เคาะแก้ประชามติ 6 ประเด็น ชงครม.สัปดาห์หน้า นิกร มั่นใจได้รธน.ใหม่สมัยสภาชุดปัจจุบัน

เคาะแก้ประชามติ 6 ประเด็น ชง ครม.สัปดาห์หน้า นิกร มั่นใจทันส่งสภา 18 มิ.ย. พร้อมเปิดไทม์ไลน์เริ่มครั้งแรกปลายปี’67 ก่อนลุยแก้ ม.256  รอบ 2 ก.พ.68 มั่นใจ ได้ รธน.ใหม่สมัยรัฐสภาปัจจุบัน

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 23 พฤษภาคม ที่รัฐสภา นายนิกร จำนง โฆษกคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติ เพื่อแก้ไขความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 เปิดเผยว่า คณะกรรมการได้พิจารณาเนื้อหาการเสนอแก้ไข พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ (ฉบับที่…) พ.ศ. … ของรัฐบาล เบื้องต้นได้จัดทำเนื้อหาแล้วเสร็จ และเตรียมเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติ ในวันที่ 28 พ.ค.นี้ ซึ่งเชื่อว่าจะเสนอทันเข้าร่วมในการพิจารณาของสภาสมัยวิสามัญในวันที่ 18 มิ.ย.นี้

นายนิกรกล่าวต่อว่า สำหรับหลักการสำคัญของร่าง พ.ร.บ.ประชามติของรัฐบาลนั้น มีการแก้ไขเนื้อหามี 6 ประเด็น คือ 1.กำหนดให้การออกเสียงประชามติเป็นวันเดียวกันกับการเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วไป หรือเลือกตั้งท้องถิ่น เนื่องจากดำรงตำแหน่งครบวาระ 2.เพิ่มช่องทางการออกเสียงสามารถทำผ่านบัตรออกเสียง หรือไปรษณีย์ เครื่องออกเสียงอิเล็กทรอนิกส์ ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือวิธีอื่น โดยเขตออกเสียงสามารถใช้วิธีเดียวกันหรือหลายวิธีได้ 3.แก้ไขเกณฑ์ว่าด้วยการผ่านประชามติ ให้ใช้เสียงข้างมากของผู้มาออกเสียง โดยคะแนนเสียงข้างมากดังกล่าวต้องสูงกว่าคะแนนเสียงที่ไม่แสดงความเห็นในเรื่องที่ออกเสียงประชามติ หรือโหวตโน 4.ให้ กกต.เผยแพร่กระบวนการและขั้นตอนประชามติอย่างทั่วถึง และให้มีการแสดงความเห็นอย่างอิสระเท่าเทียมทั้งผู้ที่เห็นชอบและไม่เห็นชอบกับเรื่องที่จัดทำประชามติ ทั้งนี้ เพื่อแก้ไขประเด็นที่เคยเป็นปัญหากรณีที่ผู้ที่ไม่เห็นด้วยไม่มีช่องทางการแสดงความเห็น 5.ให้ กกต.กำหนดเขตออกเสียง ที่สามารถใช้เขตประเทศ เขตจังหวัด เขตอำเภอ เขตเทศบาล เขตตำบล เขตหมู่บ้านหรือเขตอื่นเป็นเขตออกเสียงได้ และ 6.ให้ใช้หน่วยเลือกตั้งเดียวกันกับการเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วไป หรือเลือกตั้งท้องถิ่นกรณีที่ครบวาระได้

“ผมเชื่อว่า ครม.จะส่งร่างแก้ไขกฎหมายประชามติ ต่อสภา ได้ทันการพิจารณาในสมัยประชุมวิสามัญ วาระแรกวันที่ 18 มิ.ย.นี้ เชื่อว่าการพิจารณาจะเป็นไปด้วยดี ก่อนจะตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาให้เสร็จภายในกรอบเวลา 45 วัน โดยไม่มีปัญหาเพราะฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านได้คุยร่วมกันแล้วและไม่มีขัดแย้ง จากนั้นในการพิจารณาวาระสองและวาระสาม จะทำได้ในช่วงปลายเดือน ก.ค. ก่อนจะส่งให้ ส.ว.พิจารณาโดยใช้เวลา 1 เดือน และคาดว่าจะเสร็จในเดือน ส.ค.” นายนิกรกล่าว

Advertisement

เมื่อถามว่าไทม์ไลน์ของการออกเสียงประชามติ ต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเป็นอย่างไรบ้าง นายนิกรกล่าวว่า หลังจากที่แก้ไขกฎหมายประชามติแล้วเสร็จและประกาศใช้ จะมีการกำหนดวันออกเสียงประชามติโดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อีกครั้ง ต่อการออกเสียงประชามติตามคำถามที่ ครม.เห็นชอบแล้ว ทั้งนี้ ยังกำหนดไม่ได้เนื่องจากต้องรอการพิจารณาของสภาให้เสร็จก่อน อย่างไรก็ตามหากจะเร่งกันทำให้เสร็จ การออกเสียงประชามติครั้งแรก อาจจะเกิดขึ้นในปลายปี 2567 เมื่อผ่านแล้วจะเข้าสู่กระบวนการแก้มาตรา 256 ว่าด้วยกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เบื้องต้นคาดว่าจะทำได้เสร็จและนำไปออกเสียงประชามติครั้งที่สอง ทันกับการเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งใหญ่ในเดือน ก.พ.68 ซึ่งตนเชื่อว่าในสมัยรัฐสภาปัจจุบันจะได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่

เมื่อถามว่ามีโอกาสจะทบทวนคำถามที่นำไปออกเสียงประชามติหรือไม่ นายนิกรกล่าวว่า ทำไม่ได้ เพราะ ครม. ออกเป็นมติแล้ว อีกทั้งตนมองว่าในประเด็นการแก้ไขหมวด 1 และหมวด 2 หากจะแก้ไข ควรทำประชามติเป็นการเฉพาะเรื่องอีกครั้ง โดยไม่ควรนำมารวมกับการรื้อใหญ่เพื่อทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แม้ว่าการเว้นการแก้ไขหมวด 1 หมวด 2 จะเป็นปัญหาบ้าง แต่หากไม่เว้นเชื่อว่าจะมีปัญหามากกว่า

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image