09.00 INDEX กระแส 200 สมาชิกวุฒิสภา เป้าหมาย ต้าน ‘รัฐประหาร’
มีปัจจัยหลายปัจจัยมีส่วนเร่งเร้า กระตุ้นทำให้กระบวนการ “เลือก” 200 สมาชิกวุฒิสภา “ใหม่” ได้รับความสนใจและกลายเป็น “กระแส” ที่มีความสำคัญเป็นลำดับในสังคม
1 เป็นสถานะและความอ่อนด้อยแห่งเกียรติภูมิทางการเมืองที่เห็นอย่างเจนตาจาก 250 สมาชิกวุฒิสภา “เก่า”
1 ปัญหาเนื่องแต่ “รากฐาน” แห่ง 250 สมาชิกวุฒิสภา “เก่า”
แม้ว่าการได้มาซึ่ง 250 สมาชิกวุฒิสภา “เก่า” จะมีการทดลองให้มีการ “เลือก” จำนวนหนึ่งโดยความรับผิดชอบของกกต. แต่อำนาจและการตัดสินใจมิได้อยู่กับกกต.
เพราะจำนวนหนึ่งนั้นทำตามกติกาซึ่งกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ขณะเดียวกัน เมื่อดำเนินการแล้วและได้รับการระบุว่าเป็นการเลือกตั้งที่ “เงียบที่สุดในโลก” ด้านหลักของ 250 สมาชิกวุฒิสภา “เก่า” ก็ขึ้นกับการจิ้มของ “คสช.”
นั่นก็คือ คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ(คสช.)ที่ได้อำนาจมาจากกระบวนการยึดอำนาจโดยวิธี “รัฐประหาร” ในเดือนพฤษภาคม 2557
นั่นก็คืออำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั่นก็คืออำนาจของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
กระแสอันก่อรูปขึ้นตั้งแต่เดือนเมษายนและคึกคักเป็นอย่างมากในเดือนพฤษภาคม จึงเป็นปฏิกิริยาและความไม่พอใจซึ่งฝังลึกในทางการเมือง
ฝังลึกจากความไม่พอใจต่อรัฐประหารเดือนกันยายน 2549 ต่อรัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557
ที่สุดแล้วก็คือ ต่อ รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 เป็นหลัก
ความหมายอย่างแท้จริง คือ ความไม่พอใจต่อ “ระบอบ” แห่งอำนาจที่มีพื้นฐานมาจาก “รัฐประหาร” ผ่านการได้มาซึ่ง 200 สมาชิกวุฒิสภา “ใหม่”
นี่คือผลและความต่อเนื่องจากการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 และแสดงออกอย่างร้อนแรงมากยิ่งขึ้นในการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤษภาคม 2566
พื้นที่การได้มาของ 200 สมาชิกวุฒิสภา “ใหม่” จึงกลายเป็นพื้นที่แห่งการต่อสู้เพื่อต้าน “ระบอบ” ที่มาจาก “รัฐประหาร”
การแสดงออกของกกต. การแสดงออกของภาคประชาชนจึงดำเนินไปในลักษณะอันเป็น “ตัวแทน” สะท้อนการต่อสู้แห่งความคิด 2 ความคิดอันแหลมคม
ความคิด 1 ดำเนินการทุกอย่างเพื่อรักษากรอบแห่ง “ระบอบ” อย่างเคร่งครัด ความคิด 1 ต้องการท้าทายและสวนกลับการดำรงอยู่แห่ง “ระบอบ” อันเป็นตัวแทนแห่งเผด็จการ
ปฏิกิริยาและความไม่พอใจในลักษณาการเช่นนี้จะดำรงอยู่และจะกลายเป็นเจตจำนง “ร่วม” ผ่านกระบวนการเลือกตั้ง
