‘เศรษฐา’ รดน้ำอวยพรทักษิณ ลั่น ปมปรับครม. ภูมิคุ้มกันดีที่สุดคือทำงาน ไม่ต้องวิ่งให้เสียเวลา

‘เศรษฐา’ รดน้ำอวยพรทักษิณ ลั่นปมปรับครม. ภูมิคุ้มกันดีที่สุดคือทำงาน ไม่ต้องวิ่งให้เสียเวลา

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ใช้วันหยุดราชการในช่วงเทศกาลสงกรานต์วันสุดท้ายเมื่อวันที่ 16 เมษายน เข้าพบ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า เพื่อรดน้ำขอพรในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยนายเศรษฐาได้เข้าไปไหว้และรดน้ำดำหัว พร้อมมอบพวงมาลัย ให้แก่นายทักษิณ ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ในขณะที่นายทักษิณให้การต้อนรับด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส โดยได้รับไหว้และกล่าวขอบคุณนายเศรษฐา ก่อนที่จะได้พูดคุยเป็นการส่วนตัว

ต่อมานายเศรษฐาให้สัมภาษณ์ภายหลังได้เข้าพบนายทักษิณว่า มาตามประเพณีไทย มาสวัสดีปีใหม่และรดน้ำอวยพร และเอาพวงมาลัยมาไหว้ และกราบท่านครับ ซึ่งนายทักษิณได้อวยพรให้สุขภาพแข็งแรงและเป็นกำลังใจในการบริหารบ้านเมือง

นายเศรษฐาตอบคำถามผู้สื่อข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีว่า “ตอนนี้ยังไม่มีครับ สื่อไปพูดกันเอง แต่อย่างไรก็ตามมันก็ต้องปรับในวันหนึ่ง และถ้าเผื่อจะปรับก็จะทราบกันเอง ไม่อยากให้รัฐมนตรีที่มีรายชื่อออกมาขณะนี้หวั่นไหว ผมคิดว่าควรเร่งทำงานกันดีกว่า เพราะทุกๆ วันมีค่า แทนที่จะวิ่งเต้นวิ่งเซ่นมาหาท่านนั้นท่านนี้”

Advertisement

เมื่อถามว่า ที่มาพบกับนายทักษิณ ได้มีการพูดคุยกันเรื่องดังกล่าวด้วยหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า เป็นการพูดคุยเกี่ยวกับปัญหาบ้านเมืองธรรมดา ปัญหาเรื่องข้าวโพด ปัญหาเรื่องการเผาป่า ในเรื่องของความสะอาดของบ้านเมือง เป็นเรื่องธรรมดา รวมทั้งเรื่องของเมียนมาก็ได้มีการพูดคุยกัน

เมื่อถามย้ำว่าจะต้องมีการพูดคุยหรือเคลียร์กับรัฐมนตรีที่มีรายชื่อว่าจะถูกปรับที่มีการวิเคราะห์กันหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า “ไม่เคลียร์ครับ เพราะผมไม่ได้เป็นคนเขียน ผมไม่เคลียร์อยู่แล้ว”

เมื่อถามว่า แสดงว่าอยากให้รัฐมนตรีทุกคนตั้งใจทำงานมากกว่าใช่หรือไม่ นายเศรษฐกล่าวยอมรับ พูดมาตลอดเวลาและพูดมาโดยตลอดช่วงเวลา 1 เดือน ที่มีข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี และขอบอกตรงๆ ว่าภูมิคุ้มกันที่ดีที่สุดคือการทำงาน การทำงานที่ถูกต้อง ดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาลและของแต่ละกระทรวงก็มีนโยบายเรือธงอยู่แล้ว ซึ่งทุกท่านก็ทราบอยู่แล้วว่าต้องทำอะไรบ้าง

Advertisement

เมื่อถามว่าในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลได้มีการส่งสัญญาณมาถึงนายกรัฐมนตรีหรือยัง โดยเฉพาะบางพรรคที่ต้องการปรับ ครม. นายเศรษฐากล่าวว่า ทุกคนก็ทราบดีอยู่แล้วและเป็นสิทธิ์ของเขา แต่อยู่ดีๆ ตนคงไม่โทรไปถามว่าใครอยากปรับใครบ้าง แต่แน่นอนว่าอย่างเช่นพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยังมีเก้าอี้เหลือ 1 เก้าอี้ แต่ยังไม่มีการส่งสัญญาณอะไรมาถึงตน และยังไม่มีการพูดคุย

