ทักษิณ บอกสังคมก็รู้ใครอยู่เบื้องหลัง 40 ส.ว. ลั่นล้มรบ.ยาก ดึง ‘สุวัจน์’ ร่วมแกนนำเพื่อไทย
เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้อง 40 ส.ว. วินิจฉัยคุณสมบัติของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ทำให้มองกันว่ามีกระบวนการวางยาพรรคเพื่อไทย (พท.) ว่า ในพรรค พท.ไม่มีปัญหาแน่นอน แต่ภายนอกการเมืองก็ยังเป็นการเมือง มีความลี้ลับอยู่พอสมควร ส่วนใหญ่เราจะดูความเคลื่อนไหว เพราะประเทศไทยใครเคลื่อนไหวอะไรจะรู้ว่าคนนี้เป็นคนของใคร เคลื่อนไหวด้วยเหตุอะไร แต่แน่นอนในฐานะนายกรัฐมนตรีก็มีหน้าที่ต้องตอบ ท่านต้องเตรียมตอบคำถามของท่าน และไม่ว่าใครจะเคลื่อนไหวอย่างไรก็แล้วแต่ หากเราไม่ได้ทำอะไรผิดก็ชี้แจง
เมื่อถามว่า นักวิชาการให้จับตานายใหญ่ที่จะเช็กบิล 40 ส.ว.นั้น นายทักษิณร้อง “โอ๊ะ” ก่อนจะกล่าวว่า “ผมจะไปมีสิทธิอะไร วันนี้ผมเป็นคนแก่คนหนึ่งที่ให้คำปรึกษารุ่นน้องๆ ให้ช่วยกันให้บ้านเมืองเจริญดีกว่า ก็คงไม่มีน้ำยาอะไรหรอก แก่แล้ว”
เมื่อถามว่า จากประสบการณ์มองว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่ม 40 ส.ว.มีเบื้องหลังจากกลุ่มอำนาจไหน นายทักษิณกล่าวว่า สังคมการเมืองเขารู้ว่าใครเป็นคนของใคร อย่างไร เป็นเรื่องธรรมดา มีเช่นนี้มาช้านานแล้ว
เมื่อถามว่า เป้าหมายคือการล้มนายเศรษฐาเลยหรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า คงไม่ถึงขั้นล้มได้ แต่อาจเป็นการสร้างความวุ่นวาย บ้านเมืองชะงักบ้าง เป็นเรื่องธรรมดา แต่มองว่าจะไม่มาก เพราะหากชี้แจงได้ก็ไม่เป็นอะไร
เมื่อถามว่า บางฝ่ายยังมองว่าเป้าหมายของการเคลื่อนไหวครั้งนี้คือนายทักษิณ ทำให้ นายทักษิณย้อนถามสื่อว่า “จะเล่นงานผมน่ะหรือ โอ๊ย ผมไม่มีอะไรให้เล่นแล้ว แก่แล้ว ต่างคนต่างอยู่เถอะ”
เมื่อถามต่อว่า กรณีนี้พรรค พท.ต้องเตรียมรับมืออะไรบ้าง นายทักษิณกล่าวว่า “ไม่มีอะไรครับ ก็ทำอะไรให้ถูกต้อง ไม่เป็นไร ไม่ต้องไปหวั่นไหวมาก”
เมื่อถามว่า ได้เตรียมความพร้อมให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ดำรงตำแหน่งแทนหรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า อยากให้นายกฯนิดอยู่ให้ได้นานที่สุด เพราะงานกำลังเข้าที่ ต้องใช้เวลา ทุกอย่างคือรับช่วงจากรัฐบาลทหาร แล้วก็มีโควิด 3 ปี เหตุการณ์บ้านเมือง การแก้ปัญหามันไม่ง่าย ก็ต้องอดทน แล้วก็ต้องให้ประชาชนต้องอดทนด้วยว่าต้องใช้เวลาอีกหน่อย ไม่มีใครนิ่งนอนใจ
เมื่อถามว่า การยื่นศาล รธน.ครั้งนี้เหมือนเป็นการออกมาปรามการออกมาเคลื่อนไหวของท่าน นายทักษิณกล่าวว่า “ไม่เกี่ยวหรอกครับ ผมไม่มีตำแหน่งหน้าที่อะไร ผมมีแค่การให้คำปรึกษา”
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า วันเดียวกัน นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา ได้เป็นเจ้าภาพจัดเลี้ยงต้อนรับนายทักษิณและคณะ ขณะเดินทางมาที่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ที่ภัตตาคารอาหารเสียวเสี้ยว โดยจัด 40 โต๊ะรับประทาน รวมกว่า 400 ที่นั่ง
นายสุวัจน์ได้กล่าวต้อนรับ พร้อมชมว่า จ.นครราชสีมา ได้รับการพัฒนามาเป็นเมืองใหญ่ในทุกวันนี้จาก 2 นายกรัฐมนตรีคือ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ และนายทักษิณ แล้ววันนี้ก็ได้ฝากฝังสินค้าซอฟต์พาวเวอร์มากมายใน จ.นครราชสีมา เพื่อให้พรรคเพื่อไทยได้ช่วยผลักดันต่อ
ต่อมานายทักษิณกล่าวกับผู้ที่มาร่วมงานตอนหนึ่งถึงสถานการณ์ทางการเมืองว่า ดีใจที่มาพบเพื่อนๆ คนเก่าคนแก่ อย่างนายสุวัจน์รู้จักกันมาตั้งแต่พรรคปวงชนชาวไทย และนายสุวัจน์เป็นคนซื่อและรัก พล.อ.ชาติชายมาก รู้สึกว่าพรรคชาติพัฒนาเหมือนมรดกที่ต้องดูแลต่อ ทำให้ยังอยู่ที่พรรคชาติพัฒนา และอีกคนที่ต้องขอบคุณคือ นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ที่วันนี้มีลูกเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พ่อจึงต้องหลบไปก่อน นายวีรศักดิ์ทำการเมืองที่โคราชจนตนตกใจ ลูกหลานเป็น ส.ส.กันหมด มีภรรยาเป็นนายก อบจ. ทำให้เห็นว่าเอาจริงเอาจังเป็นอย่างมาก ถือเป็นกำลังสำคัญของพรรคเพื่อไทย
นายทักษิณยังกล่าวอีกว่า “เดี๋ยวนายสุวัจน์ก็จะมาเป็นกำลังสำคัญของพรรคเพื่อไทย” ทำให้เรียกเสียงฮือฮาของผู้ร่วมงาน จากนั้นนายทักษิณกล่าวต่อว่า ที่พูด พูดแทนลูก เพราะ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้ช่วยลิปซิงค์ เนื่องจากอายุน้อย ไม่กล้าชวนตรงๆ เลยบอกให้พ่อลิปซิงค์ และขอขอบคุณทุกท่านที่ให้เกียรติมาต้อนรับและมาทานข้าวด้วยกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายทักษิณพูดชักชวนนายสุวัจน์บนเวที น.ส.แพทองธารที่นั่งอยู่ด้านล่างได้กระซิบว่า “ชวนหลังไมค์แล้ว”
