‘จิตร ภูมิศักดิ์’ ยังมีอิทธิพล! ปัญญาชนล้อมวง ‘58 ปีหลังเสียงปืน’ เชื่อ ถ้ายังมีชีวิต คงติดคุกซ้ำ

‘จิตร ภูมิศักดิ์’ ยังมีอิทธิพล! ปัญญาชนล้อมวง ‘หลังเสียงปืน 58 ปี’ เชื่อ ถ้ายังมีชีวิตคงติดคุกซ้ำ – เตรียมมอบรางวัลครั้งที่ 2 ปลายปีนี้

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 4 พฤษภาคม ที่ห้องประชุมอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ถนนราชดำเนินกลาง กรุงเทพฯ สถาบันจิตร ภูมิศักดิ์ และเครือข่ายสังคมนิยมประชาธิปไตย ร่วมจัดเวทีเสวนา “หลังเสียงปืน 58 ปี จิตร ภูมิศักดิ์ นักคิด นักเขียน และนักปฏิวัติ” เนื่องในวาระครบรอบวันเสียชีวิต 58 ปี จิตร ภูมิศักดิ์ วันที่ 5 พ.ค.2509

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศภายในงาน มีการปาฐกถาจิตร ภูมิศักดิ์ ประจำปี 2567 โดย นายประยงค์ มูลสาร (ยงค์ ยโสธร) ประธานสถาบันจิตร ภูมิศักดิ์ ตามด้วยการเสวนา “หลังเสียงปืน 58 ปี จิตร ภูมิศักดิ์ นักคิด นักเขียน และนักปฏิวัติ” โดยมีผู้ร่วมเสวนาประกอบด้วย นายเยี่ยมยอด ศรีมันตระ ผอ.สถาบันจิตร ภูมิศักดิ์ ที่ปรึกษาสหภาพครูแห่งชาติ, นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ประธานกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย และเครือข่ายสังคมนิยมประชาธิปไตย นายอภิเชษฐ์ ทองน้อย คณะผู้เตรียมการฟื้นฟูเกียรติภูมิจิตร ภูมิศักดิ์ นายเจน อักษราพิจารณ์ นักเขียน และผู้แทนโครงการแหล่งท่องเที่ยวชุมชนเชิงประวัติศาสตร์สมรภูมิภูพาน น.ส.สลิณา จินตวิจิต อุปนายกองค์การบริหารสโมสรนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนายเมธา มาสขาว เลขาธิการสถาบันจิตร ภูมิศักดิ์ และเครือข่ายสังคมนิยมประชาธิปไตย ดำเนินรายการโดย น.ส.แทนฤทัย แท่นรัตน์

นายประยงค์ มูลสาร (ยงค์ ยโส

นายประยงค์ หรือยงค์ ยโสธร กล่าวปาฐกถาจิตร ภูมิศักดิ์ ประจำปี 2567 ความว่า เรื่องราวของจิตร ภูมิศักดิ์ ยิ่งใหญ่อลังการทางการอ่านการเขียนทำจริงจังและหนักแน่นชนิดที่เป็นซึ่งต้องไปสัมผัสเอง สังคมไทยต้องให้การศึกษา ต้องค้นคว้าศึกษาด้วยตนเองการศึกษาที่มีความกล้าหาญจะต้องศึกษา จิตร ภูมิศักดิ์ 25 กันยายน 2473 ถ้ามีชีวิตอยู่ย่างเข้า 94 เป็นคน อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี

Advertisement

“ผมได้รับอิทธิพลจากจิตร ภูมิศักดิ์ โดยไม่ได้ตั้งใจโดยเขียนหนังสือ วิถีชีวิตของจิตร ภูมิศักดิ์ ดึงดูดสนใจของชีวิตคนยากคนจน จิตร ภูมิศักดิ์ เสียชีวิตไปครึ่งศตวรรษแล้วแต่ยังมีอิทธิพลอยู่ ในปี 2508 เพลงภูพานปฏิวัติ เป็นเพลงถูกเปิดให้ฟังในสถานีเสียงประชาชนแห่งประเทศไทย” นายประยงค์ชี้

