‘อุ๊งอิ๊ง’ เดินหน้า OFOS ผลักดันไทยปท.รายได้สูง-ตั้ง THACCA จ่อเข้าสภา มิ.ย.

อุ๊งอิ๊ง แถลงเดินหน้า OFOS หนึ่งครอบครัว หนึ่งซอฟต์พาวเวอร์ ผลักดันไทยเป็นประเทศรายได้สูง-จัดตั้งหน่วยงาน THACCA จ่อเข้าสภา มิ.ย.

เมื่อวันที่ 19 เมษายน ที่ห้องวิเทศสโมสร กระทรวงการต่างประเทศ มีการประชุมคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ครั้งที่ 4 ประจำปี 2567 โดยมี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ในฐานะประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ เป็นประธานการประชุม รวมถึงยังมี นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ ที่ปรึกษาและกรรมการคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ , นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ รวมถึง คณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ด้านต่างๆ คณะอนุกรรมการฯ ทั้ง 11 สาขา ร่วมประชุมกันอย่างพร้อมเพรียง

นางสาวแพทองธาร แถลงภายหลังการประชุมว่า เป็นก้าวสำคัญที่จะยกระดับชีวิตของพี่น้องประชาชน โดยทางคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์มียุทธศาสตร์ 3 ข้อ ในการสร้าง ซอฟต์พาวเวอร์ และการพัฒนาอุตสาหกรรม โดยมีคณะอนุกรรมการทั้ง 11 คณะที่เป็นภาคเอกชนมาพัฒนาอุตสาหกรรมทั้งออกแบบนโยบาย และแก้ไขกฎหมาย อีกทั้งจัดตั้งหน่วยงานที่ชื่อ THACCA หรือ Thailand Creative Culture Agency ผ่าน พ.ร.บ. ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนรับฟังสาธารณะ โดยตั้งเป้าหมายว่าจะเข้าสภาในช่วงมิถุนายนนี้ โดยยุทธศาสตร์ 3 ข้อ ประกอบไปด้วย นโยบายต่างประเทศเพื่อสร้าง Soft Power โดยตนได้มีโอกาสไปพบกับหน่วยงานรัฐบาลและเอกชนของต่างประเทศ จากทั่วทุกมุมโลกจากทุกมหาอำนาจ เพื่อหาความร่วมมือ รวมถึงทำงานร่วมกับกระทรวงต่างประเทศ และกระทรวงพาณิชย์ในการส่งออกเพื่อสร้าง Soft Power และ ส่วนที่ 3 คือสิ่งที่อยากมารายงานความคืบหน้าของการทำงาน ในวันนี้ นั่นคือ ส่วนของการพัฒนาศักยภาพพี่น้องคนไทย OFOS นโยบาย หนึ่งครอบครัว หนึ่งซอฟต์พาวเวอร์ หรือ หนึ่งศักยภาพซอฟต์พาวเวอร์ ซึ่งจะเป็นโครงการที่ผลักดันให้ประเทศไทย เปลี่ยนจากประเทศรายได้ปานกลางสู่ประเทศรายได้สูง สร้างแรงงานทักษะสูง 20 ล้านคน ซึ่งนั่นคือการสร้างงานถึง 20 ล้านตำแหน่ง ที่มีรายได้อย่างน้อย 200,000 บาทต่อปีในอนาคต

Advertisement

“อาชีพที่สร้างซอฟต์พาวเวอร์ ไม่ว่าจะเป็น อาชีพเชฟอาหารไทย อาชีพนักมวยไทย อาชีพครูมวยไทย อาชีพนักตัดเย็บ และอีกหลายอาชีพ จะสามารถยกระดับรายได้ของพี่น้องประชาชน ให้มีรายได้ไม่น้อยกว่า 200,000 บาทต่อปี ซึ่งนี่คือเป้าหมายของเรา เราจะมีการจัดอบรม UpSkill, ReSkill ให้พี่น้องประชาชนทุกคนที่อยากเรียนรู้ทักษะใหม่ พัฒนาศักยภาพให้ตัวเองเพิ่มเติม โดยทั้งหมดนี้จะเป็นการเรียนฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย” นางสาวแพทองธารกล่าว

