ไพศาล ชี้ กลยุทธ์เพื่อไทยใช้หอกคนป่าแทงคนป่า สวนกลับแบงก์ชาติ แรงและตรงเป้า
เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม นายไพศาล พืชมงคล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า เพื่อไทยสวนแบงก์ชาติ ใช้ “หอกคนป่าแทงคนป่า” ความว่า
1.ในท่ามกลางวิวาทะ อิสระ และความรู้สูงส่งแตะต้องไม่ได้ เป็นเหตุให้เกิดการรุมกระทืบคุณอุ๊งอิ๊งกันอย่างสนุกสนาน ถึงขนาดปรามาสว่า ไม่มีความรู้สู้เจ้าหน้าที่เล็กๆ ในธนาคารชาติก็ไม่ได้นั้น จู่ๆ เพื่อไทยก็สวนกลับ ว่าโครงการแจกเงิน 10,000 บาทนั้น ไม่กระทบต่อภาระหนี้สาธารณะ เพราะแก้ไขได้ โดยจะให้โอน “หนี้กองทุนฟื้นฟู” จากกระทรวงการคลังคืนกลับคืนธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มียอดร่วมล้านล้านบาท นี่คือการใช้หอกคนป่าแทงคนป่า ดับอหังการ์ของคนแบงก์ชาติ ดั่งที่โบราณว่าไว้นั่นเอง และเป็นการเตือนสติพวกบ้าคลั่งเรื่องความเป็นอิสระ และแตะต้องไม่ได้อย่างถึงพริกถึงขิงที่สุด
2.หนี้กองทุนฟื้นฟู คือพยานแห่งนวัตกรรมอมตะและ ล้ำค่าของแบงก์ชาติ ที่เคยอ้างความเป็นอิสระและแตะต้องไม่ได้ เมื่อครั้งเหตุการณ์ต้มยำกุ้ง เข้าไปเก็งกำไรค่าเงินบาทจนชาติล่มจมเศรษฐกิจชาติพินาศประชาราษฎร์ฉิบหายหมด แบงก์ชาติเองก็เสียหายถึง 1.4 ล้านล้านบาท ค่าความเสียหายดังกล่าวตั้งไว้ในบัญชีเงินกองทุนฟื้นฟู สถาบันการเงิน ของธนาคารแห่งประเทศไทย และเป็นต้นเหตุทำให้กระทบต่อผลประกอบการของธนาคารแห่งประเทศไทยมา ร่วม 20 ปี ถึงช่วงหนึ่ง จึงมีพวกหัวแหลม คิดลดภาระแบงก์ชาติ โดยโอนหนี้กองทุนเงินฟื้นฟู 1.4 ล้านล้านบาท มาเป็นหนี้ของกระทรวงการคลัง ให้ประชาชนไทยทั้งประเทศแบกรับภาระหนี้ จากความอหังการ์เรื่องอิสระและแตะต้องไม่ได้ในครั้งนั้น
20 ปีเศษต่อมา ได้ใช้หนี้เงินต้นและดอกเบี้ยไปแล้วหลายแสนล้านบาท แต่หนี้ยังคงเหลืออยู่ ร่วมล้านล้านบาท และเป็นหนี้สาธารณะ ที่กระทบต่อวงเงินหนี้สาธารณะด้วย
3.เมื่อแบงก์ชาติอ้างว่าโครงการยืมเงินมา แจก 5 แสนล้านบาท กระทบต่อหนี้สาธารณะ รัฐบาลเพื่อไทยก็แก้เกม ว่าไม่กระทบ โดยการขอโอนคืนหนี้สาธารณะของแบบค์ชาติจากบัญชีกองทุนฟื้นฟูเดิม กลับไปให้แบงก์ชาติแบกรับต่อไป มีผลคือ ข้อแรกก็เตือนสติคนทั้งหลายให้ตระหนักว่า ที่ว่าอิสระแล้วแตะต้องไม่ได้นั้น ต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์ของชาติและประชาชน ซึ่ง การอ้างแบบนี้ เคยสร้างความฉิบหายขนาดใหญ่ให้ปรากฏมาแล้ว
ข้อ 2 เพื่อสยบอหังการฺ์ของคนในแบงก์ชาติและกองเชียร์ว่า ผลจากการอ้างความเป็นอิสระและแตะต้องไม่ได้ ได้เคยสร้างความฉิบหายไว้ขนาดไหน ข้อ 3 เป็นการลดหนี้สาธารณะของรัฐบาล 1 ล้านล้านบาท เปิดทางให้กู้ยืมเงิน 500,000 ล้านบาทโดยไม่กระทบหนี้สาธารณะอย่างสบายใจเฉิบ และโอนหนี้กลับไปให้แบงก์ชาติรับผิดชอบเองต่อไป เรียกว่ายิงนัดเดียวได้นกทั้งฝูง
4.น่าเห็นใจคุณอุ๊งอิ๊ง ที่ออกมาทักท้วงว่า การกระทำของแบงก์ชาติ ก็อาจเป็นปัญหากระทบทางเศรษฐกิจได้ และถูกรุมกระทืบเสียผู้เสียคน
เพราะในเหตุการณ์ต้มยำกุ้งครั้งนั้น ผมก็โดนแบบนี้มาแล้ว โดยครั้งนั้น ดร.สุรศักดิ์ นานานุกูล อดีตรัฐมนตรีช่วยกระทรวงการคลัง ดอกเตอร์อัครเวช โชตินฤมล ที่ปรึกษาเศรษฐกิจ คุณสุรนันท์ เวชชาชีวะ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ และผม ไปตั้งวงแถลงข่าวที่โรงแรมเซ็นทรัลลาดพร้าว คัดค้านแบงก์ชาติ ไม่ให้เข้าเก็งกำไรค่าเงินบาท ว่าจะทำให้ชาติล่มจม ก็ถูกโต้ถูกด่ายับเยินทั้งจากในพรรคความหวังใหม่ จากรัฐบาลและภายนอก หาว่าพวกผมเป็นพวกไม่เคารพความเป็นอิสระและเป็นพวกโง่เง่าไม่รู้เรื่อง ความรู้สู้ภารโรงแบงก์ชาติไม่ได้ยังเสือกไปติติง ในที่สุด ก็ชิบหายจริงดังที่พวกผมไปตั้งวงคัดค้านนั่นเอง
เพราะเหตุนี้โบราณท่านจึงเตือนว่า แม้เสียงจิ้งจกทักก็พึงรับฟัง อย่าว่าแต่เสียงมนุษย์อย่างเราท่านเลย
การใช้หอกคนป่าแทงคนป่าครั้งนี้ อาจจะเป็นปรากฏการณ์ แสดงอุณหภูมิความร้อนแรงของกระแส ปลดผู้ว่าแบงก์ชาตินะครับ
