นายกฯ สั่งกรมชลฯ ผลักดันศักยภาพทุ่งกุลาฯ พัฒนาข้าวหอมมะลิไทย หวังตีตลาดโลก

นายกฯ สั่งกรมชลฯ ผลักดันศักยภาพทุ่งกุลาฯ พัฒนาข้าวหอมมะลิไทย หวังตีตลาดโลก

นายกฯ รับฟังสถานการณ์น้ำ-แผนพัฒนาทุ่งกุลาฯ สั่งกรมชลฯ ผลักดันศักยภาพทุ่งกุลาฯ หาแหล่งน้ำ-พัฒนาข้าวหอมมะลิไทย หวังตีตลาดโลก เพิ่มมูลค่าสินค้า-สร้างรายได้เกษตรกร ด้าน รพ.สุวรรณภูมิวอน เร่งไฟเขียวที่ดิน ตร.เพิ่มรับผู้ป่วย-งบซื้อคุรุภัณฑ์-บำบัดน้ำเสีย

เมื่อเวลา 14.10 น. วันที่ 5 พฤษภาคม ที่วัดกู่พระโกนา ต.สระคู อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และคณะ ลงพื้นที่ติดตามเรื่องการบริหารจัดการน้ำ และแผนพัฒนาทุ่งกุลาร้องไห้ พร้อมรับฟังปัญหาของประชาชนเรื่องแหล่งน้ำ และการพัฒนาโรงพยาบาลสุวรรณภูมิ โดยมีอธิบดีกรมชลประทาน บรรยายสรุปแผนงานพัฒนาแหล่งน้ำ และทุ่งกุลาร้องไห้ ในพื้นที่ โดยมีส่วนราชการ ประชาชน รวมถึง ส.ส.อีสาน พรรคเพื่อไทย อาทิ นายฉลาด ขามช่วง ส.ส.ร้อยเอ็ด, นายครูมานิตย์ สุงข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย รอรับ

นายกฯ กล่าวว่า การลงพื้นที่ของตนล่าสุดคือดูเรื่อง 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว วันนี้ดีใจที่ได้กลับมา จ.ร้อยเอ็ด อีกครั้งโดยมาดูใน 2 เรื่องใหญ่ที่เป็นเรื่องหลัก คือ การบริหารจัดการน้ำ ซึ่งเป็นที่ทราบว่าเราอยู่ในหน้าร้อน จึงเป็นเรื่องที่จำเป็นของประชาชนทุกคน ถ้าน้ำไม่มีก็ไม่สามารถเพาะปลูกได้ จึงมาดูแลเรื่องของน้ำ และได้สั่งการให้กรมชลประทาน พิจารณาโครงการที่เสนอมา ตามความเหมาะสมในการพัฒนาระบบชลประทานทั้งระบบใน จ.ร้อยเอ็ด และดูผลกระทบกับประชาชน และให้ประชาชนมีส่วนร่วม รวมถึงการบริหารจัดการน้ำระยะยาวในโครงการที่อยู่นอกแผนของกรมชลประทานให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนในการอุปโภคบริโภค และใช้ทำมาหากิน

Advertisement

สำหรับการพัฒนาที่ดินทุ่งกุลาร้องไห้ เป็นที่ทราบว่าเป็นพื้นที่กว้างใหญ่ของภาคอีสานครอบคลุม 5 จังหวัด มีศักยภาพในการพัฒนาข้าวหอมมะลิ ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจหลักของประเทศไทยที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก จึงเป็นข้าวที่พัฒนาอย่างมีคุณภาพ และได้รับการยอมรับจากทั่วโลก จึงสั่งการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ บูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดูแลเกษตรกรและพัฒนาการส่งเสริมปลูกข้าวหอมมะลิในพื้นที่ให้ดียิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มผลผลิต เพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร

นอกจากนั้น การจัดการที่ดินและน้ำให้พัฒนาอย่างเหมาะสมสำหรับการเพาะปลูก และจัดหาแหล่งน้ำให้เพียงพอต่อการเกษตร เพื่อให้เกษตรกรมีประสิทธิภาพในการรักษาคุณภาพผลผลิตตลอดปี รวมทั้งจัดหาเมล็ดพันธุ์ และใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมในการพัฒนาเมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิ เพิ่มผลผลิต และคุณภาพของข้าว เพิ่มรายได้ให้กับประชาชน

นายเศรษฐากล่าวว่า ขณะที่การตลาด และการขายให้ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำแผนการตลาด และส่งเสริมการขายไปทั่วตลาดโลก เป็นการขยายโอกาสทางการตลาด รวมทั้งส่งเสริมการแปรรูปผลิตสินค้าให้มีราคาสูง เพิ่มมูลค่าให้กับเกษตรกร สร้างแหล่งรายได้เสริมให้กับเกษตรกร

Advertisement

จากนั้นผู้แทนโรงพยาบาลสุวรรณภูมิได้ขอให้นายกฯ พิจารณาช่วยเหลือ ใน 3 ประเด็นคือ 1.โรงพยาบาลสุวรรณภูมิ เป็นที่ฟื้นฟูผู้ป่วยจิตเวชและผู้ป่วยยาเสพติดระยะยาว เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมผู้ป่วยก่อนที่จะส่งคืนสู่ชุมชน จึงต้องการพื้นที่ในเขตของตำรวจ จำนวน 18 ไร่ ที่ไม่ได้มีการใช้งานมากว่า 20 ปี ซึ่งได้มีการดำเนินการไปบางส่วนแล้วแต่ไม่มีความคืบหน้า

2.เดือนกรกฎาคม 2567 จะมีจักษุแพทย์มาที่โรงพยาบาลสุวรรณภูมิ แต่ยังขาดแคลนเรื่องงบประมาณในการจัดซื้อคุรุภัณฑ์ทั้งหมด 4 รายการ และ 3.โรงพยาบาลสุวรรณภูมิ เป็นโรงพยาบาลขนาด 120 เตียง แต่เป็นโรงพยาบาลแม่ข่าย ที่จะรับผู้ป่วยมาจากโรงพยาบาลอีก 3 โรงพยาบาล ทำให้มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 200 เตียง และพบปัญหาเรื่องของการบำบัดน้ำเสีย จึงอยากจะขอฝากเรื่องการสร้างโรงบำบัดน้ำเสียภายในโรงพยาบาล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเดินทางไปภารกิจจุดต่อไป นายกฯ ได้แวะทักทาย ถ่ายรูปกับประชาชน และผู้แทนส่วนราชการต่างๆ ที่มอบผลิตภัณฑ์จากทุ่งกุลาฯ ให้กับนายกฯ เป็นที่ระลึก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image