‘วิลาศ’ ขู่ ‘เลขาสภาฯ’ ถ้ารับมอบงานอาคารรัฐสภา เจอกันที่ป.ป.ช.-ศาล ฐานทำรัฐเสียหาย ทั้งก่อสร้างไม่เสร็จ-ผิดสเปก

‘วิลาศ’ ขู่ ‘เลขาสภาฯ’ ถ้ารับมอบงานอาคารรัฐสภา เจอกันที่ ป.ป.ช.-ศาล ฐานทำรัฐเสียหาย ทั้งก่อสร้างไม่เสร็จ-ผิดสเปก

เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ที่รัฐสภา นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีคณะกรรมการตรวจการจ้างงาน สภาผู้แทนราษฎร มีมติ 7 ต่อ 3 ให้ตรวจรับงานการก่อสร้างอาคารรัฐสภาใหม่งวดสุดท้าย ว่า บริษัทผู้รับจ้างงานได้ส่งมอบงานมาตั้งแต่วันที่ 4 ก.ย.66 และเลขาธิการสภาจะรับมอบงานก็มีเรื่องต้องร้องอีกกว่า 30 เรื่อง เพราะเมื่อบริษัทรับเหมาก่อสร้างมีมติส่งมอบงานในวันที่ 11 ก.ย.66 คณะกรรมการตรวจการจ้างงานสภา มีมติ 6 ต่อ 1 ให้รับงานดังกล่าว ซึ่งตนได้ท้วงติงไปในวันที่ 9 ต.ค.66 คณะกรรมการตรวจการจ้างงานสภา มากลับคำพูดมติ 6 ต่อ 1 ว่าไม่ใช่มติรับมอบงาน

ทั้งนี้ ยังพบว่าในหนังสือร้องเรียนของผู้ควบคุมงานและผู้ควบคุมการจ้างงาน ระบุว่า มีการร้องเรียนเกี่ยวกับการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ในเรื่องการผสมสตรีมไฟเบอร์ ในพื้นที่ทางเดินเท้าด้านนอกอาคารรัฐสภาที่ตรวจสอบพบว่า งานไม่ตรงกับสเปกคือต้องผสมสตรีมไฟเบอร์ 25 กิโลกรัม ต่อปูน 1 ลูกบาศก์เมตร แต่ปรากฏผสมน้อย บางพื้นที่ไม่มีการผสมเลย ปรากฏว่าวันที่ 24 ส.ค.66 บริษัทผู้ควบคุมงานก่อสร้างได้ไปตรวจงานและไม่พบสตรีมไฟเบอร์ผสมอยู่จริง จึงสั่งให้แก้งาน ระหว่างวันที่ 30 ส.ค.-9 ก.ย.66

“ขอถามว่าถ้ามีมติรับมอบงาน 4 ก.ย.66 ถือว่ามีผลทางกฎหมายหรือไม่ เพราะวันที่ 9 ก.ย.66 ยังมีการแก้รื้องานอยู่เลย แล้วอย่างนี้จะถือว่าการก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์ได้อย่างไร” นายวิลาศกล่าว

Advertisement

นายวิลาศกล่าวด้วยว่า อีกกรณีมีหนังสือขอแก้ไขสัญญา เพราะมีการก่อสร้างผิดแบบ จึงต้องแก้ไขสัญญาเพื่อปรับให้ตรงตามงานที่สร้างโดยเลขาธิการสภา ที่เพิ่งมารับตำแหน่ง จึงได้ทำหนังสือสอบถามอัยการเมื่อวันที่ 29 มี.ค.67 ว่าสามารถแก้ไขสัญญาได้หรือไม่ เพราะคณะกรรมการตรวจการจ้างงานสภาได้มีมติให้รับมอบงานไปแล้ว ทางอัยการตอบว่า สามารถแก้ไขสัญญาได้ตลอดจนกว่าจะมีการส่งงานงวดสุดท้าย

ดังนั้นเลขาธิการสภาจึงแก้ไขสัญญา กระทั่งวันที่ 24 เม.ย.67 คณะกรรมการตรวจการจ้างงานสภามาตรวจรับงาน ตนถามว่าหากมีการตรวจรับงาน และวันที่ 4 ก.ย.66 ที่มีการสร้างงานผิดแบบ ไม่ตรงตามสัญญา คณะกรรมการตรวจการจ้างงานมีมติให้รับมอบงานได้อย่างไร ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เพราะ 1.การมีมติวันที่ 4 ก.ย.66 ให้รับมอบงาน 100 เปอร์เซ็นต์ ทั้งที่ยังมีการแก้ไขซ่อมปรับปรุงและก่อสร้างงานยังไม่แล้วเสร็จถือว่าผิดหรือไม่ เช่น การซ่อมลานจอดรถชั้น B2 ที่มีน้ำซึมจากใต้ดิน การซ่อมทางลงรถจากอาคาร ส.ว.รวมถึงการซ่อมสระน้ำบริเวณศาลาแก้ว ถ้าคณะกรรมการตรวจการจ้างงาน รับมอบงานจริงก็ไปเจอกันที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และศาล

“ขอเตือนเลขาธิการสภาด้วยว่าถ้าจะรับมอบงานทั้งหมดโดยรัฐเสียหายก็ไปเจอที่ ป.ป.ช.และศาล ดังนั้นก่อนจะรับมอบงานขอให้เลขาธิการสภาตรวจสอบงาน 4-5 อย่างคือ 1.เขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ผิดสเปก และฐานเสารับน้ำหนักไม่ได้ศูนย์ 2.ไม้ตะเคียนทองที่ปูพื้นทางเดินโดยรอบในอาคารรัฐสภาถูกสอดไส้เป็นไม้อื่นไม่ตรงตามสเปก ที่ระบุว่าใช้ไม้ 3 เมตร เมื่อตรวจดูแล้วพบว่ากว่า 90% เป็นไม้ 2 เมตรเกือบทั้งหมด รวมถึงความห่างของการปูพื้นที่กำหนดไว้ 2 มิลลิเมตรก็ปูห่างจากที่กำหนด 3.น้ำซึมลานจอดรถชั้น B2 จนถึงปัจจุบันยังมีการซ่อมแซมและแก้ไขกว่า 100 จุด และ 4.ตู้ครอบแผงควบคุมไฟฟ้าด้านนอกอาคารรัฐสภาร่วม 100 ตู้ ไม่ตรงตามสเปก สักวันจะมีข่าวไฟไหม้ตู้แผงคุมไฟในสภา” นายวิลาศกล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image