ก้าวไกล ห่วง 5 ประเด็นขนย้ายกากแคดเมียมกลับตาก รับชัดเจนรง.เก็บเป็นญาติ ‘ส.ก.เนอส’ ขอให้เป็นไปตามกม.

ก้าวไกล ห่วง 5 ประเด็นขนย้ายกากแคดเมียมกลับตาก รับชัดเจน รง.เก็บเป็นญาติ ‘ส.ก.เนอส’ ขอให้เป็นไปตาม กม. จี้กระทรวงทรัพย์ฯ กล้าใช้กฎหมายฟันบริษัทต้นกำเนิดมลพิษ-ฝืนอีไอเอ

เมื่อวันที่ 18 เมษายน ที่รัฐสภา ส.ส.พรรคก้าวไกล ในนามกลุ่ม ‘ก้าวกรีน’ นำโดยนายเดชรัต สุขกำเนิด ผอ.สถาบันวิจัยนโยบายเพื่ออนาคต (Think Forward Center) นายคริษฐ์ ปานเนียม ส.ส.ตาก นายณัฐพงษ์ สุมโนธรรม ส.ส.สมุทรสาคร เขต 1 และ น.ส.ภัสริน รามวงศ์ ส.ส.กทม. เขตบางซื่อ ร่วมกันแถลงข้อห่วงใยกรณีการขนย้ายกากแคดเมียมกลับไปยัง จ.ตาก ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาขนย้ายประมาณ 480 กว่าเที่ยวคันรถ และใช้เวลา 1-2 เดือน

โดยนายเดชรัตกล่าวว่า ทางพรรคจึงมีความกังวลต่อการปฏิบัติและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง พร้อมตั้งข้อสังเกต 5 ประเด็น คือ 1.กากแคดเมียมที่พบทั้งหมดในปัจจุบันและกำลังจะขนกลับไป ยังไม่ครบจำนวน 13,800 ตัน เพราะปัจจุบันยังค้นไม่พบ ขาดอยู่จำนวน 1,265 ตัน คาดการณ์ว่าอาจจะเกิดจากความชื้นที่ลดลง หรือการคำนวณน้ำหนักที่ไม่แน่ชัด ซึ่งพรรคก้าวไกลกังวลว่าอาจจะมีการกักเก็บในพื้นที่อื่นๆ ที่ยังไม่ทราบในบางพื้นที่ เช่น กรณีที่พบที่เขตบางซื่อ มีแคดเมียม 150 ตัน ดังนั้นอีก 1,265 ตันอาจจะกระจายอยู่ในพื้นที่อื่นได้ หรืออาจเป็นไปได้ว่ามีการหลอมแคดเมียมไปแล้วบางส่วน โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.สมุทรสาครและชลบุรี จึงอยากให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเปิดเผยข้อมูลให้ประชาชนทราบอย่างโปร่งใส 2.ขอให้รัฐบาลตรวจสอบสารปนเปื้อนทั้งในร่างกายและสิ่งแวดล้อมให้ครอบคลุมพร้อมกับกำหนดมาตรการฟื้นฟูเยียวยาโดยไม่อ้างข้อติดขัดใดๆ ทั้งสิ้น และขอให้ประกาศพื้นที่ควบคุมมลพิษ

นายเดชรัตกล่าวต่อว่า 3.การขนส่งกากแคดเมียมไปยังจังหวัดตากนั้น จะต้องมีบุคคลที่สามหรือมีส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบความพร้อมพื้นที่จัดเก็บ เนื่องจากก่อนหน้านี้การลักลอบขุดกากแคดเมียมส่งผลให้คอนกรีดฝังกลบ ได้รับความเสียหายจากการขุดของรถแบ๊กโฮ ส่งผลให้ประชาชนในจังหวัดตาก กังวลเรื่องความปลอดภัย จนต้องออกมาเรียกร้อง 4.หลังประเมิน เที่ยวรถในการขนส่งและปริมาณรถที่ขนได้ พบว่า ต้องขนมากกว่า 480 เที่ยว ซึ่งอาจต้องใช้ระยะเวลานาน 1-2 เดือน และกำลังเข้าสู่ช่วงฤดูฝน อาจทำให้มีการปนเปื้อนระหว่างขนส่งได้ ดังนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรเข้มงวดโดยใช้รถที่ได้รับอนุญาตให้ขนส่งวัตถุอันตราย และมีมาตรการป้องกันกรณีเกิดอุบัติเหตุด้วย และ 5.สรุปบทเรียนจากเหตุการณ์นี้ เพื่อหาข้อผิดพลาดนำไปสู่มาตรการการแก้ไข โดยเปิดโอกาสให้ประชาชนร่วมตรวจสอบ ที่ต้องควบคุมอย่างชัดเจนและเปิดเผยต่อสาธารณะ

