‘พิชัย’ เผยดิจิทัลวอลเล็ตจะของบเพิ่ม เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้เร็วที่สุด ชี้ไม่เมินปัญหาโครงสร้างระยะยาว จะแก้ไปด้วย แต่กระตุ้นระยะสั้นต้องทำเหมือนกัน
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 21 พฤษภาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงถึงการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ เรื่องการของบประมาณเพิ่มเติมปี พ.ศ.2567 ว่าขอเท้าความไปการประชุม ครม.เมื่อวันที่ 23 เม.ย.67 ครม.มีมติเห็นชอบให้ทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ต โครงการ 5 แสนล้านดังที่ทราบ มีการมอบหมายเรื่องแหล่งที่มาของเงิน หรืองบประมาณ และหนึ่งในนั้นก็คือให้สำนักงบประมาณตกลงกันไปหารือกัน เพื่อจะดูว่าการใช้งบประมาณนี้สามารถใช้ได้จากที่ใดบ้าง
นายพิชัยกล่าวว่า วันนี้สำนักงบประมาณกับกระทรวงการคลังได้หารือกันแล้ว มีการนำเสนอเข้ามาโดยสำนักงบประมาณ หลักๆ คือเรามีทางเลือกที่จะใช้งบกลาง หรือเราสามารถที่จะเปลี่ยนงบได้ แต่การเปลี่ยนงบจะมีปัญหาทางเทคนิคเล็กน้อยเพราะจะทำให้เรื่องต่างๆ สะดุดล่าช้าไป ไม่สามารถดำเนินการได้ ไม่ใช่ทางเลือกที่ดี อีกอย่างหนึ่งคือถึงแม้ว่าปีนี้จะมีการอนุมัติงบประมาณปี 2567 เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ปรากฏว่าเราสามารถใช้งบประมาณเข้าไปสู่ตลาด สู่เศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็ว ทำให้การใช้เงินนี้เป็นไปตามเป้าและดีกว่าเป้าด้วย ฉะนั้น จึงตัดสินใจว่าเพื่อให้โครงการนี้ได้รับผลที่ดีที่สุดวิธีการก็คือการของบประมาณเพิ่มเติมปี 2567
รมว.คลังกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม การทำทั้งหมดนี้ต้องเช็กกฎหมาย 3-4 เรื่อง คือต้องอยู่ในหลักเกณฑ์ของ พ.ร.บ.งบประมาณ อยู่ในหลักเกณฑ์ของ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง และที่สำคัญที่สุดคือต้องอยู่ในกรอบที่เราได้รับในเรื่องของ พ.ร.บ.หนี้สาธารณะ โดบเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นที่ว่าจะไม่ให้หนี้เกินกรอบ 70% ทั้งนี้ เรื่องทั้งหมดนั้นเมื่ออยู่ในกรอบมีการเสนอเข้ามา รายละเอียดทั้งหมดก็จะได้รับการเสนอคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังในเร็ววันนี้ เพื่อนำมาพิจารณาในรายละเอียดอีกทีหนึ่งว่าเป็นอย่างไร ก่อนที่เราจะดำเนินการต่อไป
นายพิชัยกล่าวต่อว่า ข้อสำคัญที่ว่าการดำเนินการโครงการนี้เมื่อเช้านี้ก็มีการแถลงเรื่องผลการดำเนินการของไตรมาส 1 อยากเรียนว่าอัตราการเติบโตของจีดีพีอยู่ที่ 1.7 ซึ่งต่ำกว่าตัวเฉลี่ยปีที่แล้ว ข้อที่สองเราก็มาดูว่าไตรมาส 1 ไม่ได้ติดลบ โดยไตรมาสก่อนนั้นมีการติดลบ ไม่ได้อยู่ในสถานะเศรษฐกิจถดถอย เรียกได้ว่ากำลังเติบโต แต่ว่าเติบโตในอัตราที่ต่ำกว่าที่เราคิดไว้ อันนี้โดยศักยภาพเราคิดว่าประเทศไทยจะเจริญโตได้มากกว่านั้น เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อบ้านในไตรมาสแรกและทั้งปี ประเทศเพื่อนบ้านอยู่ในระดับสูงกว่าเรา จึงมีความคิดว่ารัฐบาลได้เห็นความต่อเนื่องของการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องหามาตรการที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นการกระตุ้นระยะสั้น
