09.00 INDEX ปฏิสัมพันธ์ ภายใต้ รัฐบาลพิเศษ ไม่มีสงคราม แต่ไม่มี ‘สันติภาพ’
รูปธรรมแห่งการยื่นคำร้องของ 40 สมาชิกวุฒิสภา “เก่า” อันพุ่งเป้า เข้าใส่ นายพิชิต ชื่นบาน และ นายเศรษฐา ทวีสิน ต่อศาลรัฐธรรมนูญ จุดความร้อนแรงในทางการเมือง
สะท้อนว่าที่เคย “ร่วมมือ” ในเดือนสิงหาคม 2566 เมื่อเข้ามาถึงเดือนพฤษภาคม 2567 ก็เกิด “ปฏิกิริยา”
ยืนยันให้เห็นว่าแม้จะมี “ปรองดอง” แต่ “การต่อสู้” ก็ดำรงอยู่
สังคมมองและตีความปฏิบัติการของ 40 สมาชิกวุฒิสภา “เก่า” ปะทุขึ้นดำรงอยู่และดำเนินไปเพื่อเป็นสัญญาณ “เตือน” ให้ ตระหนักในพื้นฐานอันเริ่มขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคม 2566
ยืนยันเจตจำนงเดิมที่ไม่ต้องการเห็นบทบาทของ นายพิชิต ชื่นบาน ในฐานะรัฐมนตรีซึ่งแสดงออกอย่างแจ้งชัดในเดือนกันยายน 2566 จะต้องไม่เกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคม 2567
เท่ากับเป็นการเตือนให้เพิ่มความระมัดระวังในแต่ละจังหวะก้าวทางการเมืองว่ามีขอบเขตและที่รับไม่ได้ว่าอยู่ตรงไหนจะแสดงความฮึกห้าวเหิมหาญมิได้อย่างเด็ดขาด
ถามว่าแล้ว “ปฏิกิริยา” จากทางด้านของพรรคเพื่อไทยดำรงอยู่และดำเนินไปอย่างไร คำตอบเหมือนกับ ”ถอย” แต่มิได้ถอยอย่างยะย่ายพ่ายจะแจ
พรรคเพื่อไทยยังใช้กลยุทธ์เดียวกันกับที่พรรคไทยรักไทยเคยปฏิบัติหลังการเลือกตั้งเดือนกุมภาพันธ์ 2548 และพรรคเพื่อไทยเคยปฏิบัติหลังการเลือกตั้งเดือนกรกฎาคม 2554
นั่นคือ ด้านหนึ่ง แสดงออกเหมือนต้องการ “ถอนฟืนออกจากใต้กระทะ” เห็นได้จากการลาออกของ นายพิชิต ชื่นบาน
ขณะเดียวกัน ด้านหนึ่ง แสดงออกให้เห็นว่ามิได้สยบยอมด้วยกระบวนท่าอันเชื่องเชื่อ ตรงกันข้าม มีเขี้ยวคมโต้กลับไปด้วย ความแข็งเข้มระนาบเดียวกัน
สัมผัสได้จากแถลงการณ์พรรคเพื่อไทย “10 ปีที่ผ่านไป จากรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557” ยุติวงจรรัฐประหารด้วยรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน”
ไม่เพียงแต่มาจากระดับรองหัวหน้าพรรค โดยโฆษกพรรค หากยังประสานกับโฆษกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
ยืนยันว่าทำไมกระทรวงกลาโหมจึงยังอยู่ในมือพรรคเพื่อไทย
หากนำเอาท่าทีของพรรคเพื่อไทยไปวางเรียงอยู่เคียงกับท่าทีของพรรคก้าวไกลสัมผัสได้ในรูปธรรมแห่งพันธมิตรของแนวร่วม
ในที่สุดแล้ว “เนื้อหา” รัฐธรรมนูญฉบับประชาชนเป็นอย่างไร
ไม่ว่ามองปฏิบัติการของพรรคเพื่อไทย ไม่ว่ามองจังหวะก้าว ของพรรคก้าวไกล ในวาระแห่ง 10 ปี รัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 ยืนยันชัดเจนว่าบทสรุปแทบไม่แตกต่างกัน
นี่คือ “ปฏิกิริยา” ในอีกด้านของพรรคเพื่อไทย เท่ากับเป็นการส่งสัญญาณโต้กลับไปยัง “วงจรอุบาทว์” แห่งระบอบรัฐประหาร
