พีระพันธุ์ ยันไฟไหม้มาบตาพุดแทงค์ ไม่กระทบระบบจ่ายก๊าซ-ความมั่นคงไฟฟ้า

พีระพันธุ์ ขอปชช.มั่นใจ ไฟไหม้มาบตาพุด ไม่กระทบระบบจ่ายก๊าซ ความมั่นคงไฟฟ้า

เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ขอให้ประชาชนมั่นใจเหตุการณ์เพลิงไหม้บริษัทมาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด ที่จังหวัดระยอง ไม่กระทบความมั่นคงของระบบไฟฟ้าและการจ่ายก๊าซในเขตอุตสาหกรรม หลังการประขุมติดตามสถานการณ์กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมสั่งการให้ทุกหน่วยงานเตรียมมาตรการรองรับหากเกิดเหตุฉุกเฉินที่กระทบต่อการผลิตไฟฟ้า

นายพีระพันธุ์กล่าวว่า เหตุเพลิงไหม้ดังกล่าวเกิดขึ้นที่ถังจัดเก็บสารไพโรไลซิส แก๊สโซลีน ของ บริษัท มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด ซึ่งเป็นสารที่ใช้ในการผลิตอะโรเมติก (กลุ่มเส้นใยประดิษฐ์) เมื่อเวลา 10.45 น.ของวันนี้ (9 พฤษภาคม) โดยกระทรวงพลังงานได้ประสานกรมธุรกิจพลังงานและพลังงานจังหวัดระยองเฝ้าระวัง และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน ให้เตรียมพร้อมอย่างใกล้ชิดและปฏิบัติตามแผนอย่างเคร่งครัดหากมีเหตุฉุกเฉิน โดยล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. สามารถควบคุมเพลิงได้แล้ว

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน

นายพีระพันธุ์กล่าวต่อว่า สำหรับการบริหารจัดการเพื่อป้องกันผลกระทบที่จะมีต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน ในส่วนของก๊าซธรรมชาติได้มีการอพยพพนักงานออกจากพื้นที่ สถานี LNG มาบตาพุด แห่งที่ 1 ซึ่งอยู่ใกล้พื้นที่เกิดเหตุ และลดการจ่ายก๊าซจากสถานี LNG มาบตาพุด แห่งที่ 1 และเพิ่มการจ่ายก๊าซจากสถานี LNG มาบตาพุด แห่งที่ 2 ทำให้ในภาพรวม การจ่ายก๊าซยังคงสามารถดำเนินการโดยไม่เกิดผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมและภาคการผลิตไฟฟ้าในพื้นที่

Advertisement

นอกจากนี้ ยังได้มีการเตรียมการเพื่อป้องกันผลกระทบที่มีต่อความมั่นคงด้านระบบไฟฟ้า โดยได้มีการสั่งเพิ่มการเดินเครื่องโรงไฟฟ้าราชบุรีเพาเวอร์ด้วยเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติฝั่งตะวันตก โรงไฟฟ้ากัลฟ์อุทัยด้วยเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติตะวันออกเพื่อเตรียมการเปลี่ยนเชื้อเพลิงเป็นน้ำมันดีเซล และเพิ่มการเดินเครื่องโรงไฟฟ้าพลังน้ำต่างประเทศ พร้อมทั้งประสานโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซธรรมชาติตะวันออกทั้งหมดให้เตรียมความพร้อมหากมีความจำเป็นต้องเดินเครื่องด้วยน้ำมันดีเซล

ทั้งนี้ ในการประชุมติดตามสถานการณ์ฉุกเฉินข้างต้น นายพีระพันธุ์ ได้กล่าวขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ได้ให้ความร่วมมือในการช่วยเหลือในพื้นที่ ทั้งในส่วนของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และหน่วยงานต่าง ๆ ในพื้นที่ รวมทั้งหน่วยงานด้านพลังงานที่ได้บริหารจัดการ และเตรียมแผนงานและมาตรการต่าง ๆ ไว้เป็นอย่างดี จนทำให้ไม่เกิดเหตุการไฟฟ้าดับหรือการหยุดชะงักของการจ่ายก๊าซธรรมชาติในเขตอุตสาหกรรม

นอกจากนี้ นายพีระพันธุ์ได้เน้นย้ำให้หน่วยงานในสังกัดและกำกับของกระทรวงพลังงาน ติดตามและรายงานสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยมอบหมายให้ปลัดกระทรวงพลังงานเป็นผู้ประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ในภาพรวม และให้พลังงานจังหวัดระยองเป็นผู้ประสานงานในพื้นที่ ทั้งนี้ เพื่อป้องกันมิให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงทางพลังงานและประชาชน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image