บก.คอนเฟิร์ม จนท.รัฐ มีส่วนละเมิดเสรีภาพสื่อ ‘ส.ส.ลิซ่า’ รับปาก แก้ปมฟ้องปิดปาก

บก.ประชาไทอิงลิช ยัน จนท.รัฐ มีส่วนละเมิดเสรีภาพสื่อ ต้องแก้กฎหมาย ‘ส.ส.ลิซ่า’ รับปาก ร่วมก้าวไกลแก้ปมฟ้องปิดปาก-คุ้มครองสื่อ

เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม เวลา 13.00 น. ที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ (FCCT) เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ เนื่องในวันเสรีภาพสื่อมวลชนโลก สำนักข่าวประชาไทร่วมกับยูเนสโก จัดงาน ‘สถานการณ์เสรีภาพสื่อหลังระบอบ คสช. และก้าวต่อไปเพื่อการปกป้องคุ้มครอง’ นำกล่าวปาฐกถา โดย Aleksandra Bielakowska ผู้จัดการฝ่ายรณรงค์ จากนักข่าวไร้พรมแดน สาขาเอเชียแปซิฟิก

พร้อมด้วย น.ส.อันนา หล่อวัฒนตระกูล บก.ประชาไทอิงลิช/PFMSea, นายฐิติพันธ์ พัฒนมงคล บรรณาธิการ หนังสือ SLAPP ‘หนึ่งความฝัน’ กับการถูกฟ้องปิดปาก, น.ส.สัณหวรรณ ศรีสด นักกฎหมายจากคณะกรรมการนักนิติศาสตร์สากล (ICJ) และ น.ส.ภคมน หนุนอนันต์ กรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน ของสภาผู้แทนราษฎร เนื่องในวาระวันเสรีภาพสื่อมวลชนโลก

ในตอนหนึ่ง น.ส.อันนา หล่อวัฒนตระกูล บก.ประชาไทอิงลิช กล่าวว่า การละเมิดสิทธิเสรีภาพสื่อในไทย ไม่ว่าจะเป็นการฟ้อง ดำเนินคดี สั่งจำคุก หรือการทำร้ายร่างกายผู้สื่อข่าว ที่มีการบันทึกข้อมูลไว้ เกือบครึ่งของชุดข้อมูลนั้น พบว่าเจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนเกี่ยวข้องในการละเมิดสิทธิของสื่อมวลชนเป็นส่วนมาก และตลอดหลายปีที่ผ่านมา สถานการณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้มีแนวโน้มที่จะแย่ลงมากกว่าที่จะดีขึ้น

อันนา หล่อวัฒนตระกูล

ผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าวอิสระมากมายต่างตกเป็นเหยื่อในเรื่องนี้ และมองว่าในการที่จะทำกฎหมายที่คุ้มครองสิทธิเสรีภาพของทุกสื่อ ไม่ว่าจะเป็นองค์กรสื่อขนาดใหญ่ หรือองค์กรสื่ออิสระ เพราะการร่างตัวบทกฎหมายอาจมีการใช้คำที่ไม่ได้ครอบคลุมในการปกป้องสื่อมวลชนทุกองค์กร และในส่วนของกฎหมายคดีหมิ่นประมาท ส่วนตัวมีความเห็นว่า ควรมีการแก้ไขไม่ให้มีการใช้กฎหมายนี้ในการฟ้อง SLAPP หรือเพื่อกลั่นแกล้ง ข่มขู่ คู่กรณี” น.ส.อันนาชี้

ADVERTISMENT

ด้าน น.ส.ภคมน หนุนอนันต์ หรือลิซ่า รองโฆษกพรรคก้าวไกล ในฐานะ กมธ.พัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชนและการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า ถึงแม้ปัจจุบันสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชนนั้นมีการพัฒนาขึ้นมาจากอดีต แต่ก็ยังไม่มากพอที่จะทำให้สื่อมวลชนบางคนที่ถูกละเมิดนั้นกล้าที่จะออกมาเรียกร้องสิทธิของตัวเอง เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าการที่สื่อมวลชนต้องการเรียกร้องหลังถูกละเมิดสิทธิจากผู้มีอำนาจอาจทำให้องค์กรของตนเองมีปัญหาตามมาในภายหลังได้

ดังนั้น ทาง กมธ.จึงต้องการให้มีกฎหมายที่ปกป้องสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้ที่ทำอาชีพสื่อมวลชน เพื่อที่จะให้พี่น้องสื่อมวลชนได้ออกมาเรียกร้องสิทธิเสรีภาพของตนเองหากถูกละเมิด และได้มีการหารือกับคณะการทำงานด้านกฎหมายแรงงานของพรรคก้าวไกล ให้เสนอร่างกฎหมายที่คุ้มครองสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชน

“แต่เป็นที่น่าเสียดาย ที่ทางรัฐบาลนั้นปัดตกกฎหมายนี้ไป และสำหรับเรา ปัญหาหลักของเรื่องนี้คือ ‘การที่สื่อมวลชนยังถูกมองว่าเป็นเพียงคนกลุ่มหนึ่ง’ ซึ่งควรเปลี่ยนแนวคิดนี้ และมองว่าการปกป้องสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชนก็คือการปกป้องสิทธิเสรีภาพของประชาชนเช่นกัน

ภคมน หนุนอนันต์

“และอีกเรื่องที่เป็นปัญหาที่สำคัญที่ไม่แพ้กัน คือ ‘ความร่วมมือจากฝั่งรัฐบาลชุดปัจจุบัน’ ยกตัวอย่างจากกรณีที่ได้เคยยื่นถามกระทู้สดต่อ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในรัฐสภา เรื่องของแนวทางการปฏิบัติของรัฐบาลต่อสื่อมวลชน ซึ่งในวันนั้นมีคุณภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ได้ขึ้นมาตอบคำถามแทนแต่กลับกลายเป็นว่าทางคุณภูมิธรรมใช้เวทีวันนั้นในการโจมตีพรรคก้าวไกลแทนที่จะให้คำมั่นสัญญาของรัฐบาลต่อสื่อมวลชน” น.ส.ภคมนกล่าว และว่า

นอกจากนี้ ยังยืนยันว่ามีการร่วมมือกับทางพรรคก้าวไกลในการแก้ร่างกฎหมายและจะร่วมหารือกับทาง กมธ.เพื่อที่จะแก้ปัญหา ในการช่วยสื่อมวลชนที่ถูกฟ้องร้องในเชิงกลั่นแกล้ง หรือการฟ้องปิดปาก (SLAPP) โดยจะเริ่มจากการเชิญชวนผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการถูกฟ้อง SLAPP หรือใครก็ตามที่สนใจ ให้เข้ามาร่วมแก้ไขเพิ่มเติมก่อนที่จะนำส่งร่างกฎหมายสู่สภาใหญ่อีกครั้ง

อ่านข่าว : นักวิชาการชี้ กฎหมายไทยเปิดช่อง ‘ฟ้องปิดปาก’ สุดง่าย ทำคนเจอคดีอื้อ ‘ไม่ใช่ทุกคนมีแรงสู้’