เมื่อถามว่า อดีตนายกรัฐมนตรีได้แนะนำอะไรบ้างในการทำงาน นายเศรษฐากล่าวว่า ไม่มี เป็นการพูดคุยถึงเรื่องบ้านเมืองธรรมดา แชร์ข้อมูลกันว่าสมัยท่านมีอะไรบ้าง สมัยนี้มีอะไรบ้างโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร และท่านก็เป็นกำลังใจให้ เพราะถือว่าท่านเป็นผู้ใหญ่ในบ้านเมือง เวลาที่ไปพบผู้ใหญ่หลายๆ ท่านทุกท่านก็เป็นห่วง บ้านเมือง ซึ่งก็มีการพูดคุยกันในทุกๆ ด้านทุกมิติ และถ้าเกิดต้องการความช่วยเหลืออะไรจากอดีตนายกฯ ท่านก็บอกว่าสามารถโทรศัพท์มาหาได้ทุกเมื่อ พร้อมให้คำแนะนำ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมามีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงภาพ เปรียบเทียบระหว่างตัวนายกรัฐมนตรีกับนายทักษิณ ที่มีบรรดารัฐมนตรีไปพบจำนวนมาก แต่ตัวนายกฯเองมีเพียงลูกเท่านั้น นายเศรษฐากล่าวว่า สื่อควรจะต้องบอกตนว่ามองกันอย่างไร ถึงจะสามารถตอบได้ เมื่อถามว่า ที่มีบรรดารัฐมนตรีไปพบและอยู่กับอดีตนายกฯจำนวนมากนั้น นายเศรษฐากล่าวว่า ก็เป็นเรื่องธรรมดาเพราะเขารู้จักกันมานาน อีกทั้งนายทักษิณ ก็เป็นผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทยมา ท่านรัฐมนตรีหลายท่าน อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.วัฒนธรรม นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ซึ่งไม่ต้องเอ่ยชื่อหมดทุกคน เพราะทุกท่านรู้จักคุณทักษิณมานานกว่าตน ให้ความเคารพกันมายาวนาน และนายทักษิณ ก็อายุมากกว่าบรรดารัฐมนตรีทุกๆ ท่านอยู่แล้ว และรัฐมนตรีที่เอ่ยชื่อไปก็อายุมากกว่าตน จึงเป็นธรรมดาที่จะไปพบกัน และตนก็ไม่ได้คิดอะไร และเคยให้สัมภาษณ์ไปแล้ว และหากสื่อกำลังจะบอกว่า นายทักษิณได้รับความนิยมชมชอบมากกว่าตน ตนก็ไม่ติดอะไร และถือเป็นเรื่องธรรมชาติอยู่แล้ว รับได้อยู่แล้วครับตรงนี้ ไม่ได้มีอะไร และวันสงกรานต์ก็เป็นวันของครอบครัว อีกทั้งเชียงใหม่ก็เป็นเมืองที่น่าเที่ยว หลายๆ ท่านก็ถือโอกาสไปรดน้ำดำหัว ก็เป็นประเพณี อีกทั้งท่านเอง นอกจากเป็นคนที่พรรคให้ความเคารพ นอกจากรัฐมนตรีก็ยังมี ส.ส.หลายท่าน

นายเศรษฐากล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่า อย่าไปคิดอะไรมากเลยกับการที่ตนมาเยี่ยมนายทักษิณวันนี้เพราะท่านเองเป็นผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย เป็นผู้ใหญ่ ที่ทุกคนในบ้านเมืองให้ความเคารพ เป็นคนที่มีความรู้ จึงเป็นธรรมดาที่ตนในฐานะนายกรัฐมนตรีหน้าใหม่ ก็ต้องมาขอคำแนะนำและพูดคุยถึงปัญหาบ้านเมือง รวมทั้งเล่าให้ฟังว่าทำอะไรอยู่บ้างหรือเป็นเรื่องธรรมดา ตนเจอกับผู้ใหญ่หลายคนในบ้านเมืองก็ขอคำปรึกษา และก็ทำงานอยู่แล้ว ไม่มีอะไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า ตั้งข้อสังเกตหรือไม่ทำไมมีกระแสข่าวว่านายกรัฐมนตรีจะไปนั่งควบเก้าอี้ รมว.กลาโหม นายเศรษฐากล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ทราบเลย แต่คงเป็นเรื่องที่ตนได้ไปเยี่ยมทหารและบ้านพัก ของข้าราชการทหารรวมทั้งเรื่องที่ตนสนิทสนมส่วนตัว ผบ.ทบ.และ ผบ.ทสส. มีการยกหูพูดคุยกันได้ ซึ่งเป็นหน้าที่อยู่แล้วในฐานะนายกรัฐมนตรี ได้ขอท่านไปว่าอยากให้ท่านช่วยดูแลเรื่องชายแดน พื้นที่ทำกินของราษฎร ซึ่งท่านก็ตอบสนองได้ดี แต่ตรงนี้ก็ไม่จำเป็นจะต้องมาเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรงหรือ รมว.กลาโหม เพราะสถาบันทหารเองทุกคนก็มีความเป็นมืออาชีพ มีวินัย ถ้าเผื่อนายกรัฐมนตรีขออะไรไปและเป็นเรื่องที่เหมาะสมเป็นเรื่องที่ถูกต้องเชื่อว่าทุกคนพร้อมจะทำให้อยู่แล้ว ตรงนี้ส่วนตัวคิดว่าไม่ใช่เรื่องที่จะต้องมาพูดคุยหรือมโนภาพ ว่าจะต้องเป็นอะไรตรงนั้นตรงนี้ เพราะที่ผ่านมาก็เป็นเรื่องธรรมดาในการพูดคุยก็พูดคุยบรรดารัฐมนตรีพาณิชย์ ปลัดกระทรวง หรืออธิบดีในกระทรวงพาณิชย์ แล้วทำไมถึงไม่บอกกันว่าจะไป รมว.พาณิชย์บ้าง ดังนั้นถือเป็นหน้าที่อยู่แล้วในการที่จะพูดคุยกันไม่มีนัยอะไร

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image