รัฐบาลพอใจ ผลการจัดระเบียบขอทาน ช่วยเหยื่อค้ามนุษย์กว่า 3,800 ราย
เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลดำเนินการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ซึ่งเป็นวาระแห่งชาติอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการจัดระเบียบขอทานได้ผลเป็นที่น่าพอใจ โดยนับตั้งแต่เดือน กันยายน 2557 -มกราคม 2559 หรือประมาณ 1 ปี 4 เดือน ได้ช่วยเหลือขอทานทั้งเด็กและผู้ใหญ่ไปแล้วทั้งสิ้น 3,896 ราย เป็นคนไทย 2,487 ราย ชาวต่างชาติ 1,409 ราย
“เฉพาะเดือนมกราคม 2559 ให้ความช่วยเหลือขอทานไปแล้ว 159 ราย เป็นคนไทย 60 ราย ต่างชาติ 99 ราย โดยสิ่งที่น่าสังเกตคือ การนำเด็กตั้งแต่แรกเกิดถึง 10 ขวบ ไปนั่งขอทาน เนื่องจากสามารถทำรายได้สูงกว่ากลุ่มอื่น 2-10 เท่าตัว และเด็กเหล่านี้ส่วนใหญ่ หรือกว่าร้อยละ 90 เป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์ที่ลักลอบข้ามพรมแดนมาจากประเทศเพื่อนบ้าน” พล.ต.สรรเสริญกล่าว
พล.ต.สรรเสริญกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้นำเทคโนโลยีการตรวจรหัสพันธุกรรมมาช่วยคัดกรองและพิสูจน์ตัวเด็กกับผู้อ้างตัวเป็นผู้ปกครอง เพื่อตรวจสอบจับกุมผู้กระทำผิด ส่วนเหยื่อจะถูกส่งไปยังสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง เพื่อพัฒนาทักษะอาชีพและฟื้นฟูจิตใจแบบครบวงจรก่อนส่งกลับคืนสู่สังคม หากเป็นขอทานต่างชาติ สตม. ได้ดำเนินการผลักดันกลับประเทศต้นทาง อย่างไรก็ตามในปี 2559 รัฐบาลกำหนดแผนปฏิบัติการจัดระเบียบขอทาน โดยยึดหลัก 3พี ได้แก่ 1.การบังคับใช้กฎหมาย (Policy) ปรับปรุงกฎหมาย พัฒนาฐานข้อมูล และขยายผลดำเนินคดีกับขบวนการค้ามนุษย์ 2.การคุ้มครองช่วยเหลือ (Protection) สร้างอาชีพและรายได้ คัดแยกผู้เสียหาย ฟื้นฟู พัฒนาศักยภาพในสถานสงเคราะห์ และ 3.การป้องกัน (Prevention) พัฒนาระบบการคุ้มครองทางสังคม ให้ความรู้ด้านกฎหมายและการเข้าถึงบริการขั้นพื้นฐาน และเฝ้าระวังปัญหาร่วมกับเครือข่ายต่างๆ
โฆษกกล่าวว่า จากการที่นายกรัฐมนตรีเดินทางไปร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐ สมัยพิเศษ ที่สหรัฐ ได้มีการหารือถึงปัญหาการค้ามนุษย์ โดยย้ำว่าไทยให้ความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหานี้อย่างมาก จนทำให้สถานการณ์ดีขึ้น พร้อมทั้งได้กำชับให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ดำเนินการตามแผนจัดระเบียบขอทานอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อกวาดล้างขอทานให้หมดสิ้นไป โดยหากประชาชนพบเห็นการค้ามนุษย์ขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ หรือโทรสายด่วน 1300 ตลอด 24 ชั่วโมง”