นายประยงค์กล่าวว่า จิตร ภูมิศักดิ์น่าจะมีรางวัลที่ทำจริง ในการศึกษา หรือมีความริเริ่มในการจัดตั้งสถาบันจิตร ภูมิศักดิ์ ถือเป็นอัจฉริยะบุคคลร้อยวันพันปีที่จะมาเกิดในเมืองไทยอีกครั้ง เมื่อมี สถาบันจิตร ภูมิศักดิ์ ได้มีการตั้งรางวัลเหมือนรางวัลศรีบูรพา คือรางวัลจิตร ภูมิศักดิ์ ที่ตั้งโดยด้วยความยากลำบาก โดยปลายปีนี้จะมีการแจกรางวัลจิตร ภูมิศักดิ์ ครั้งที่ 2 ส่วนสถานที่จัดงานจะแจ้งให้ทราบในภายหลัง

ต่อมา มีวงเสวนา “หลังเสียงปืน 58 ปี จิตร ภูมิศักดิ์ นักคิด นักเขียน และนักปฏิวัติ”

Advertisement

ในตอนหนึ่ง นายเยี่ยมยอด ศรีมันตระ ผอ.สถาบันจิตร ภูมิศักดิ์ ที่ปรึกษาสหภาพครูแห่งชาติ กล่าวว่า ตนได้เติบโตมาที่บ้าน เรียนที่คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และติดคุกมาด้วยกันกับ จิตร ภูมิศักดิ์ เป็นความมหัศจรรย์ที่มนุษย์ธรรมดาทำงานได้อย่างมากมายในเวลาในระยะเวลาอันสั้น แต่ละงานก็เป็นงานคลาสสิก ทั้งตำราภาษา ประวัติศาสตร์ วรรณกรรม

“อ่านแล้วเกิดความรู้สึกความยิ่งใหญ่ หล่อหลอมตัวเองขึ้นมาทันที โดยอ่านหนังสือเล่มอื่นไม่ได้แล้ว โดยเฉพาะบทกวีเปิบข้าว กาพย์ยานี 11 ที่ได้อ่านแล้วจะวางไม่ลง” นายเยี่ยมยอดกล่าว และว่า

ส่วนถ้าจิตร ภูมิศักดิ์ยังมีชีวิตอยู่จะเป็นอย่างไร เป็นเรื่องที่ตอบยากเพราะว่าสถานการณ์บ้านเรามีการรัฐประหารซ้ำซาก จิตร ภูมิศักดิ์อาจจะติดคุกซ้ำ

นายอภิเชษฐ์ ทองน้อย

ด้าน นายอภิเชษฐ์ ทองน้อย คณะผู้เตรียมการฟื้นฟูเกียรติภูมิจิตร ภูมิศักดิ์ กล่าวว่า กิจกรรมฟื้นฟูเกียรติ เริ่มต้นในปี 2530 ที่หมู่บ้านหนองกุง ต.คำบ่อ อ.วาริชภูมิ จ.สกลนคร เป็นเรื่องไม่ง่าย เพราะเป็นจุดแห่งความขัดแย้งรุนแรงถึงกับชีวิต และเพิ่งผ่านเหตุการณ์การสลายพรรคคอมมิวนิสต์ แต่ชาวบ้านก็ให้การต้อนรับดี มีการผูกข้อมือนับเป็นญาติพี่น้อง อย่างไรก็ตามก็มีคนคัดค้าน แต่โชคดีที่ท่านเจ้าอาวาสมีบารมีสูง มีการไปพบกำนันที่สันนิษฐานว่าเป็นผู้สังหารจิตร ภูมิศักดิ์ด้วย

และที่ อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ก็เป็นบ้านเกิดของจิตร ภูมิศักดิ์ ไม่ได้เป็นสมรภูมิสู้รบอะไร ได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าอาวาส ข้าราชการครูรุ่นใหม่ โดยวันที่ 25 กันยายน 2560 มีการจัดตั้ง ทีมจิตร ภูมิศักดิ์ รักบ้านเกิด และเป็นการรำลึกเนื่องในวันจิตร ภูมิศักดิ์ ครั้งแรกอีกด้วย

“ผมเป็นแอดมินกลุ่มประจันตคามบ้านเกิดจิตร ภูมิศักดิ์ในกลุ่ม Facebook มีการเผยแพร่บทความข่าวสารต่างๆ ได้รับความสนใจดีมากและเป็นช่องทางการสื่อสารที่ช่วยเราได้ดี”

”จิตร ภูมิศักดิ์ยังไม่ตายเลย ผลงานของจิตยังอยู่ 100% จิตร ภูมิศักดิ์ เป็นอัจฉริยะบุรุษ ผู้มีสติปัญญา ทางความคิด และเป็นสามัญชนคนหนึ่งที่โดดเด่นขึ้นมาในหน้าประวัติศาสตร์ของไทย“

 

นายเจน อักษราพิจารณ์ นักเขียน และผู้แทนโครงการแหล่งท่องเที่ยวชุมชนเชิงประวัติศาสตร์สมรภูมิภูพาน

