ปิยบุตร แนะ 2 ทางแก้รธน. โดยไม่แก้หมวด 1-2 ไม่ต้องเดินเกมเสี่ยง ทำประชามติถึง 3 ครั้ง
จากกรณีที่ครม.มีมติเห็นชอบจัดให้มีการออกเสียงประชามติ 3 ครั้งก่อนแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยครั้งแรกจะเกิดขึ้นอย่างช้าภายในวันที่ 21 สิงหาคมนี้ โดยถามว่า “ท่านเห็นชอบหรือไม่ ที่จะมีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยไม่แก้ไขหมวด 1 บททั่วไป และหมวด 2 พระมหากษัตริย์” ใช้งบประมาณ 3,200 ล้านบาทนั้น
ย้อนอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ล่าสุด (25 เม.ย.) นายปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ เลขาธิการคณะก้าวหน้า ได้โพสต์ผ่านแอปพลิเคชั่น X (ทวิตเตอร์) แสดงความคิดเห็นถึงกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า “จุดยืนผม สนับสนุนการทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ
การทำใหม่ทั้งฉบับ ก็คือ การทำใหม่ทุกหมวด ทุกมาตราอยู่แล้ว มีข้อห้ามแค่เพียงห้ามเปลี่ยนรูปของรัฐและระบอบการปกครองเท่านั้น
ในอดีต 40 50 60 ก็มีการปรับปรุงสองหมวดนี้มาโดยตลอด
และผมเองก็เห็นว่า ในหมวด 1 และหมวด 2 มีหลายเรื่องที่ต้องแก้ไขปรับปรุง
เอาล่ะ แต่ถ้าพรรคเพื่อไทย และพรรคอื่นๆที่ร่วมรัฐบาล ประสงค์จะทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ โดยไม่แตะหมวด 1 และหมวด 2 ก็ไม่ควรเดิน “เกมเสี่ยง” ใช้ประชามติ 3 ครั้ง
แต่ควรเลือกทางที่ปลอดภัยกว่า ทางใด ทางหนึ่ง ดังนี้
1. ดำเนินการตามมติคณะทำงานของพรรคเพื่อไทย ที่นำโดย รศ.ชูศักดิ์ ศิรินิล แถลงที่สภาเมื่อวันที่ 22 มกราคม 67 ที่ยืนยันทำประชามติ 2 ครั้ง กล่าวคือ ส.ส.เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ กำหนดให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ เมื่อผ่านรัฐสภา ก็ต้องมาประชามติ (ครั้งที่ 1) เมื่อผ่าน ก็เลือก ส.ส.ร. มาทำใหม่ เมื่อได้ร่างใหม่ ก็เอามาประชามติ (ครั้งที่ 2)
หรือ 2.ใช้กระบวนการแก้รัฐธรรมนูญ 2560 รายมาตรา ตั้งแต่ มาตรา 25-มาตรา 279 ไปเลย เว้น มาตรา 1-24 ในหมวด 1 และ 2 ไว้
อาจบอกกันว่า แก้รายมาตรา จะไปติดส.ว. อีก แต่สภาพดุลอำนาจตอนนี้ พรรคเพื่อไทยน่าจะคุยกับ ส.ว รู้เรื่องกว่าแต่ก่อน และเดือนหน้า ส.ว. 250 คน ก็จะพ้นไปแล้ว
การใช้วิธีนี้ จะเป็นการไม่แก้ หมวด 1,2 โดยไม่ต้องพูดชัดแจ้งว่าจะไม่แก้หมวด 1,2 ให้กลายเป็นประเด็นขึ้นมา
ทั้ง 2 วิธีนี้ ทำให้ได้ผลลัพธ์ตามที่รัฐบาลต้องการ โดยไม่ต้องไปเสี่ยงกับประชามติรอบแรกว่าจะผ่านหรือไม่ผ่าน (เพราะ ถ้าไม่ผ่าน พวกสนับสนุนรัฐธรรมนูญ 60 จะยิ่งอ้างความชอบธรรมมากขึ้น) ไม่ต้องเสียเวลา ประหยัดเงิน 3,200 ล้านบาท