ประวิตรขอเวลาเจ้าหน้าที่สืบไซซะนะเอี่ยวกลุ่มก่อเหตุใต้ ยันเดินหน้าคุย 10+1 ประเด็นปรองดอง
วันนี้ (10 กุมภาพันธ์) พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการจับกุมผู้ต้องหายาเสพติดในภาคใต้ ที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับนายไซซะนะ และอาจเป็นท่อน้ำเลี้ยงแก่ผู้ก่อความไม่สงบในภาคใต้ว่า จะต้องรอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะมีช่องทางติดต่อกันอยู่แล้ว
ส่วนกรณีที่ตำรวจมาเลเซียจับกุม 6 ผู้ต้องสงสัยได้ที่รัฐกลันตัน ซึ่งเชื่อมโยงกับกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอส และ 1 ใน 6 คนนั้นอาจต้องสงสัยว่ามีส่วนร่วมกับกลุ่มบีอาร์เอ็นในภาคใต้ของไทยว่า ทางการมาเลเซียพร้อมประสานข้อมูลกับไทย แต่มาเลเซียมีการออกกฎหมายใหม่ทำให้ไม่สามารถเผยแพร่ข้อมูลผู้ต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มไอเอสได้ และขณะนี้ทางการไทยยังไม่พบข้อมูลว่ามีความเชื่อมโยงกับกลุ่มไอเอส
พลเอกประวิตรยังกล่าวถึงการติดตั้งกล้องวงจรปิดในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ที่พบว่ามีการชำรุดหลายจุดว่า กองทัพภาคที่ 4 และคณะผู้แทนพิเศษรัฐบาลแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ คปต.ส่วนหน้า, ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต. และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ สตช. กำลังดำเนินการปรับปรุง และควรจะมีการตั้งศูนย์รวมเก็บข้อมูล เพื่อให้สามารถปะติดปะต่อภาพในพื้นที่ได้ทั้งหมด
พลเอกประวิตรยังกล่าวถึงความเห็น 10 ประเด็นของคณะกรรมการสร้างความปรองดองที่เป็นเรื่องเดิมๆ และอาจเสียเวลาเปล่า เนื่องจากที่ผ่านมาหลายฝ่ายมีการพูดคุยกันอยู่แล้วว่า เรื่องทั้งหมดแม้จะมีการพูดกันมาอยู่แล้ว ก็ควรจะมีการพูดคุยหารือกันต่อไป เพื่อหาความเห็นพ้องร่วมกัน และจะต้องหาจุดร่วมในการกำหนดเป็นสัญญาประขาคม เพื่อให้ทุกฝ่ายเห็นอนาคตที่ชัดเจน ว่าจะมีหนทางอยู่ร่วมกันอย่างปรองดองได้อย่างไร
ส่วนประเด็นเรื่องการเมืองที่จะมีการหารือใน 10 ประเด็นที่อาจแก้ไขได้ยากนั้น พลเอกประวิตรระบุว่าประเด็นย่อยที่จะก่อให้เกิดความขัดแย้งก็จะไม่ดำเนินการ เช่น การเลือกตั้ง ที่หากฝ่ายหนึ่งต้องการ แต่อีกฝ่ายไม่ต้องการให้มีการเลือกตั้ง เป็นต้น
