‘กมธ.อุตฯ’ จี้ เอาผิดบริษัทต้นทางขุดกากแคดเมียม ชี้ละเมิดกม.หลายฉบับ ทั้งพรบ.เหมืองแร่-รง.-วัตถุอันตราย-สวล.

‘กมธ.อุตฯ’ จี้ เอาผิดบริษัทต้นทางขุดกากแคดเมียม ชี้ละเมิดกม.หลายฉบับ ทั้งพรบ.เหมืองแร่-รง.-วัตถุอันตราย-สวล. แนะทำความเข้าใจปชช.ในพื้นที่ฝังกลบ

เมื่อเวลา 14.20 น.วันที่ 17 เมษายน ที่รัฐสภา นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ  (รทสช.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)อุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร แถลงภายหลังการประชุม กมธ. ว่า กมธ. มีความเป็นห่วงกรณีกากแคดเมียม โดยขอให้กระทรวงอุตสาหกรรมขนกากแร่ 12,400 ตัน จากทั้งหมด 13,800 ตัน กลับไปฝังกลบโดยบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์เพื่อป้องกันการฟุ้งกระจาย แม้กระทรวงอุตสาหกรรมจะยืนยันว่าจะมีการซีล 2 ชั้น ในระหว่างการขนย้ายได้มีแผนเผชิญเหตุระหว่างการขนย้ายไว้รองรับแล้ว แต่การบรรจุตู้คอนเทนเนอร์เราไม่ต้องกังวลในเรื่องการฟุ้งกระจายและส่งผล
กระทบต่อประชาชนในระหว่างทาง ส่วนการขนย้ายเสนอให้ใช้งบกลางไปก่อน แล้วไปฟ้องเอากับเอกชนทีหลัง

นายอัครเดช กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีการลักลอบขุดกากแคดเมียมออกจากบ่อฝังกลบที่โรงงานใน จ.ตาก นั้น ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมได้ขอให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) มาดำเนินการสอบสวนเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ภาครัฐในกระทรวงอุตสาหกรรมเกี่ยวข้อง ซึ่งเบื้องต้นทราบว่ามีการอนุญาตให้ขุดกากแคดเมียมขึ้นมาโดยเจ้าหน้าที่อุตสาหกรรม จ.ตาก ซึ่งกระทรวงได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาสอบสวนมีหัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นประธานคณะกรรมการฯ รวมทั้งได้โอนคดีจาก บก.ปทส. ไปให้กรมสอบสวนพิเศษ (ดีเอสไอ) ดำเนินการในส่วนของการเอาผิดทั้งจากบริษัทต้นทางและปลายทาง ยืนยันว่ากมธ.จะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดต่อไปจนจบสิ้นกระบวนการ

เมื่อถามว่าต้องยึดกฎหมายเรื่องผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) โดยต้องนำกลับไปฝังกลบที่ จ.ตาก แต่ประชาชนในพื้นที่ไม่เห็นด้วยจะดำเนินการอย่างไร นายอัครเดช กล่าวว่า คิดว่าประชาชนมีเหตุผล ถ้าหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องลงไปทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ ถึงมาตรการการดำเนินการตามหลักกฎหมายและหลักวิชาการ คิดว่าประชาชนคงไม่ต่อต้าน การที่ประชาชนหวั่นเกรงเพราะข้อมูลที่ได้รับไม่ชัดเจน จึงเกิดความวิตกกังวล และเชื่อคนที่ออกมาต่อต้าน ซึ่งในที่ประชุม กมธ.ได้ซักตัวแทนสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ถึงการตรวจบ่อกักเก็บฝังกลบกากแคดเมียมทั้ง 7 บ่อ ทางสผ.ยืนยันว่าไม่มีการปนเปื้อนออกสู่สิ่งแวดล้อม แสดงว่าที่ผ่านมาการกักเก็บกากแคดเมียมดังกล่าวมีความปลอดภัย จึงขอให้ประชาชนรับฟังข้อมูลจากส่วนราชการ อย่าฟังจากข่าวลือหรือผู้ไม่หวังดี ที่ให้ข้อมูลและต่อต้านในพื้นที่

Advertisement

เมื่อถามถึงการดำเนินคดีกับบริษัทต้นทาง เหตุใดยังไม่มีความคืบหน้า นายอัครเดช กล่าวว่า ในส่วนของเจ้าหน้าที่ภาครัฐ ป.ป.ท.เข้าไปดำเนินการแล้ว ส่วนผู้ประกอบการปลายทางทาง รมว.อุตสาหกรรมได้มอบหมายให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาหนึ่งชุดและไปร้องเรียนที่ บก.ปทส.แล้ว โดยดำเนินการทั้งที่ ชลบุรี กทม. และสมุทรสาคร ขณะที่การเอาผิดที่บริษัทต้นทางได้พูดคุยในที่ประชุมกมธ.กันอย่างมาก ว่าการขุดแคดเมียมขึ้นมาจากแหล่งฝังกลบเป็นการละเมิดกฎหมายอีไอเอ ซึ่งตัวแทนของ สผ. ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเมืองแร่ (ก.พ.ร.) และกรมโรงงานอุตสาหกรรมเห็นพ้องกันว่าเป็นการละเมิด พ.ร.บ.เหมืองแร่ พ.ร.บ.โรงงาน พ.ร.บ.วัตถุอันตราย ถึงแม้ว่าใบอนุญาตโลหะกรรม จะหมดอายุไปแล้ว (ใบอนุญาตถลุงแร่) แต่มาตรการป้องกันผลกระทบสิ่งแวดล้อมของอีไอเอยังคงอยู่และต้องปฏิบัติตาม รวมถึงใบอนุญาตให้ทำโรงงาน (รง.4) ยังคงอยู่ จึงต้องทำตามกฎหมายอีไอเออย่างเคร่งครัด และกากแร่ดังกล่าวถือเป็นวัตถุอันตราย และเป็นการละเมิด พ.ร.บ.วัตถุอันตรายด้วย ทางกมธ.จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูว่าจะสามารถแจ้งความดำเนินคดีกับบริษัทต้นทางในข้อหาอะไรได้บ้าง เพราะละเมิดกฎหมายหลายฉบับ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image