เลขากกต.แจง เลือกสว.ใครทำอะไร-ไม่ได้ สื่อนำเสนอได้ ไม่ขัดระเบียบ แต่ห้ามช่วยแนะนำตัว

เลขากกต.แจง เลือกสว. ใครทำอะไร-ไม่ได้ ยันสื่อนำเสนอได้ ไม่ขัดระเบียบ แต่พึงระวังห้ามช่วยผู้สมัครแนะนำตัว ย้ำปชช.มีส่วนร่วม ช่วยสังเกตการณ์ได้

เมื่อวันที่ 30 เมษายน นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เนื้อหาอธิบายว่า ใคร ทำ อยู่ตรงไหนในการเลือก ส.ว.ประชาชน สื่อ ผู้สมัคร นักการเมืองเขาว่าการเลือก ส.ว.เป็นระบบปิด โดยระบุว่า มีโอกาสได้ไปคุยกับสื่อ มีคำถามเกี่ยวกับการปฏิบัติตัวในการทำหน้าที่สื่อ เมื่อมี พระราชกฤษฎีกาเลือก ส.ว.ว่าต้องทำอย่างไรจึงจะไม่ขัดกับระเบียบ กกต.

ว่าด้วยการแนะนำตัว 1.ประชาชน 1) ไม่มีสิทธิเลือก ส.ว.ตามรัฐธรรมนูญ เพราะรัฐธรรมนูญไม่ให้สิทธิในเรื่องนี้ 2) ติดตามข้อมูลข่าวสารจาก สนง.กกต.เกี่ยวกับประวัติของผู้สมัครทั้งหมด ไม่ว่าจะอยู่กลุ่มสาขาอาชีพใด ทั้ง 20 กลุ่ม ในชั้นอำเภอ 928 อำเภอ ชั้นจังหวัด 77 จังหวัด และระดับประเทศ ได้ที่แอพพลิเคชั่น smart vote และเว็บไซต์ สนง.กกต. 3) ติดตามข้อมูลข่าวจากสื่อต่างๆ ซึ่ง สนง.กกต.จะเผยแพร่ข้อมูลต่างๆ ที่ประชาชนควรรู้ผ่านสื่อให้มากที่สุด

นายแสวงระบุต่อว่า 4) วันเลือกตั้งสามารถไปสังเกตการณ์การเลือก “ทุกที่เลือกตั้ง” ทั้งในชั้นอำเภอ ชั้นจังหวัด และระดับประเทศ โดย สนง.จะจัดให้มีโทรทัศน์วงจรปิดถ่ายทอดบรรยากาศภายใน “ที่เลือกตั้ง” ให้ดูตลอดการลงคะแนนจนปิดเวลาลงคะแนน 5) สังเกตการณ์ ตรวจตรา ตรวจสอบ แล้วแจ้ง กกต.ว่ามีผู้สมัคร พรรคการเมืองใด หรือผู้ใด แนะนำไม่เป็นไปตามระเบียบ หรือฝ่าฝืนกฎหมาย

Advertisement

นายแสวงระบุอีกว่า 2.สื่อ 1) เสนอข่าวได้ตามปกติ ตามหลักวิชาชีพ อาทิ รายงานข่าวในที่เลือกตั้ง ใครสมัครในกลุ่มสาขาอาชีพใด วิเคราะห์ จัดเวที เสนอข้อเท็จจริง สัมภาษณ์ผู้สมัครเกี่ยวกับเรื่องอื่นได้ แต่ต้องไม่เกี่ยวกับการแนะนำตัวของผู้ถูกสัมภาษณ์ สื่อที่สมัคร ส.ว.ทำหน้าที่การงานได้ตามปกติ แต่อย่าไปพูดแนะนำตัวว่าสมัคร ส.ว. มีประวัติหรือประสบการณ์อย่างไร เป็นต้น ทั้งนี้ เนื่องจากระเบียบที่ออกมา ออกมาเพื่อใช้บังคับกับผู้สมัคร ไม่ได้ใช้บังคับกับสื่อ อย่างไรก็ตาม ต้องพึงระวังในการทำหน้าที่สื่อ ต้องไม่เป็นช่วยเหลือการแนะนำตัวผู้สมัครรายใดรายหนึ่งเป็นการเฉพาะ 2) สังเกตการณ์ในวันเลือก ในที่เลือกเช่นเดียวกับประชาชน

เลขาธิการ กกต.ระบุอีกว่า 3.ผู้สมัครต้องแนะนำตัวตามที่กฎหมายและระเบียบที่ กกต.กำหนด ทำมากไปกว่านั้นอาจถูกศาลพิพากษาให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง หรือถ้าเป็นโทษเกี่ยวกับการทุจริต เช่น รู้ว่าตัวเองไม่มีสิทธิแต่มาสมัคร ซื้อเสียง หลอกลวง รับการช่วยเหลือจากคนของพรรคการเมือง จะมีโทษอาญาด้วย คือทั้งโทษจำคุกและปรับ 4.นักการเมืองผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองต้องไม่ไปช่วยเหลือผู้สมัคร ส.ว.นั้นหมายถึงการห้ามพรรคการเมืองไปโดยปริยาย

นายแสวงระบุทิ้งท้ายว่า 5.การเลือกตั้ง ส.ว.เป็นระบบปิดจริงหรือ เมื่อดูจากรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. ก็ต้องยอมรับว่า ไม่ได้ให้สิทธิกับประชาชนในการเลือก แต่นั้นเป็นเพียงอย่างเดียวที่ประชาชนถูกตัดสิทธิไป ส่วนการมีส่วนร่วมอย่างอื่น ประชาชนก็ยังมีส่วนร่วมเหมือนเดิม เหมือนการเลือกตั้งโดยทั่วไป เรื่องนี้ สนง.ได้ตระหนักถึงการมีส่วนร่วมของประชาชนเป็นอย่างดี จึงได้ออกแบบให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการติดตาม สังเกตการณ์การเลือก ส.ว. ตั้งแต่มีพระราชกฤษฎีกา จนถึงวันลงคะแนน อย่างใกล้ชิด ตามข้อ 2) และข้อ 3) ที่ได้กล่าวมาแล้ว

Advertisement

“ถ้าทุกฝ่ายอยู่ถูกที่ ถูกทาง จะช่วยทำให้การเลือก ส.ว.เป็นไปด้วยความเรียบร้อย”

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image