นายพิชัยกล่าวอีกว่า แต่การกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่เห็นว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในประเทศไทยเป็นปัญหาเชิงโครงสร้าง ซึ่งมีหลากหลายและต้องใช้เวลา อย่างภาคการผลิต ทางด้านอุตสาหกรรมการเกษตรเราก็จะต้องดูเรื่องแหล่งน้ำ การขนส่ง ถ้าเรามาดูภาคอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี เราก็จะต้องชวนเขามาเพื่อเปลี่ยนประเภทสินค้า เปลี่ยนโครงสร้างจากการผลิตสินค้าประเภทเดิมขึ้นไป ซึ่งพวกนี้เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา แต่บางอย่างก็สามารถทำได้เลย เช่น การทำให้ธุรกิจ หรือการลงทุนรวดเร็วขึ้น แต่ภาพรวมแล้วการทำเรื่องเหล่านี้จะใช้เวลาจากตอนนี้ไปต่อไปยังข้างหน้า แต่ในระยะเวลาอันสั้นโดยดูจากสภาพคล่องของประชาขน เราจึงคิดว่าความจำเป็นของการกระตุ้นเศรษฐกิจค่อยๆ ชัดขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม วิธีกระตุ้นที่จะทำโครงการนี้จะต้องดูรายละเอียดต่อไป โดยรับข้อเสนอของหน่วยงานต่างๆ มาประกอบการพิจารณา
เมื่อถามว่า ได้กำหนดกรอบเวลาเบื้องต้นก่อนเข้าที่ประชุมการเงินการคลังแล้วหรือยัง นายพิชัยกล่าวว่า เบื้องต้นก็มีเวลาไม่นาน เราจะต้องทำตามเวลา และสุดท้ายเสนอเข้ามายังที่ประชุม ครม.อีกครั้งหนึ่ง ก่อนเสนอเข้าสภา
เมื่อถามว่า แล้วงบประมาณยังเท่าเดิมหรือไม่ นายพิชัยกล่าวว่า จริงๆ เราคงต้องทำงบให้เท่าเดิมก่อน ส่วนจะใช้เท่าไหร่ก็ต้องดูตามข้อเท็จจริงว่าวันนั้นเป็นอย่างไร
เมื่อถามว่า แล้วมีงบประมาณอยู่ประมาณเท่าไหร่ นายพิชัยกล่าวว่า ทั้งหมดวันนั้นเราได้คุยแล้ว ในปี 2568 ได้กำหนดยอดไว้แล้ว อันนี้ก็เป็นกำหนดส่วนหนึ่ง แต่เท่าไหร่ก็ต้องมาดูว่าเป็นจำนวนที่อยู่ในกรอบงบประมาณได้อย่างไม่ผิดหลักเกณฑ์ และก็ต้องไม่ผิดวินัย ไม่ขัดต่อหลักเกณฑ์เกณฑ์ของ พ.ร.บ.หนี้สาธารณะด้วย หลายอย่างมาประกอบกันจะได้เงินเท่าไรก็เป็นจำนวนเท่านั้น ถ้าพอก็ได้เลย ถ้าไม่พอเราก็จะหาวิธีอื่นเสริมเข้าไป ส่วนที่บางท่านอาจคำนวณไว้แล้วว่าสูงสุดได้เงินประมาณ 1.22 แสนล้าน ถ้าอยู่ในกรอบก็ต้องดูว่าจริงๆ แล้วจะเป็นเท่าไหร่ คาดว่าจะนำเรื่องนี้เข้า ครม.ได้ในวันที่ 28 พ.ค.นี้
เมื่อถามว่า ในที่ประชุมได้มีหารือถึงแพลตฟอร์มการจ่ายหรือไม่ นายพิชัยกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นวาระแยกต่างหาก เราไม่ได้คุยกัน แต่แน่นอนว่าเรื่องแพลตฟอร์มก็มีการดำเนินการทำงานไปเรื่อยๆ