นางสาวแพทองธาร กล่าวอีกว่า ในส่วนของการจัดอบรม และการลงทะเบียนจะมีสองช่องทางด้วยกัน คือช่องทางออนไลน์ ทั้งเว็บไซต์ และแอพพลิเคชัน และกองทุนหมู่บ้าน สามารถติดตามรายละเอียดได้ที่เพจเฟซบุ๊ก THACCA ซึ่งในการอบรมโครงการ OFOS จะเปิดให้ลงทะเบียนพร้อมกันทุกหลักสูตรของ 11 อุตสาหกรรมในต้นเดือนมิถุนายน ซึ่งมีการตั้งเป้าหมายการอบรมทั้งระบบออนไลน์ และออนไซต์ รวมทั้งสิ้น 280,000 คน โดยระบบออนไลน์ 266,400 คน ออนไซต์ 30,000 คน ยกตัวอย่างเช่น โครงการ หนึ่งหมู่บ้านหนึ่งเชฟอาหารไทย ที่จะผลักดันให้ซอฟต์พาวเวอร์อาหารไทยนั้นยั่งยืน โดยจัดการเรียนการสอนทั้งในระบบออนไลน์และออนไซต์เช่นเดียวกัน ซึ่งเชฟชุมพล แจ้งไพร ประธานอนุกรรมการซอฟต์พาวเวอร์ด้านอาหารไทย และทีมงาน เป็นผู้ออกแบบหลักสูตร โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือประชาชนทั้งประเทศที่ต้องการโอกาส ในการเพิ่มทักษะ, ตัวแทนหมู่บ้านที่ถูกคัดเลือก หรือเจ้าของธุรกิจร้านอาหารไปจนถึง คนที่อยากเป็นเจ้าของธุรกิจ โดยเริ่มจาก 10,000 คน ต่อปี ซึ่งมีการตั้งเป้าหมายว่า ภายใน พ.ศ. 2567 ไปจนถึง พ.ศ. 2570 จะทำให้ได้ทั้งสิ้น 70,000 คน จุดประสงค์หลักเพื่อบ่มเพาะคนให้สามารถทำกิน ทำขายได้ และสร้างเสริมรายได้ให้กับครอบครัวและชุมชน หรือสามาถเข้าแข่งขันในระดับโลกได้ที่ใากไปกว่าการเปิดร้านในย่านเล็กๆ

Advertisement

นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ก่อนจะถึงการประชุมในวันนี้ (19 เมษายน) มีการประชุมผ่าน zoom ทั้งวันตั้งแต่เช้า จนถึงเย็นขอบคุณทุกท่าน ทุกภาคส่วนที่ร่วมกันทำงานอย่างหนักเพื่อประเทศชาติ ในส่วนของเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา มีเสียงตอบรับที่ดีมากในเรื่องของการจัดงาน ซึ่งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์ในด้านต่างๆ ได้ร่วมมือกันในการจัดงานในครั้งนี้ อีกทั้งเรายังได้มีการจัดสรรงบประมาณให้กับกระทรวงต่างๆ อาทิ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและการกีฬา กระทรวงพาณิชย์ หรือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

“ขอบคุณที่ทำออกมาได้อย่างเต็มที่ ทำให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติสนุกสนานกับเทศกาลสงกรานต์ แม้จะมีปัญหาในเรื่องงบประมาณอยู่บ้าง แต่ก็ขอบคุณที่งานออกมาอย่างราบรื่น ประจักษ์ต่อสายตานักท่องเที่ยวต่างชาติ และในจังหวัดอื่นๆ ก็ยังมีวันไหลอยู่ บางจังหวัดจัดงานเล็กๆไปจนถึงสิ้นเดือน ทำให้เศรษฐกิจของประเทศมีการหมุนเวียนเยอะมาก สุดท้ายนี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าในปีหน้า และในปีถัดๆ ไปจะได้เห็นเทศกาลสงกรานต์ที่ยิ่งใหญ่กว่าครั้งนี้ มากขึ้นไปอีก ให้สมกับที่นักท่องเที่ยวรอคอย” นางสาวแพทองธาร กล่าว

ทั้งนี้ สำหรับวาระการประชุมที่น่าสนใจอื่นๆ ในวันนี้ คือแต่งตั้งคณะอนุกรรมการซอฟต์พาวเวอร์ด้านต่างๆ เพิ่ม อาทิ แต่งตั้ง ปราบดา หยุ่น นักเขียนรางวัลซีไรต์ , ปฐม อินทโรดม อนุกรรมการลิขสิทธิ์ กรมทรัพย์สินทางปัญญาฯ , วโรรส โรจนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บจก.เด็กดีอินเตอร์แอคทีฟ และ เจน จงสถิตย์วัฒนา รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทนามีบุ๊คส์ จำกัด เป็นคณะอนุกรรมการฯ ด้านหนังสือ (เพิ่มเติม) เป็นต้น

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image