Advertisement

เมื่อถามว่าการนำกากแคดเมียมกลับไปยัง จ.ตาก จะมีชาวบ้านในพื้นที่มาประท้วง สถานการณ์ในพื้นที่เป็นอย่างไรบ้าง โดยนายคริษฐ์กล่าวว่า จากการที่ตนลงพื้นที่กับรองอธิบดีกระทรวงอุตสาหกรรม จู่ๆ ชาวบ้านในพื้นที่ก็พูดขึ้นมาว่าถ้าสภาพของบ่อกลบยังไม่เรียบร้อย ไม่มีความปลอดภัย ชาวบ้านก็อาจจะออกมาคัดค้าน แต่ถ้ากระบวนการทุกอย่างถูกต้อง มีความเชื่อมั่นก็พอจะเจรจากันได้ ตนมองว่า จ.ตากมีทรัพยากรมาก ที่ผ่านมามีผู้คนมาตักตวงผลประโยชน์ออกไป เราเข้าใจดีว่ามาจาก จ.ตากและต้องนำกลับไป คนจังหวัดตากก็กังวลเช่นเดียวกับคนพื้นที่อื่น ซึ่งพอจะขนกลับมาก็ยอมรับได้ แต่กระบวนการต้องกระทบประชาชนน้อยที่สุด เพราะสิ่งเหล่านี้จะต้องอยู่กับพวกเขาไปจนตาย

เมื่อถามว่ากระบวนการในการเอาผิด จะมีใครได้รับโทษบ้าง นายเดชรัตกล่าวว่า มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ใบอนุญาต ต้องไปตรวจสอบว่าใครผิดบ้าง ยืนยันว่าในพื้นที่มีกากโลหะหนักจากการทำเหมืองแร่สังกะสีที่ได้กากแคดเมียม ตอนทำอีไอเอระบุว่า จะฝังเก็บถาวร แต่พอตอนย้ายออกไป ทำไมไม่แจ้งให้ทราบ ส่วนจะมีการยื่นเอาผิดเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องหรือไม่ นายเดชรัตยืนยันว่า ใช้ช่องทางสภาแน่นอน แต่ช่วงนี้ยังปิดสมัยประชุม เมื่อมีโอกาสก็จะเร่งดำเนินการในทุกช่องทาง

ส่วนประเด็นที่เจ้าของโรงงานที่เก็บกากแคดเมียมเป็นของญาติ น.ส.ภัทราภรณ์ เก่งรุ่งเรืองชัย หรือ ส.ก.เนอส พรรคก้าวไกล ได้มีการสอบถามไปที่ตัว ส.ก.หรือไม่ นายเดชรัตกล่าวว่า เราได้สอบถามแล้วตั้งแต่วันแรกที่เกิดเหตุ ทุกอย่างเป็นไปตามข้อกฎหมาย หลักฐานชัดเจน ไม่มีเรื่องอะไรต้องสงสัย
เมื่อถามว่าสามารถใช้กฎหมายอีไอเอหรือกฎหมายของกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดำเนินการเอาผิดบริษัทต้นทางได้เลยหรือไม่ นายเดชรัตกล่าวว่า ทำได้เลย และขอย้ำว่าเรื่องนี้มีหน่วยงานในกระทรวงอุตสาหกรรมให้การอนุญาตด้วย

Advertisement

ด้านนายพูนศักดิ์กล่าวเสริมว่า กระทรวงทรัพยากรฯ สามารถดำเนินการเอาผิดบริษัทต้นกำเนิดมลพิษ ได้ตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม 2535 โดยกรมควบคุมมลพิษ ต้องดำเนินการเอาผิดกับบริษัทเอกชนที่เป็นต้นกำเนิดของกากแคดเมียม ขณะที่สำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) สามารถดำเนินการเอาผิดในเรื่องการฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตามอีไอเอ ซึ่งมีโทษทั้งจำทั้งปรับ แต่ตนยังไม่เห็นแอ๊กชั่นจากกระทรวงทรัพยากรฯในเรื่องนี้ เหมือนกรณีที่ผ่านๆ มา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image