การสนับสนุนตามแนวทางที่ดีที่สุด รวมถึงข้อเสนอการให้เมืองเมียวดีและแม่สอดเป็น Safety Zone แล้วก็อยากให้เป็นพื้นที่ระเบียงมนุษยธรรมด้วย จึงอยากให้รัฐบาลไทยตัดสินใจอยู่บนพื้นฐานหลักมนุษยธรรม

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image