ด้าน นายเจน อักษราพิจารณ์ นักเขียน และผู้แทนโครงการแหล่งท่องเที่ยวชุมชนเชิงประวัติศาสตร์สมรภูมิภูพาน กล่าวว่า ระหว่างที่จิตร ภูมิศักดิ์ ติดคุกมีการแต่งบทเพลงมากมาย อาทิ มาร์ชลาดยาว ฟ้าใหม่ มาร์ชชาวนาไทย เสียงเพรียกจากมาตุภูมิ รำวงวันเมย์เดย์ และที่สำคัญเพลงแสงดาวแห่งศรัทธา ซึ่งวงคาราวาน มีการแต่งเพลง “จิตร ภูมิศักดิ์” ทำให้ผู้คนรับรู้นอกเหนือจากงานวรรณกรรม

นอกจากนี้ หมู่บ้านหนองกุง สกลนคร ระหว่างการสู้รบในป่า จิตร ภูมิศักดิ์ ยังแต่งเพลงภูพานปฏิวัติ เลือดต้องการด้วยเลือด

นายเจนกล่าวว่า ความผูกพันของครอบครัวกับแม่และพี่สาว จะเห็นได้ว่าแต่ละช่วงวัยมีภาพถ่ายที่บันทึกตั้งแต่สมัยประถม มัธยม อุดมศึกษา และในช่วงที่เรือนจำลาดยาว จะเห็นภาพของจิตร ภูมิศักดิ์ออกมาตลอด แต่หลังจากที่ได้รับอิสรภาพและเข้าป่าแทบจะไม่เห็นภาพถ่ายของจิตร ภูมิศักดิ์เลย

”ตอนนี้จิตร ภูมิศักดิ์เสียชีวิตมา 58 ปีแล้ว ตอนนี้สามารถเผยแพร่ผลงานของจิตร ภูมิศักดิ์ เผยแพร่ในสาธารณชน โดยไม่มีลิขสิทธิ์ ทั้งนี้ในมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร มีห้องเรียนซึ่งมีผลงานของจิตร ภูมิศักดิ์ มีบทเพลงในลักษณะที่ทันสมัย มีหนังสือที่จิตร ภูมิศักดิ์ประพันธ์ไว้ น่าจะเป็นห้องสมุดที่สืบสาน เป็นรูปธรรมมากที่สุด” นายเจนระบุ

นายเมธา มาสขาว เลขาธิการสถาบันจิตร ภูมิศักดิ์ และเครือข่ายสังคมนิยมประชาธิปไตย

ด้าน นายเมธา มาสขาว เลขาธิการสถาบันจิตร ภูมิศักดิ์ และเครือข่ายสังคมนิยมประชาธิปไตย กล่าวว่า งานของจิตร ภูมิศักดิ์เป็นที่ประจักษ์และยอมรับว่าผลงานทางวิชาการงานเขียนบทกวีเป็นสำคัญของประเทศไทย เป็นที่ชื่นชมของคนหนุ่มสาวนักเคลื่อนไหวในขณะนี้

ปัจจุบันประเทศไทยใช้ระบบเศรษฐกิจเสรีนิยม ที่นายทุนอยู่เหนือกลไกรัฐบาล โดยนายทุนคุมรัฐบาล เกิดความเหลื่อมล้ำมากที่สุดในโลก เจ้าสัวบางคนถือครองที่ดินอยู่ 600,000 ไร่ จากที่ดินในประเทศไทย 320 ล้านไร่ ซึ่งถ้าจิตร ภูมิศักดิ์มีชีวิตอยู่ อาจจะเป็นปัญญาชนสยามในประเทศไทย เป็นผู้มีปัญญามีความสามารถที่ผู้คนนับหน้าถือตา หรือเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย รวมถึงผลิตหนังสือที่ดีได้อีกหลายร้อยเล่ม

“เราเสียโอกาสมาเยอะมากจากการเข่นฆ่าอนาคตของสังคมไทย คงถึงเวลาที่จะต้องร่วมกันผลักดันให้เกิดสังคมที่ดี โดยการทบทวนบทเรียนต่างๆ นำประวัติศาสตร์มาชำระ และจัดการศึกษาร่วมกัน เราผลิตหนังสือซ้ำ จัดตั้งอนุสรณ์สถาน เพื่อการเรียนรู้เป็นอุทาหรณ์ โดยไม่ถูกชักจูงจากโฆษณาชวนเชื่อ” นายเมธากล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image