อธิบดี สถ. แจงแล้ว ค่าสมัครสอบท้องถิ่น 5 แสน ฮึ่ม! สมยอมให้เรียกรับเงิน ถูกตัดสิทธิ-ปรับให้ตก

อธิบดี สถ. แจง กรณีเพจดังจี้ อนุทิน ตอบด่วน ! เก็บค่าสมัครสอบเข้ารับราชการท้องถิ่น 5 แสน ชาวเน็ตเมนต์พรึบ เน้นย้ำพบเบาะแสการเรียกรับเงินขอให้แจ้ง สถ. ทันที พร้อมเตือนผู้สมัครสอบหากพบว่ามีการสมยอมรับเงิน จะต้องถูกปรับให้ตก และถูกตัดสิทธิ์ ไม่ให้สมัครสอบแข่งขันเป็นข้าราชการส่วนท้องถิ่นไปตลอดชีวิต

เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม นายขจร ศรีชวโนทัย อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้ออกมาชี้แจงกรณี ไม่ได้ดำเนินการสอบ และไม่มีการบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเพื่อเข้ารับราชการเป็นข้าราชการ หรือ พนักงานส่วนท้องถิ่นในปี 2567 ตามที่ปรากฏข่าวบนโลกออนไลน์ เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2567 เวลา 19.09 น. โดยมีการนำเสนอข้อมูลที่มีเนื้อหาอ้างถึงเพจดังอย่าง “อีซ้อขยี้ข่าว” พร้อมโพสต์ภาพและข้อความถามลูกเพจว่า “ถ้าจะสอบบรรจุข้าราชการท้องถิ่น ต้องจ่ายค่ามัดจำรายชื่อก่อนสมัคร 50,000 บาท (งวดที่ 1) ภายในเดือน ก.ค. เท่านั้น 200,000 บาท ตอนสมัครตำแหน่งสอบ (งวดที่ 2) 250,000 บาท หลังประกาศผลสอบภาค ก, ข (งวดที่ 3) แต่ถ้าประกาศผลว่าไม่ผ่าน ไม่มีรายชื่อ คืนเงินที่จ่ายมา 250,000 บาท และ 50,000 บาท ก่อนสัมภาษณ์ พร้อมลงภาพแนบรายละเอียดปฏิทินการรับสมัครสอบข้าราชการท้องถิ่นเมื่อปี 2566 ที่ผ่านมา โดยมีกำหนดการจะมีบรรจุในช่วงเดือนมกราคม 2567 อีกด้วย” นั้น

นายขจร กล่าวว่า ข้อความที่ปรากฏในข่าว เป็นข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง เนื่องจากในปี พ.ศ. 2566 กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นมิได้มีการดำเนินการสอบ และไม่มีการบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเพื่อเข้ารับราชการเป็นข้าราชการ หรือ พนักงานส่วนท้องถิ่นในปี 2567 ตามที่กล่าวอ้าง ซึ่งปัจจุบันระยะเวลาได้ล่วงเลยแล้ว และไม่ได้มีการดำเนินการตามแผนดังกล่าวแต่อย่างใด โดยในการประชุมคณะกรรมการกลางข้าราชการ หรือ พนักงานส่วนท้องถิ่นครั้งที่ 6/2565 เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2565 ได้มีมติเห็นชอบให้คณะกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่น (กสถ.) ดำเนินการสอบแข่งขันในตำแหน่งและอัตราว่าง และได้มอบให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นดำเนินการจัดหามหาวิทยาลัยจัดสอบแข่งขัน เพื่อบรรจุแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการ หรือ พนักงานส่วนท้องถิ่น ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้มีการประกาศรับสมัครสอบแข่งขัน หรือ ดำเนินการสอบแข่งขันแต่อย่างใด


“นอกจากนี้ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ร่วมเป็นภาคีเครือข่ายการป้องกัน ต่อต้าน และปราบปรามการทุจริตการสอบแข่งขัน เพื่อบรรจุบุคคลเป็นข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2567 ณ ศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และท่านเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ท่านเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ท่านผู้บังคับการกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ท่านประธานคณะกรรมการกลางการสอบแข่งขัน และตนได้ร่วมกันลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ดังกล่าว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมมือกันรณรงค์ให้ความรู้ประชาชนโดยทั่วไป การป้องกัน การต่อต้าน และปราบปรามการทุจริต รับฟังข้อมูลหรือ การชี้เบาะแสการทุจริตเกี่ยวกับการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเป็นข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น และหากปรากฏข่าวการทุจริตภาคีเครือข่ายจะดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของแต่ละหน่วยงาน โดยมีการประสานข้อมูลระหว่างกัน” อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กล่าวเน้นย้ำ

Advertisement

นายขจร กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีที่ปรากฏในข่าวว่า มีการเรียกรับเงินเป็นจำนวนหลายแสนบาท โดยแบ่งชำระเป็นหลายงวด หากไม่ผ่านยินดีคืนเงิน ขอความร่วมมือประชาชนอย่าได้หลงเชื่อโดยเด็ดขาด ซึ่งหากพบเบาะแส หรือ ได้รับการติดต่อในลักษณะนี้ ที่มีการเรียกรับเงิน เพื่ออำนวยความสะดวก หรือ ช่วยเหลือให้ได้รับการบรรจุและแต่งตั้งได้ ขอให้ส่งข้อมูลพยานหลักฐานมายังกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นที่หมายเลขโทรศัพท์ 089 961 6952 หรือ 089 901 1055 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ สามารถแจ้งความดำเนินคดีกับผู้กล่าวอ้างดังกล่าวได้ทันที โดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และเครือข่ายทุกหน่วยงานทั้ง สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ท. และกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) จะประสานงานและบูรณาการข้อมูลร่วมกัน เพื่อนำไปประกอบการดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ หากปรากฏหลักฐานว่ามีการสมยอมให้มีการเรียกรับเงิน เพื่อแลกกับการช่วยเหลือให้เป็นผู้สอบแข่งขันได้ ผู้สมัครสอบต้องถูกปรับให้ตก และถูกตัดสิทธิ์ไม่ให้สมัครสอบแข่งขันเป็นข้าราชการส่วนท้องถิ่นไปตลอดชีวิต รวมทั้งต้องรับผิดทั้งทางแพ่ง และทางอาญาด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image